เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ อิงค์ ได้รายงานผลประกอบการและยอดรายได้จากการขายโฆษณา ซึ่งทำได้ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีแนวโน้มที่จะลดต่ำลงเนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่ยุติ ท้้งหมดนี้จะกลายเป็นปัญหาที่ ‘อีลอน มัสก์’ จะต้องแก้ไข้ เมื่อเขาเข้ามาเป็นเจ้าของทวิตเตอร์อย่างสมบูรณ์

บริษัทยังรายงานว่าในไตรมาสที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ใช้งานรายใหม่เพิ่มขึ้น 12 ล้านบัญชี ซึ่งเป็นยอดสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงที่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด ซึ่งมีผลทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทในตลาดหุ้นเช้าวันนี้เพิ่มขึ้นราว 0.6% 

คาดว่ารายงานผลประกอบการดังกล่าวจะเป็นรายงานฉบับสุดท้ายของบริษัทในฐานะบริษัทมหาชน ในขณะที่มูลค่าหุ้นในตลาดซึ่งยังคงต่ำกว่าราคาเสนอซื้อของ มัสก์ ถึง 11% 

แฮริส อันวาร์ นักวิเคราะห์อาวุโสของเว็บไซต์ Investing.com กล่าวว่า อีลอน มัสก์ ซื้อทวิตเตอร์ในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังดิ้นรนเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานใหม่ ๆ ตามกระแสที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเกิดโรคโควิด-19 ระบาด

นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง ทวิตเตอร์ก็มียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 1 ล้านบัญชีจนถึง 7 ล้านบัญชี หลังจากที่มีผู้ใช้งานประจำวันในอัตรา 20 ล้านบัญชี ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 

บริษัทจำเป็นต้องเพิ่มยอดผู้ใช้งานอย่างน้อย 12 ล้านบัญชีทุก ๆ ไตรมาสจนถึงสิ้นปีหน้า เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายสำหรับปี 2566 ที่ตั้งไว้แต่เดิม ซึ่งขณะนี้อาจเปลี่ยนไป เมื่อมีการเปลี่ยนมือเจ้าของบริษัท

ทวิตเตอร์โดนวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดเรื่องการปรับปรุงบริการที่เชื่องช้า มัสก์ เองก็เคยทวีตให้คำแนะนำว่าควรเพิ่มปุ่มแก้ไขข้อความไปจนถึงการเปิดให้คนภายนอกเข้ามาปรับปรุงระบบอัลกอริทึมของทวิตเตอร์ได้

เมื่อไหร่ที่ มัสก์ ปิดดีลได้สำเร็จสมบูรณ์จริง ๆ เขาจะต้องเข้ามาพิจารณาภาพรวมของบริษัทซึ่งมีปัญหาภายในระบบมาเป็นระยะเวลายาวนาน รวมถึงการขาดความน่าเชื่อถือและการตัดสินใจที่เด็ดขาด

ยอดรายได้รวมในไตรมาสแรกของทวิตเตอร์คือ 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 41.2 ล้านล้านบาท) บริษัทระบุในการแถลงข่าวว่า สงครามในยูเครนเป็นปัจจุัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของรายได้

ทวิตเตอร์มีรายได้ส่วนใหญ่จากการขายโฆษณาบนเว็บไซต์และแอพ แต่ได้ระงับการโฆษณาในยูเครนและรัสเซียตั้งแต่เดือน ก.พ. เป็นต้นมา หลังจากที่เกิดสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน นอกจากนี้ยังต้องประสบภาวะเงินเฟ้อในอัตราสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ

มัสก์ กล่าวว่าทวิตเตอร์ไม่ควรรับใช้แต่ลูกค้าที่ลงโฆษณา ซึ่งจะทำให้แพลตฟอร์มมีอำนาจในการควบคุมคอนเทนต์มากขึ้น ตามปกติแล้ว ผู้ลงโฆษณามักจะพอใจการกลั่นกรองคอนเทนต์ที่เข้มงวด เพื่อช่วยปกป้องสินค้าและบริการของพวกเขาไม่ให้ปรากฏร่วมกับคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสม

เครดิตภาพ : Reuters