ขนาดวรรณคดี รามเกียรติ์ คนรุ่นใหม่ยังตีความกลายเป็นอีกด้านของเหรียญ แล้วก็น่าคิดมากด้วย เมื่อ “พระราม” ทำศึกชนะ “ทศกัณฐ์” แย่งเอา “นางสีดา” พระมเหสีสุดรักคืนมาในอ้อมอก แต่เพราะนางถูกทศกัณฐ์ลักพาตัวไปอยู่ด้วยเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความสงสัยถึงความบริสุทธิ์ จนนางสีดาต้องตัดสินใจลุยไฟเพื่อเกียรติของพระสวามี กลายเป็น “สีดาลุยไฟ” อันลือเลื่องซาบซึ้งใจ

แต่คนรุ่นใหม่หาคิดเช่นนั้นไม่ นี่เป็นความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจของพระราม ทั้งที่พระมเหสีคือ “ผู้ถูกกระทำ” ทศกัณฐ์ ทำศึกชนะลักพาตัวนางไปโดยนางมิได้ยินยอมพร้อมใจแม้แต่น้อย แถมพระรามเองก็ปกป้องนางไม่ได้ด้วย แทนที่ได้ตัวพระมเหสีกลับมา จะดูแลรักษาเกียรติยศ ให้ความเชื่อใจในฐานะสวามี กลับ “ย่ำยีซ้ำสอง” ด้วยการให้ “นางสีดาลุยไฟ” ต่อหน้ามวลหมู่เทวดาอีก

ไม่แมนเลย ไม่ควรที่หญิงใดจะเอาพระรามมาทำผัวเลย?!?

จากนางสีดาลุยไฟมาถึงกรณีช็อกโลก เมื่อ ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด เปิดเผย มีผู้หญิงทยอยมาร้องเรียนว่า ถูก นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รอง หน.พรรค, ประธานทีมเศรษฐกิจทันสมัยหรือทีม “แอดเวนเจอร์” และ ผอ.การเลือกตั้งผู้ว่าฯ และ ส.ก.กทม. ของประชาธิปัตย์ กระทำย่ำยีทางเพศ ทั้งอนาจาร ลวนลาม และถึงขั้นข่มขืนกระทำชำเรากว่า 20 คน (อาจถึงร้อย) อายุ 18-40 ปี ต่างกรรมต่างวาระ จนกลายเป็นข่าวฉาวโฉ่สุดในรอบ 70 ปีของประชาธิปัตย์ ก็ว่าได้

ทนายตั้ม" บอกอดทนหน่อยไม่นานความจริงจะปรากฎ - โพสต์ทูเดย์ สังคมทั่วไป

นายปริญญ์ ยอมลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรค หวังตัดไฟไม่ให้โหมลุกไหม้พรรคจนแหลกเป็นจุล แต่ในไลน์กลุ่มผู้นำ ปชป.เริ่มมีการเรียกร้องให้ตรวจสอบจริยธรรมผู้บริหารพรรค

ที่ฮือฮาสุด คือโพสต์ของมอลลี่ มัลลิกา บุญมีตระกูล ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ แฉแหลกเรื่องคาวโลกีย์ในพรรคจนตื่นตะลึงทั้งประเทศ ทั้งกิ๊ก ทั้งชู้ เอาเสื้อไปแขวนในรถผัวคนอื่น ให้ผัวคนอื่นมารับที่บ้าน เปลี่ยนชู้จนรู้กันทั้งบางว่า เป็น ส.ส.ในสภา อย่างนี้ไม่สอบจริยธรรมหรือ นั่นสิ!! บอกตรง ๆ พลอยทำให้ผู้คนไพล่คิดไปถึงพฤติกรรมเก่า ๆ ของผู้ใหญ่ในพรรคบางคนทั้งที่ยังอยู่และออกไปแล้วอย่างช่วยไม่ได้ มิน่า ได้แต่อ้ำๆ อึ้ง ๆ เพราะขว้างงูไม่พ้นคอ รู้กันทั้งบาง

ปริญญ์ แค่ผู้มาทีหลัง แต่ฉาวกว่า  

จนถึง 19 เม.ย. มีผู้หญิงเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี แล้ว 14 คน ที่เชียงใหม่ อีก 1 และเพชรบุรี อีก 2 ผู้หญิงที่หาญกล้าทวงศักดิ์ศรี คนแรกคือ นศ.อายุ 18 ปี ถูกล่วงละเมิด เมื่อต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ในโรงแรมแถวสุขุมวิท และได้แจ้งความที่ สน.ลุมพินี เมื่อ 12 เม.ย. หลังจากนั้นก็เหมือนเขื่อนแตก ในจำนวนนี้มี แอนนา หทัยรัตน์ ภรรยาของไฮโซ ลูกนัท-นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย เป็น 1 ในผู้ถูกกระทำ และกล้าหาญเปิดเผยตัวด้วย นับแต่เดินทางไปแจ้งความจนถึงไปชี้จุดเกิดเหตุ ประชาชนได้เห็นนายธนัตถ์จับมือภรรยาไม่ยอมปล่อย เดินเคียงข้างอย่างมั่นคง  

นี่คือ พระรามยุคใหม่ ที่มาพร้อมสีดายุคใหม่

จะมีที่ย่ำเท้าอยู่กับที่ก็บางคนในพรรคแมลงสาบที่ไม่ตื่นรู้ คิดว่า ผู้หญิงอับอาย หาหลักฐานยาก แค่กลั่นแกล้งทางการเมือง หรือจ่ายเงินก็จบ จึงยังโพสต์ทำนอง ผู้หญิงบางคนไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นนักล่างี้ (แล้วไปให้เค้าล่าทำไม) ตบมือข้างเดียวไม่ดังงี้ เกิดตั้งนาน รู้สึกช้างี้ ยกย่องเชิดชูที่นายปริญญ์มีสปิริต รักษามาตรฐาน เสียสละรับผิดชอบ โดยไม่เอ่ยถึงผู้หญิงที่ถูกกระทำแม้แต่คำเดียว ช่างไม่รู้ถึงกระแสสังคมที่โกรธแค้นและต้องการให้ผู้นำพรรคออกมาแสดงความรับผิดชอบและขอโทษสังคมอย่างเป็นทางการแม้แต่น้อย

ล่าสุด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคพร้อมทีมผู้บริหารออกมายืนยันไม่ก้าวก่ายทางคดี อ้างไม่ต้องการทิ้งปัญหาให้คนอื่นมาตามแก้ ขอแก้เองต่อ แต่ลาออกจาก 2 ประธานบอร์ด รบ. ที่เกี่ยวกับเรื่องสิทธิสตรี-ต่อต้านการคุกคามล่วงละเมิดทางเพศ ขอโทษนายกฯ ที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า แต่ไม่ยักค้อมกาย “ขอโทษประชาชน” ทั้งที่เป็นเรื่องต้องทำ และแม้ในฐานะที่พานายปริญญ์เข้าพรรค ก็ไม่ลาออกจากหัวหน้าพรรคด้วย บอกตรง ๆ ผิดหวัง แต่ไม่ผิดคาด

สรุป ปชป.พร้อมลุยไฟไปกับ รบ.เผด็จการ ทั้งที่เคยบอกว่าเป็น “ประชาธิปไตยวิปริต” และพร้อมลุยไฟกับกระแส “ปริญญ์เอฟเฟกต์” ทั้งที่ขึงขังต่อต้านการล่วงละเมิดและชูความเท่าเทียมทางเพศ

นี่คือสิ่งที่ ปชป.เลือก จะสะเทือนถึงดวงดาวแค่ไหน ก็คอยดูกัน…ต่อไป ?!?.

——————-
ดาวประกายพรึก