เนื่องจากกระทรวงถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2544 หน่วยงานนี้จึงเป็นตัวขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางสังคมสำหรับผู้หญิงชาวเกาหลีใต้ ยกตัวอย่างเช่น การทำให้แม่เลี้ยงเดี่ยวสามารถจดทะเบียนบุตรในชื่อของพวกเธอนั้นเป็นไปได้
ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา กระทรวงกลายเป็นจุดเกิดความรุนแรงในการถกเถียงเรื่องการเหยียดเพศและเพศสภาพมากยิ่งขึ้น โดยผู้กล่าวร้ายอย่าง ว่าที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซอก-ยอล อ้างว่า กระทรวงคือความไม่เจริญและล้าสมัยของ “สตรีนิยมหัวรุนแรง”
อย่างไรก็ตาม ผู้สนับสนุนของกระทรวง ชี้ถึงบันทึกสถิติของนโยบายสวัสดิการด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนตัดที่หลากหลายของสังคม ตั้งแต่วัยรุ่นที่หนีออกจากบ้าน ไปจนถึงบุตรของผู้ที่หลบหนีออกจากประเทศเกาหลีเหนือ
“วันหนึ่ง สามีเก่าของฉันย้ายออกไปและไม่กลับมาอีกเลย” จิน มี-แอ แม่เลี้ยงเดี่ยวรายหนึ่งกล่าวเพิ่มเติมว่า อดีตสามีของเธอปฏิเสธการให้เงินช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตรของพวกเขา
การไม่จ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรถือว่าผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ แค่ปีที่แล้ว ผู้ปกครองซึ่งมีสิทธิจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ยังคงไม่ได้รับเงินในส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามหลายอย่างของกระทรวง ทำให้ตอนนี้มีกลไกต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือแล้ว
จินทำเรื่องส่งฟ้ององค์กรช่วยเหลือเด็ก ที่จัดตั้งโดยกระทรวง เมื่อปี 2558 และความว่าความช่วยเหลือนี้มีความสำคัญต่อการให้อดีตสามีกลับมาช่วยเหลือ
ยุน กล่าวว่า เขาจะไม่ผิดสัญญาในคำรับปากเรื่องการยุบกระทรวงของเขา แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมงานถ่ายโอนอำนาจของเขาระบุว่า พวกเขาจะเก็บกระทรวงไว้เหมือนเดิมไปก่อน
การยุบกระทรวงจำเป็นต้องใช้การออกกฎหมายเพื่อจัดระบบรัฐบาลใหม่ ซึ่งเป็นคำขอที่ยาก เนื่องจากยุนไม่มีคะแนนเสียงส่วนมาก
“การปะทะที่อาจจะเกิดขึ้นที่สภาแห่งชาตินั้น อาจทำให้ภาพลักษณ์ของคณะบริหารชุดใหม่ต้องแปดเปื้อน” ชิน ยุล อาจารย์รัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยมยองจิ กล่าว
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในเดือน มิ.ย. มันน่าจะเป็นไปไม่ได้ที่พรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ของยุน จะทุ่มทุนทางการเมืองไปกับการต่อสู้ทางกฎหมายที่บอบช้ำ และต้องหยุดประเด็นปัญหานั้นไว้ “ชั่วคราว”
ในตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดหวังให้ยุน “ปรับเปลี่ยน” มากกว่ายุบกระทรวงทิ้ง โดยชี้ว่าชัยชนะของเขาทำให้สายตาทั่วโลกหันกลับมามองเรื่องเพศนิยมในประเทศอีกครั้ง
“เกาหลีใต้ไม่ได้อยู่ในภาวะสุญญากาศ” ลินดา ฮะสุนุมะ นักรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเทมเปิล ให้ความเห็น “โลกกำลังจับตามองการกระทำต่อผู้หญิงและเด็กสาว”.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
