“ธาตุแท้ของมิตรที่ไม่จริงใจ มักแสดงออกมาในวันที่เราหมดผลประโยชน์”
เริ่มจะกลับมาน่าเป็นห่วงขึ้นอีกแล้ว หลังจากมีเหตุขึ้นติดๆ กันภายในไม่กี่วัน สำหรับคดีใช้ปืนบุกชิงทองในร้านทอง กวาดทองรูปพรรณไปจำนวนมาก แม้ว่าจะมีผู้คนประชาชนพลุกพล่านอยู่ก็ตาม
คดีแรก เป็นเหตุชิงทรัพย์ ร้านทองเยาวราช ภายในห้างโลตัส ริมถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล้องวงจรปิดในร้านจับภาพ คนร้ายเป็นชายผอมสูง สวมหมวกแบบไอ้โม่ง ปรี่เข้ามาในร้านพร้อมชักปืนข่มขู่พนักงานร้าน
มันบุกก่อเหตุโดยไม่สนใจลูกค้ารายอื่นๆ เลย จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนเคาน์เตอร์ก่อนดึงเอาแผงใส่ทองออกมา 1 แผง จากนั้นก็วิ่งออกจากร้านไปทันที ใช้เวลาในการก่อเหตุไม่เกิน 10 วินาที ท่ามกลางเสียงกรีดร้องวิ่งหนีกันอลหม่าน คนร้ายได้สร้อยคอทองคำไป 1 ถาด น้ำหนักรวม 153 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
ไม่กี่วันถัดมา ศาลจังหวัดนครราชสีมา อนุมัติหมายจับคนร้ายคือ นายกิตติพงษ์ แพไธสง หรือเบส อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นอดีตทหารด้วย ส่วนอาวุธปืนยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นปืนจริงหรือปลอม ก่อนที่ตำรวจจะสืบสวนจนสามารถบุกไปจับกุมตัวไว้ได้ หลังเผ่นหนีไปกบดานแถวพัทยา จ.ชลบุรี
ส่วนประวัติอาชญากรรมพบว่า “นายเบส” เคยถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุมพร้อมพวกรวม 7 คน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 เหตุเกิด ถนนวิภาวดีรังสิต มีพฤติการณ์ส่งมอบไอซ์ 11 กิโลกรัม และยาบ้า 6,000 เม็ด โดยถูกแจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดประเภท 1 เพื่อจำหน่าย ถูกจำคุกก่อนพ้นโทษออกมาจี้ชิงทองดังกล่าว
ถัดมาไม่กี่วันก็เกิดคดีที่สอง เมื่อตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุปล้นร้านทอง “ห้างทองยั่งฮับเต็ง แอนด์ จิวเวลรี่” ภายในห้างย่าน ถนนหนองจิก ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของอย่างมาก
จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้ชิงสร้อยคอทองคำที่แขวนโชว์ไว้ในตู้ของร้านไป 9 เส้น น้ำหนักประมาณ 13 บาท และพบสร้อยคอที่คนร้ายทำตกอยู่ที่พื้น 1 เส้น
กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้ชัดเจน สูงประมาณ 170 ซม. ใส่เสื้อและกางเกงสีดำ สวมหมวกแบบปีก ใส่แว่นตา และหน้ากากอนามัยปกปิดใบหน้า เดินวนไปมาบริเวณหน้าร้านทองหลายรอบ ซึ่งพนักงานร้านทองเห็นผิดสังเกตก็ได้แจ้ง รปภ.แล้ว แต่ปรากฏว่าคนร้ายใช้จังหวะนั้นจึงชักปืนขนาด 9 มม. ออกมาข่มขู่ก่อน
จากนั้นก็บุกกระชากสร้อยคอทองคำยกแผงที่แขวนโชว์ในตู้ ก่อนจะวิ่งหนีออกไปจากห้าง ขณะนั้น รปภ.ห้างได้ไล่ตามและเกือบจะจับตัวได้ แต่คนร้ายใช้ปืนจ่อขู่จะยิงจน รปภ.ต้องกระโดดหลบ ก่อนที่จะวิ่งหนีขึ้นรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีดำ หลบหนีไปตามเส้นทางในตัวเมืองปัตตานี
นี่เป็น 2 เหตุการณ์อุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นในเวลาไม่กี่วัน ด้วยสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ขนาดนี้ ด้วยสถานการณ์โควิดแบบนี้ ด้วยความที่รายรับสู้รายจ่ายไม่ได้ ทำให้น่าเป็นห่วงและน่ากังวลว่า คดีบุกชิงทองในร้านทองจะเกิดขึ้นติดๆ กันตามมาอีกหรือไม่.
ตำรวจชุมชนสัมพันธ์
ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ
ตำรวจทางหลวงขอนแก่น ระดมพลรถวิทยุสายตรวจกว่า 16 คัน โดยมีตำรวจทางหลวงเป็นหลักระบายรถเดินทางกลับ พ.ต.อ.อนุรัตน์ ฉิมทิม ผกก.4 บก.ทล พ.ต.ท.ยุทธนัน จันทร์เนตร รอง ผกก.4 บก.ทล. ร่วมกันกำกับนโนบายความปลอดภัยเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย ช่วง 7 วันอันตรายทางพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ได้นำเครื่องดื่มชูกำลังมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และอาสาสมัครจราจรทางหลวงที่ร่วมปฏิบัติภารกิจทุกหน่วยบริการตำรวจทางหลวงอีกด้วย ส่วนในเขตพื้นที่รับผิดชอบของจังหวัดขอนแก่น พ.ต.ท.บดินทร์ ชูเฉลิม สว.ส.ทล.2กก.4 บก.ทล.ขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา ได้เปิดเส้นทางการจราจรพิเศษขาลงขึ้นที่ถนนมิตรภาพ กม.259-266 ต.โนนข่า อ.พล จ.ขอนแก่น ขึ้นเพื่อระบายรถที่จะเดินทางกลับเข้า กทม.ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น แต่และจุดตลอดเส้นทางจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางคอยอำนวยความสะดวกการจราจรจัดระเบียบให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขึันได้ การอำนวยความสะดวกนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอด 24 ชม. ในปีนี้แบรนด์ซุปไก่สกัด จับมือ 5 พันธมิตรสานต่อแคมเปญ ขับขี่ปลอดภัย ง่วงไม่ขับ พักดื่มแบรนด์ ตามจุดบริการตำรวจทางหลวงในภาคอีสาน จัดแจกฟรี ที่หน้ากองกำกับการ 4 ตำรวจทางหลวง ขอนแก่น มีพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนที่ขับผ่านได้รับแจกกันทั่วหน้า ขอขอบคุณแบรนด์ซุปไก่สกัด ที่ร่วมกับกองบังคับการตำรวจทาง และอีกหลายหน่วยงานมีส่วนร่วมกิจกรรมแจกฟรีในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้
อำนวยความสะดวก
พ.ต.ท.ศรายุทธ ศรีมัญจาบุรี สว.สภ.บ้านแก้ง จว.ชัยภูมิ ตรวจเยี่ยมจุดตรวจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ก่อนมอบผ้าเย็น น้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เดินทางกลับเมืองหลวง กลับมาทำงานตามปกติ หลังจากหยุดยาวในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ประชาชนชาวอีสานได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งตลอด 7 วันอันตรายที่ผ่านมา พื้นที่ สภ.บ้านแก้ง พบอุบัติเหตุลดลงจากเดิม เนื่องจากการตั้งด่านหลักและด่านรอง รวมถึงการรณรงค์ดื่มไม่ขับอย่างจริงจัง
คุมงานตลอดเทศกาล
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาต้องปรบมือให้ทุกพื้นที่ที่มีมาตรการเข้มช่วง 7 วันอันตราย “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ถึงแม้นจะมีอุบัติเหตุ 11 ครั้งบาดเจ็บ 12 ราย (ชาย 9 ราย หญิง 3 ราย) เสียชีวิต 1 ราย (ชาย-ราย หญิง 1 ราย) แต่ก็ถือได้ว่าทำดีที่สุดแล้ว และที่ต้องยกนิ้วให้ถือได้ว่าสุดยอดไอเดียของ พ.ต.อ.สุขกวี ศรีอิสาณ ผกก.สภ.โนนสัง และ พ.ต.ท.วัชรา พาโส รอง ผกก.ป.สภ.โนนสัง ที่มอบหมายให้ พ.ต.ท.ภักดี พรมมา สวป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจิตอาสาอาสากู้ภัยโนนสัง นำเรือท้องแบนลาดตะเวนทางน้ำและเฝ้าสังเกตการณ์ทั้งบนบกบริเวณแหล่งท่องเที่ยวหาดโนนยาว ตำบลโคกใหญ่ อำเภอโนนสัง ที่มีนักท่องเที่ยวมาวันละ 500-1,000 คน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเล่นน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ด้วยความปลอดภัย เหนือท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่อำเภอโนนสัง ทำเอาคนเป็นใหญ่อย่าง พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสเสริฐ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ที่มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ลงกำกับอย่างใกล้ชิดทุกวันตลอดเทศกาล……งานนี้ไม่ปรบมือให้ก็มิใช่ละ.
*******************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป