เทศกาลสงกรานต์ปี 2565 คาดการณ์ว่าประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนามากกว่า 2 ปีที่ผ่านมา คนไทยต้องงดฉลองเทศกาลสงกรานต์เพราะสถานการณ์โควิด-19 โดยขอความร่วมมือให้ตรวจ ATK ก่อนพบปะญาติ แม้จะอุ่นใจ เรื่องวัคซีนเต็มแขนป้องกันโควิดได้ แต่ในเรื่องการเดินทางไม่ฉลุยเสียทีเดียวเมื่อราคาน้ำมันขยับขึ้นเกือบ 40 บาทต่อลิตร หลายคนเลือกที่จะใช้บริการรถสาธารณะแทนการขับรถส่วนตัว ออกต่างจังหวัด

ขณะที่การบริการรถสาธารณะ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้เตรียมรถไว้รองรับการเดินทางของประชาชนวันละ 3,700 เที่ยว รองรับประชาชน 40,000 คนต่อวัน โดยคาดว่าประชาชนทยอยเดินทางก่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์เพราะไม่ต้องการเจอผู้คนจำนวนมากเหมือนวันหยุดครั้งก่อน

การอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ตามนโยบาย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม โดย กรมทางหลวง (ทล.) ได้เตรียมแผนพร้อมบริการประชาชน ทั้งวันไปและวันกลับ จากการคาดการณ์ ข้อมูลปริมาณจราจรบนทางหลวงสายหลัก และทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) จำนวน 10 เส้นทาง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. รวม 7 วัน คาดว่าจะมีจำนวนรถเข้า-ออกกรุงเทพฯ รวม 6,666,102 คัน แบ่งเป็น ขาเข้า 3,340,181 คัน ขาออก 3,325,921 คัน

เมื่อเทียบกับช่วงสงกรานต์ปี 62 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่า มีปริมาณจราจรรวม 7,599,646 คัน ลดลง 12.3% แบ่งเป็นขาเข้า 3,826,677 คัน ลดลง 12.7% ขาออก 3,772,969 คัน ลดลง 11.8%

นอกจากนี้ประชาชนสามารถใช้บริการฟรีมอเตอร์ เวย์ หมายเลข 7 กรุงเทพฯชลบุรีพัทยามาบตาพุด, มอเตอร์เวย์หมายเลข 9 บางปะอินบางพลี และ มอเตอร์เวย์หมายเลข 9 พระประแดงบางขุนเทียน ตั้งแต่เวลา 00.01 . ของวันที่ 12 เม.. ถึงเวลา 24.00 . ของวันที่ 18 เม..

ส่วนประชาชนที่เดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดบน “ถนนมิตรภาพ” สามารถใช้บริการเดินรถชั่วคราว(ฟรี) มอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ช่วง ปากช่อง-สีคิ้ว-ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กม. ตั้งแต่วันที่ 11-18 เม.ย. เวลา 06.00-24.00 น. (โดยจัดการจราจรแบบเดินรถทางเดียว ช่วงเดินทางขาออกจากกรุงเทพฯ วันที่ 11-14 เม.ย. และช่วงเดินทางขาเข้ากรุงเทพฯ วันที่ 15-18 เม.ย. ) จากเดิมช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 วิ่งได้ในระยะทาง 36 กม. จากปากช่องถึงด่านสีคิ้วเท่านั้น

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ได้จัดตั้งจุดให้บริการทั่วไทย 423 แห่ง แบ่งเป็นจุดให้บริการทั่วไทย (โดยแขวงทางหลวง/กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ) 147 แห่ง จุดให้บริการตำรวจทางหลวง 201 แห่ง และจุดให้บริการสถานีตรวจสอบน้ำหนักและพักรถบรรทุก 75 แห่ง ภายในจุดบริการทั่วไทยจะมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการประชาชนผู้ใช้ทางตลอด 24 ชม. อาทิ การให้ข้อมูลเส้นทาง แนะนำเส้นทางเลือก บริการน้ำดื่มรวมทั้ง แอลกอฮอล์เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันและควบคุมเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมจัดเตรียมห้องน้ำสะอาดบริการประชาชน 581 แห่ง (ในพื้นที่หมวดทางหลวงทั่วประเทศ)

นายสราวุธ กล่าวอีกว่า ผู้ใช้ทางสามารถติดตามการรายงานสภาพจริงการจราจร Online แบบ Real time ผ่านแอพพลิเคชั่น M-Traffic (มอเตอร์เวย์)/Thailand Highway Traffic และเฟซบุ๊ก “ศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุกรมทางหลวง” อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือผู้ใช้ทาง “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ขับขี่ด้วยความระมัดระวังปฏิบัติตามกฎจราจร วางแผนการเดินทางล่วงหน้า เตรียมร่างกายให้พร้อม หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทาง สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฯ ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193

สำหรับการเฝ้าระวังอุบัติเหตุกรมทางหลวงได้มีหนังสือสั่งการไปที่แขวงทางหลวง แขวงทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง บันทึกข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุของวันที่ผ่านมาในระบบ HAIMS ภายในเวลา 07.00 น. ของวันรุ่งขึ้น (ข้อมูลอุบัติเหตุของวันที่ 11–17 เม.ย.) โดยรวบรวมข้อมูล จากศูนย์ปลอดภัยทางถนนจังหวัดหรือ ปภ.จังหวัด/กลุ่มกู้ภัย จังหวัด/ตำรวจในพื้นที่/สื่อออนไลน์ อื่น ๆ อุบัติเหตุทั่วไปให้รายงานใน “กลุ่มไลน์”

ให้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยให้มีความพร้อมในการออกปฏิบัติงาน เมื่อมีอุบัติเหตุหรือมีจราจรติดขัดสะสมบนเส้นทาง โดยร่วมกับตำรวจทางหลวง (ตร.ทล.)/ตำรวจท้องที่ นำรถตรวจการณ์ Mobile VMS (MVMS) มาใช้สำหรับบริหารจราจร เช่น จัดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) เพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงบริหารจัดการอุบัติเหตุ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ข้อมูล
ต่าง ๆ ด้วย

ขณะเดียวกันให้รายงานสภาพจราจรด้วยอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บันทึกเป็นไฟล์วิดีโอความยาวประมาณ 30-60 วินาที ในกลุ่มไลน์ ผู้บริหารกรมทางหลวง และทางเฟซบุ๊กแขวงทางหลวง ตามรอบเวลาตั้งแต่วันที่ 11-18 เม.ย. โดยให้ความสำคัญกับเส้นทางที่คาดว่าจะมีการจราจรติดขัดเช่น บริเวณต่างระดับบางปะอินช่วงลำตะคองและมอเตอร์เวย์สาย 6

พร้อมกันนี้หลังสิ้นสุดวันหยุด ให้แขวงทางหลวง สรุปการจราจรติดขัดบนทางหลวง (เช่น คอขวด) ตามแบบฟอร์มภายในวันที่ 20 เม.. เพื่อนำไปวิเคราะห์วางแผนแก้ไขปัญหาต่อไป

สวัสดีวันปีใหม่ไทยเทศกาลสงกรานต์ 65 เดินทางปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ ไร้โควิดทุกคน.