ผ่านไปใกล้จะครบ 1 เดือน กับการนำร่อง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวตามมาตรการที่วางเอาไว้ โดยเข้าพักในโรงแรมที่มีใบรับรองและสัญลักษณ์ SHA(Plus+) มาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64 ท่ามกลางสถานการณ์ของประเทศไทยที่กำลังฟันฝ่าวิกฤติโควิด ระลอก 4 ที่ถูกเจ้าเชื้อกลายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) กำลังแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ จน ศบค.ต้องยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด สีแดงเข้ม 13 จังหวัด
โดยยอดติดเชื้อใหม่รายวัน นิวไฮไม่หยุด ติดเชื้อกว่า 1 หมื่นราย 9วันติดต่อกัน จนทะลุหลักแสน !! วันที่ 25 ก.ค. ติดเชื้อรายใหม่ 15,335 ราย เสียชีวิต 129 ราย 9 (ยอดติดเชื้อสะสม 497,302 ราย ผู้เสียชีวิต 3,610 ราย)
ขณะที่ความเคลื่อนไหว ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้วกว่า 4,000 คน ยอดจองห้องพักยังติดต่อมาเรื่อย ๆ ไปแล้ว กว่า 100,000 ห้อง ถึงแม้จะเป็นตัวเลขเพียงน้อยนิด ไม่อาจเปรียบเทียบกันได้กับตัวเลขนักท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต ในช่วงก่อนเกิดวิกฤติ แต่นั่นหมายถึงการเริ่มต้นให้ภาคเศรษฐกิจเริ่มขับเคลื่อนได้บ้าง เหนือสิ่งอื่นใดนับเป็นโมเดลต่อยอดการท่องเที่ยวไทยจากทะเลฝั่งอันดามัน ข้ามมายังฝั่งทะเลอ่าวไทย เปิด โครงการ สมุย พลัสโมเดล (SAMUI Plus) จ.สุราษฎร์ธานี ไปเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เที่ยวบินปฐมฤกษ์นำนักท่องเที่ยววีวีไอพี สื่อมวลชน และนักธุรกิจ จากอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สิงคโปร์ และ ฮ่องกง เข้ามาทดสอบระบบเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์
นำร่องคุมเข้มจำกัดพื้นที่ท่องเที่ยว
ก่อนหน้านี้ทีมข่าว 1/4 Special Report มีโอกาสนำเสนอข้อมูลผู้เกี่ยวข้องหลาย ๆ ฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนของ จ.ภูเก็ต มาบ้างแล้ว คราวนี้มาคุยกับ นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เราไม่ได้มีความกังวลในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่าไรนัก เนื่องจากทุกคนต้องผ่านการคัดกรองตามมาตรการหลายขั้นตอนกว่าจะเข้ามาเที่ยวตามโครงการสมุย พลัสฯ ในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวไทย ก็มีเส้นทางเข้าออกทางน้ำเพียงทางเดียวเท่านั้น จึงวางมาตรการเข้มในการตรวจคัดกรองตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นต้องได้รับวัคซีนครบตามจำนวนโด๊ส
เมื่อเข้ามายังพื้นที่แล้วต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นติดตามตัว นอกจากนั้นกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังได้ใช้แอพพลิเคชั่นเช็กพอยท์เพื่อตรวจสอบบุคคลและบันทึกข้อมูลไปยังแอพพลิเคชั่น covid control เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเฝ้าระวังและติดตามหากมีเหตุฉุกเฉิน
สำหรับรูปแบบของสมุย พลัสโมเดล เป็นการเปิดพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะ สะดวกต่อการจำกัดพื้นที่ท่องเที่ยวและควบคุมการเข้า-ออก รวมทั้งสามารถจัดการเดินทางท่องเที่ยวได้แบบมีเงื่อนไขในเส้นทางหรือพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น (Sealed route) ภายใต้เงื่อนไขประชากรในพื้นที่ทั้ง 3 เกาะ คือ เกาะสมุย, เกาะพะงัน และเกาะเต่า ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70% โดยเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับ SOP (Standard Operation Procedures) เช่น พนักงานขับเรือ/รถ ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว กิจการ Wellness พนักงานโรงแรมส่วนหน้า SHA Plus Manager อาสาสมัครโรงแรม ฯลฯ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติ Command Center จำนวน 4 ศูนย์ โดยมีทั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดและอำเภอ กำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค สำหรับผู้ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในพื้นที่
เชื่อมโยงเที่ยวฝั่ง “อันดามัน–อ่าวไทย”
นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า การนำร่องเปิดประเทศเฟส 1 ในตามรูปแบบ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นตัวชี้วัดว่า ประเทศไทยสามารถทำได้ และจะเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย ที่มีความสามารถในการจัดการการท่องเที่ยวในภาวะของโรคระบาดได้ ถือเป็นที่น่ายินดีที่สมุยพลัสโมเดล ได้ทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงจากเกาะภูเก็ตกลุ่มแรกแล้ว
สมุยโมเดล จะมีความแตกต่างกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในส่วนของการเข้ามาในพื้นที่ของนักท่องเที่ยว เพราะสมุยโมเดลจะมีความเข้มข้นในการจำกัดพื้นที่มากกว่าของ จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะในช่วง 7 วันแรกที่เหยียบพื้นดินบนเกาะสมุย นักท่องเที่ยวจะต้องอยู่เฉพาะภายในโรงแรมที่ได้รับเครื่องหมาย SHA Exter เท่านั้น สามารถทำกิจกรรมที่ผ่านการควบคุมจากเจ้าหน้าที่ หรือ อาสาสมัครดูแลนักท่องเที่ยว จนกระทั่งผ่าน 7 วัน จึงจะสามารถเดินทางเชื่อมโยงไปเกาะพะงัน และเกาะเต่า หรือย้ายโรงแรมที่พักที่ได้มาตรฐาน SHA Plus โดยมีแอพพลิเคชั่นสุขภาพของนักท่องเที่ยวติดตามตัว ซึ่งผู้ดูแลจะสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา มาตรการเหล่านี้ผมเชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมด้านความปลอดภัยให้เกาะสมุย-เกาะพะงัน-เกาะเต่า
นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวต่อว่า ตามคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งทำการตลาดล่วงหน้า ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายของเกาะสมุย คือ อิสราเอล อังกฤษ เยอรมนี และกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจ ที่เคยเดินทางเข้ามายังเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ในช่วง 1 เดือนแรกที่เปิดรับ เราจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มนี้ประมาณ 1 พันคน เข้ามานำร่อง คล้าย ๆ กับการตรวจสอบระบบมาตรการของเรา คาดการณ์ว่าในช่วงเดือนแรกจะมีรายได้เข้ามาในระบบประมาณ 100 ล้านบาท
แม้ว่าจะเป็นตัวเลขเล็กน้อย แต่เราก็หวังว่าจะช่วยเข้ามาหล่อเลี้ยงเติมในส่วนที่หายไปได้ รายได้ในส่วนนี้จะกระจายไปทุกอาชีพ เช่น การใช้วัตถุดิบในการปรุงอาหาร เราก็ได้ทำข้อตกลงสภาเกษตรฯ รับซื้อผลผลิตทางเกษตร เฉพาะในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีเท่านั้นเพื่อมาให้บริการนักท่องเที่ยว และเราหวังว่า ผ่านไปในไตรมาสที่ 4 นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่เข้ามาจะเป็นตัวการันตีการท่องเที่ยวของเรา แล้วนำนักท่องเที่ยวเข้ามายังเกาะสมุย เกาะพะงัน และ เกาะเต่า เพิ่มมากขึ้น
ชาวภูเก็ตเริ่มมีความหวัง
ขณะที่ความเคลื่อนไหว ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หลังเปิดโครงการฯมาใกล้จะครบ 1 เดือน นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องปกติของการทำงานที่ต้องเจอปัญหา แต่สิ่งสำคัญคือ เมื่อเจอปัญหาแล้วเราก็ได้ร่วมกันเเก้ปัญหาหน้างานนั้นอย่างไร เพราะการประสานงาน เชื่อมโยงกันมีหลายภาคส่วนก็ได้ปรึกษาพูดคุยกันทุกวัน อย่างกรณีในช่วงที่ผ่านมา เมื่อเราตรวจพบนักท่องเที่ยวต่างชาติติดเชื้อโควิด 6 ราย ก็ดำเนินการไปตามแผนที่วางไว้ ตามมาตรการที่มีระบบ เข้มข้นในทุกกระบวนการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการรับนักท่องเที่ยวในโอกาสต่อไป เมื่อตั้งเป้าว่า ถ้าเปิดเมืองเเล้วเราก็ไม่อยากปิด ยกเว้นเหตุผลกรณีไม่สามารถควบคุมโรคได้ แต่ยอมรับว่ายังมีความกังวลจากสถานการณ์ภายในประเทศที่ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอยู่ ก็จำเป็นจะต้องเพิ่มระดับมาตรการคัดกรองกลุ่มบุคคลที่มาจากพื้นที่เสี่ยงสูง 13 จังหวัด เเละสีเเดง 24 จังหวัด จะเข้าพื้นที่นอกจากได้รับวัคซีนครบโด๊สแล้ว ต้องมีหนังสือการรับรองการตรวจหาเชื้อมาแสดงด้วย
ด้าน นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวอาจน้อยกว่าที่เราประเมินไว้มาก ว่าใน ก.ค.เราจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสัก 18,000 คน แต่หากเปรียบเทียบกับช่วงที่ผ่านมาเราไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ตรงนี้จึงถือว่าประสบความสำเร็จ บางคนอาจจะตั้งคำถามว่า จำนวนนักท่องเที่ยวเท่านี้จะไปกระตุ้นอะไรได้ แต่ผมมองว่าถ้าเราไม่นำร่อง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติก็คือ “0” เพราะฉะนั้นให้มองว่าดีกว่าไม่ทำอะไรเลย จะเห็นได้ว่าวันนี้คนภูเก็ตกลับมามีความหวัง ถ้าทุกอย่างเดินไปได้ตามแผนที่วางไว้ เชื่อว่าในเดือน ส.ค.-ก.ย.ก็จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
ข้อดีที่เห็นจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ คือเราเห็นระยะเวลาในการพำนักที่ยาวขึ้น มองถึงโอกาสที่เราจะได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพกลับเข้ามา เป็นที่น่ายินดีว่า เราได้นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่ไม่เคยเดินทางเข้ามายัง จ.ภูเก็ต นั่นคือ กลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศอิสราเอล เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีทำให้หวังว่าจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ในอนาคต ที่สำคัญ ณ ตอนนี้เรามียอดจองห้องพักจากระบบบุ๊กกิ้ง กระจายไปตามโรงแรมต่าง ๆ ถึง 320 แห่ง กว่า 170,000 ห้อง มากที่สุดที่ป่าตอง ร้อยละ 35 ของทั้งหมด รองลงไปคือ ไม้ขาว, เชิงทะเล, กะตะ และกะรน.
