ถือเป็นอีกบทบาทที่แฟน ๆ รอคอย เมื่อ จาเร็ด เลโต้ (Jared Leto) ศิลปินดังจากวง “30 Seconds to Mars” และนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ ที่ได้ก้าวเข้าสู่จักรวาลซูเปอร์ฮีโร่อีกครั้ง ในภาพยนตร์ที่สร้างจาก “มาร์เวล คอมมิคส์” ชื่อดัง โดย “โซนี่ พิคเจอร์ส” อย่าง “มอร์เบียส (Morbius)” แอนตี้ฮีโร่คนล่าสุด ที่พร้อมพาทุกคนโลดแล่นสู่โลกของฮีโร่สายดาร์ค 

มอร์เบียส” หรือ “ดร.ไมเคิล มอร์เบียส” นายแพทย์ฝีมือเยี่ยม ที่ป่วยเป็นโรคเลือดหายากและร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต เขาพยายามทำทุกทางในการค้นหาวิธีรักษาเพื่อช่วยเหลือตัวเองและคนไข้คนอื่น ๆ ที่ป่วยเป็นโรคเดียวกับเขา ซึ่งเขาได้เริ่มการทดลองด้วยการเดินทางไปยังถ้ำค้างคาว โดยใช้ร่างกายตัวเองทดลอง แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ ร่างกาย ดร.ไมเคิล มอร์เบียส ก็ได้รับพละกำลังเหนือมนุษย์ และมีพลังที่เหนือจินตนาการ แถมทำทุกอย่างได้เช่นเดียวกับค้างคาว!

แต่มันต้องแลกมากับความกระหายเลือดที่เขาไม่อาจควบคุมได้ และนี่จึงเป็นปฐมบทของเรื่องราวแอนตี้ฮีโร่ ผู้ที่ยืนอยู่บนเส้นบาง ๆ ระหว่างผู้พิทักษ์และผู้ทำลายล้าง! ล่าสุด “บันเทิงเดลินิวส์” ได้เปิดใจ จาเร็ด เลโต้ ถึงการมารับบทบาทในครั้งนี้ และทิศทางของตัวละครดังกล่าวกัน

Q : แนะนำ “ดร.ไมเคิล มอร์เบียส” เขาคือใคร?

จาเร็ด : ในตอนที่เราได้พบกับ ดร.ไมเคิล มอร์เบียส เขามาถึงช่วงตอนสุดท้ายในชีวิตของเขาแล้ว เขาเป็นหมอที่เก่งกาจ และเขาก็อยู่ระหว่างการค้นหาวิธีรักษาตัว เขาเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็แหกกฎบางอย่างเพื่อค้นหาวิธีรักษาและช่วยเหลือผู้คนที่เหมือนกับเขา และด้วยความที่มันเป็นโรคหายาก เลยมีผู้คนจำนวนไม่มากนักในโลกที่ป่วยเป็นโรคเดียวกับเขา แต่เขาก็หวังใจเอาไว้ว่า ถ้าเขาสามารถค้นพบวิธีรักษาสำหรับคนกลุ่มนี้ได้ บางทีเขาอาจจะสามารถช่วยเหลือคนอื่น ที่เป็นเหมือนเขาได้ แต่ในตอนแรก ในช่วงแรก ๆ ที่เราได้ใช้เวลาอยู่กับ ดร.ไมเคิล มอร์เบียส เขาผอมซูบและอ่อนแรงมาก ๆ เขาต้องอาศัยไม้พยุงในการเดินและสภาพร่างกายของเขาก็ทรุดโทรมลงต่อหน้าต่อตาเราอย่างรวดเร็ว ในความเป็นจริงแล้ว เขาเป็นคนที่มีชีวิตอยู่กับโรคนี่ได้นานที่สุด คนอื่น ๆ มีอายุขัยที่สั้นมาก ๆ ดังนั้นเราเลยได้พบเขาในช่วงที่เขาอ่อนแอที่สุด ในตอนที่เขาสิ้นหวังที่สุด และเราได้ร่วมผจญภัยไปกับเขา ระหว่างที่เขาพยายามขุดคุ้ยความลับและค้นหาวิธีการรักษาครับ

Q :  อยากให้พูดถึงความสามารถของ “ดร.มอร์เบียส” หน่อย?

จาเร็ด : แก่นแท้ของมันเป็นเรื่องราวต้นกำเนิด ดังนั้นเราเลยได้อยู่กับมอร์เบียสระหว่างที่เขาได้ค้นพบว่าตัวเขาเป็นใคร เขามีหรือไม่มีพลังอะไร และมันเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ผมหมายถึงว่า ผมคิดว่าสิ่งที่สนุกเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้คือเขายังมีอะไรมากมายให้ค้นหา และผมก็แน่ใจว่าในอนาคต ยังมีศักยภาพที่จะเปิดเผยและค้นพบอะไร ๆ มากขึ้น แต่ในหนังเรื่องนี้ เขามีพลังในการเหินฟ้าในแบบที่ไม่เหมือนใคร ไม่ใช่ว่าเขาสามารถออกตัวแล้วบินได้เลย แต่เขาควบคุมพลังสายลมได้ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมสามารถเผยอะไรออกไปได้มากแค่ไหน แต่เขามีพละกำลังและความเร็วที่เพิ่มขึ้น และสิ่งที่น่าสนุกจริง ๆ ที่เราได้สำรวจกันคือการหาตำแหน่งของวัตถุ โดยอาศัยเสียงสะท้อน การสำรวจเรื่องนั้นในแง่ของการแสดงเป็นเรื่องสนุก ทำนองว่าคุณจะนำเสนอเรื่องแบบนั้นออกมาในแบบไหนล่ะครับ ผมคิดว่าพวกเขาทำงานได้อย่างดีเยี่ยมในเรื่องของการหาตำแหน่งของวัตถุโดยอาศัยเสียงสะท้อน มันเหมือนกับความสามารถในการมองเห็นโดยอาศัยสัมผัสในการฟังเสียงน่ะครับ แต่เป็นการเห็นภาพสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นผ่านทางสิ่งที่คุณได้ยิน

Q :  พูดถึงการเปิดตัวบนจอเงินของ “มอร์เบียส”?

จาเร็ด : ในตอนที่คุณนา เสนอตัวละครตัวหนึ่ง ๆ บนจอเงินเป็นครั้งแรก คุณก็จะได้รับโอกาสครั้งใหญ่ในการสร้างบางสิ่งบางอย่าง และในปัจจุบันนี้ ด้วยความที่มีหนังเยี่ยม ๆ มากมายก่อนหน้านี้และมีการแสดงที่เหลือเชื่อ ตัวละครที่โด่งดังมากมายภายใน 10 ปีที่ผ่านมา คุณก็คงจะคิดได้ว่ามีหนังแนวนี้มากมายแค่ไหน ที่ได้แนะนำตัวละครต่าง ๆ ในเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ในรูปแบบของเทคต่าง ๆ ซึ่งมันค่อนข้างน่าทึ่งทีเดียว ดังนั้นเราทุกคนก็เลยรู้ว่ามันมีโอกาสตรงนั้น แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังมีบางอย่างที่แตกต่างออกไปอย่างมากด้วย ผมไม่ได้มีชุดพิเศษอะไรด้วยซ้ำไปในหนังเรื่องนี้ แต่ผมก็ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเราจะใช้เทคโนโลยี เพื่อยกระดับและช่วยในเรื่องของการแปลงโฉม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวมอร์เบียสเอง เพราะผมคิดว่านั่นเป็นส่วนที่เราจะมีข้อจำกัดน้อยที่สุดในตอนเริ่มต้น พวกเขาตั้งใจจะใช้ชิ้นส่วนเทียม แต่ผมเองอาจเป็นเสียงที่ดังที่สุดในห้องก็ได้ที่สนับสนุนให้ทุกคนใช้เทคโนโลยี เพราะไม่เพียงแต่คุณจะสามารถทำมันได้หนึ่งครั้งเท่านั้น แต่คุณยังสามารถเดินหน้าพัฒนามันให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมในอนาคตอีกด้วยครับ

Q : พูดถึงสิ่งแตกต่างออกไปของภาพยนตร์เรื่องนี้หน่อย?

จาเร็ด : สิ่งที่แตกต่างออกไปเกี่ยวกับ หนังเรื่องนี้ก็คือมันก็เหมือนกับเวน่อม ตรงที่มันอยู่ในจักรวาลของตัวเอง จักรวาลที่สมบูรณ์อยู่แล้วในตัวมันเองครับ บางครั้ง มันก็น่ากลัวนิด ๆ บางครั้ง คุณก็เข้าสู่การตะลุยแอ๊คชั่น การผจญภัยเต็มรูปแบบ และบางครั้ง มันก็ทำให้คุณต้องคอยคาดเดาและทำให้คุณแปลกใจ แต่ผมก็ชอบทั้งหมดนั่น การที่มันพาคุณร่วมผจญภัยครั้งใหญ่ แต่ตัวละครก็มีความซับซ้อนด้วย คุณจะเจอกับองค์ประกอบแบบแจ็คเคิลและไฮด์ครับ ผมก็เลยคิดว่ามันมีอะไรที่ดึงดูดความสนใจได้มากมาย และผมก็ดีใจที่ผมมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ครับ

Q : พูดถึง “มอร์เบียส” ในฐานะตัวละครใหม่?

จาเร็ด : มอร์เบียสเป็นตัวละครที่ทรงพลัง เขาอยู่ในจำพวกของเหล่าร้ายซูเปอร์ฮีโร่ เขาเป็นตัวละครที่ทรงพลังมาก ๆ เขาเก่งและแกร่ง เขามีพลังที่น่าสนใจและไม่เหมือนใคร และเป็นเรื่องน่าสนุกที่จะได้เห็นว่าเราสามารถต่อยอดมันได้ยังไงบ้างครับ

Q :   อยากให้บอกถึงอนาคตของ “มอร์เบียส”?

จาเร็ด : ผมเองอยากรู้เหมือนกันว่าแฟน ๆ อยากให้มอร์เบียสไปไกลถึงไหน เห็นได้ชัดว่ามันมีโอกาสของการเผชิญหน้า การมีปฏิสัมพันธ์หรืออาจจะเป็นการร่วมมือกับสไปเดอร์แมนก็ได้ ใครจะรู้ล่ะครับ แน่นอนว่าถ้าเป็นเวน่อมก็ยอดเยี่ยมเหมือนกัน แล้วมันก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเสมอ ที่ได้ก้าวข้ามไปยังพรมแดนใหม่ ที่ซึ่งคุณไม่คิดไม่ฝันด้วยซ้ำว่ามันจะไปถึงได้ ใครจะรู้ล่ะครับ แต่นั่นก็คือสิ่งที่สนุกเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ซึ่งก็คือโอกาสที่จะโยงใยกันครับ

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาทะยานเข้าสู่โลกของแอนตี้ฮีโร่คนล่าสุด ที่ไม่เหมือนฮีโร่คนไหน ใน “มอร์เบียส”  เขาจะมาเพื่อพิทักษ์หรือทำลายล้าง ห้ามพลาด วันที่ 31 มี.ค. นี้ ในโรงภาพยนตร์

ภาพ : Sony Pictures / Columbia Pictures