จัดเฉลิมพระเกียรติ

ช่วงเช้าของวันนี้ 25 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ โดมอเนกประสงค์บริเวณด้านข้างหอประชุมสงฆ์ วัดพนัญเชิงวรวิหาร นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธาน ในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2565 (กิจกรรมเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมี พระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย ผู้พิพากษา หัวหน้าศาล หัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2565 นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่พสกนิกรชาวไทยทั่วภูมิภาค จะได้ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีถวายพระราชกุศล และเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกันทำความดีถวายพระราชกุศล แสดงออกถึงความรักและหวงแหนในสถาบันหลักของชาติ นำหลักคำสอนทางศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวิต สืบสานวัฒนธรรมประเพณีทางด้านศาสนา และเสริมสร้างความรักสามัคคีของประชาชนในชาติให้มั่นคงสืบไป (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

พบประชาชนภาคกลาง

วันที่ 24 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะผู้บริหารจังหวัด ให้การต้อนรับคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภา พบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง นำโดย นายวิทยา ผิวผ่อง รองประธานกรรมการ คนที่หนึ่ง พร้อมด้วยคณะสมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่พบส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนชุมชน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับภารกิจของวุฒิสภาที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ตลอดจนนำเสนอกฎหมาย หรือประเด็นที่น่าสนใจ พร้อมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อสนับสนุนด้านการเกษตร และการบริหารจัดการน้าในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 2 (วัดช้างใหญ่) โดยคณะสมาชิกวุฒิสภา จะนำข้อมูลข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่ได้รับจากการลงพื้นที่ไปสู่การดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภาต่อไป

จากนั้นใน ช่วงบ่าย คณะสมาชิกวุฒิสภา ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ และกองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ณ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประกอบการติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งการพิจารณากลั่นกรองกฎหมาย ประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พัฒนากฎหมายให้สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่ และสะท้อนข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะไปสู่การแก้ไขด้วยกลไก ของวุฒิสภา โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ประชาชนในพื้นที่ระดับหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ กลุ่มการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน รวมถึงสื่อมวลชน อีกด้วย สำหรับช่องทางการ ติดตามข้อมูลข่าวสารของวุฒิสภา ติดตามได้ที่ Facebook FanPage: วุฒิสภา, Twitter: @SenateThailand, Instagram: @senatethailand, เว็บไซต์: www.senate.go.th, Line กลุ่ม สว.พบประชาชน พระนครศรีอยุธยา (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

รถคลินิกจักษุ

เช้าวันที่ 28 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดหนองขุนชาติ อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี และนางปิติมา รักพานิชมณี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุทัยธานี ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน สภากาชาดไทย ในการให้บริการโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อตรวจรักษา ผ่าตัดโรคตาให้กับพระสงฆ์ แม่ชี นักบวชทุกศาสนาและประชาชนใน จ.อุทัยธานี ที่มีปัญหาโรคตา เช่น ต้อหิน ต่อเนื้อ ต้อกระจก ท่อน้ำตาอุดตัน จำนวน 220 คน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม-1 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา

โครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทยในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2538 เพื่อให้บริการตรวจรักษา และผ่าตัดผู้ป่วยโรคตา โดยผู้ป่วยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งมูลนิธิโรตารีสากลร่วมกับสโมสรโรตารีในสหรัฐอเมริกา และศูนย์โรตารีในประเทศไทย น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อใช้ปฏิบัติงานผ่าตัดผู้ป่วยบนรถเคลื่อนที่ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 โดยปัจจุบันได้ให้บริการเชิงรุกด้วยการออกปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลอำเภอในถิ่นทุรกันดาร เพื่อให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ มีโอกาสกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง (ชนม์สวัสดิ์ ทองโพธิ์งาม / อุทัยธานี)

มอบโล่เชิดชูเกียรติ

วันที่ 24 มีนาคม 65 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ หอประชุมพระราชทานโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีและมอบโล่เชิดชูเกียรติแก่ผู้มีคุณูปการดีเด่นต่อสภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย โดยมีว่าที่ร้อยตรี ดร.กฤดิ์ทรัพย์ เชื้อพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย พร้อมคณะผู้บริหาร คณาจารย์ของโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ให้การต้อนรับ มี พ.อ.อ.นรชัย กฤษณะเกษกุล ประธานสาขาสมาคมสภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้รายงานวัตถุประสงค์ของการจัดพิธีในครั้งนี้

สำหรับการจัดพิธีดังกล่าวเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติผู้มีคุณูปการต่อสภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย แด่ชมรมที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงไม่สามารถจัดพิธีมอบรางวัลพร้อมกันทั่วประเทศได้ โดยโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ซึ่งเป็นประธานสาขาสมาคมสภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทยประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้จัดพิธีและมอบโล่เชิดชูเกียรติแก่ผู้มีคุณูปการดีเด่นต่อสภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย ซึ่งมีผู้ได้เข้ารับโล่เชิดชูเกียรติ 7 ประเภท จำนวน 27 ราย

ด้านนายไพรัตน์ เพชรยวน กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับโล่คุณูปการและมีผลงานเชิงประจักษ์ดีเด่น ต่อสภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นผลต่อขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ที่ได้รับการยอมรับจากสมาคม ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนมุ่งมั่นที่จะสานภารกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

สานสัมพันธ์เครือข่าย

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน สานสัมพันธ์เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ และการแสดงดนตรีสร้างสุข ณ บริเวณสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ หน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท โดยมี พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ร่วมให้การต้อนรับ

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กิจกรรมการสร้างและพัฒนาเครือข่ายประชาสัมพันธ์ เพื่อบริการข้อมูลข่าวสารไปสู่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเครือข่ายต่อต้านข่าวปลอม การพัฒนาเครือข่ายหอกระจายข่าว จะช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร นโยบายของภาครัฐ ผ่านช่องทางต่างๆ ที่เครือข่ายมีอยู่ อาจเป็นสื่อบุคล หอกระจายข่าวในพื้นที่ หรือช่องทางสื่อออนไลน์อย่าง เฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ การจัดรายการวิทยุเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของทางภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ (สมชัย ลัทธิเดช / ชัยนาท)

ส่งน้องไปเรียน

นางสาวน้ำค้าง คันธรักษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีการเปิดตัวโครงการเปิดเทอมใหม่ ปันน้ำใจ ส่งน้องไปเรียน จังหวัดสระบุรี (Back-to-School) จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้ชีวิตของเด็กทุกคนในประเทศต้องหยุดชะงัก เด็กต้องเผชิญวิกฤตการเรียนรู้ เด็กในครอบครัวที่มีรายได้น้อยและปานกลางขาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงการเรียนรู้ทางไกล และต่อการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างไม่เท่าเทียม เด็กหลายคนต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา

โครงการเปิดเทอมใหม่ ปันน้ำใจ ส่งน้องไปเรียน จังหวัดสระบุรี (Back-to-School) เป็นการรับบริจาคสิ่งของจากประชาชนเพื่อสนับสนุนการศึกษาของเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสทั่วประเทศถือได้ว่าเป็นโครงการฯ ที่ส่งเสริมให้เด็กด้อยโอกาสมีสิ่งของที่สนับสนุนการศึกษาพร้อมสำหรับเปิดภาคการศึกษา ผ่านการบูรณาการทำงานร่วมกันในระดับพื้นที่ สอดคล้องกับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในโครงการส่งเสริมความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศึกษา “พาน้องกลับมาเรียน” เป็นการแก้ไขปัญหาเชิงรุก สำหรับเด็กที่หลุดออกจากระบบ และเพื่อคืนโอกาสในการสร้างอนาคตให้แก่เด็ก และส่งต่อแบ่งปันสื่อการเรียนรู้และอุปกรณ์การเรียนให้กับเด็กที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง หรือด้อยโอกาสให้ได้กลับมาเรียนอีกครั้ง (สมนึก สุขีรัตน์ / สระบุรี)

ย้อนรอยสงครามโลก

ค่ำของวันที่ 28 มีนาคม 65 ที่อำเภอแก่งคอย นายเอกพร จุ้ยสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานแถลงข่าวจัดงานแก่งคอยย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประจำปี2565 โดยมีนายธนกฤต อัตถะสัมปุณณะ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี นางดวงเดือน สดแสงจันทร์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระบุรี นายดุรงค์ฤทธิ์ ศิริวัฒนพันธ์ นายอำเภอแก่งคอย นายสมชาย วรกิจเจริญผล นายกเทศมนตรีเมืองแก่งคอย พร้อมด้วยชาว อ.แก่งคอย พร้อมใจกันแต่งกายการ ย้อนยุค เมื่อครั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นที่สวยงามละลานตา

นายเอกพร จุ้ยสำราญ รองผู้ว่าราชการ จ.สระบุรี เปิดเผยว่า จ.สระบุรี โดย อ.แก่งคอย กำหนดการจัดงานแก่งคอยรอยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประจำปี 2565 ขึ้น ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2565 โดยคณะทำงาน จัดขบวนรถไฟท่องเที่ยวพิเศษจากกรุงเทพฯ ถึงสถานีชุมทางแก่งคอย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ได้นมัสการหลวงพ่อลา วัดแก่งคอย สักการะเจดีย์ศรีป่าสัก ชมถ้ำพญานาค ที่มีความสวยงามภายในวัดแก่งคอย จัดให้มีการแสดงดนตรี ศิลปะวัฒนธรรมวิถีชีวิตชาติพันธุ์ ชมการแสดง แสง สี เสียง สื่อผสม จำลองเหตุการณ์เมืองแก่งคอยย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกทิ้งระเบิด ครบรอบ 77 ปี ณ ริมแม่น้ำป่าสัก

รองผู้ว่าฯ จ.สระบุรี เปิดเผยอีกว่า ในอดีตแก่งคอย เป็นเมืองที่มีความสำคัญ เป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังบวรพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นหัวเมืองที่มีความสงบสุข จนถึง พ.ศ. 2482 ได้เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือเรียกกันว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้ขอเดินทัพผ่านแดนไทย ซึ่งขณะนั้นแก่งคอยเป็นเมืองท่าที่สำคัญในการส่งสินค้าผ่านทางแม่น้ำป่าสักและทางบก โดยทางรถไฟเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ จึงมีกำลังทหารทั้งญี่ปุ่นและไทยมาตั้งค่ายอยู่จำนวนมาก ไปถึงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2488 ฝ่ายตรงข้ามได้นำเครื่องบิน B24 ทิ้งระเบิดที่อำเภอแก่งคอย ส่งผลให้สถานที่ราชการ ตลาด วัด บ้านเรือนประชาชน เกิดเพลิงไหม้มีชาวแก่งคอย และทหารญี่ปุ่นเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันเป็นที่มหัศจรรย์อย่างยิ่ง เมื่อชาวแก่งคอยพากันหลบลูกระเบิด อยู่ที่วัดแก่งคอยซึ่งมี ”หลวงพ่อลา” เป็นเจ้าอาวาสวัดในขณะนั้น มีลูกระเบิดตกลงภายในวัดแก่งคอย แต่ลูกระเบิดเกิดด้านไม่ระเบิด ทำให้ชาวแก่งคอยรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นบารมีของหลวงพ่อลา ทำให้ชาวแก่งคอยรอดพ้นอันตราย และในปัจจุบันระเบิดลูกดังกล่าวยังถูกนำมาเป็นอนุสาวรีย์ในวัดแก่งคอย และทุกปีในช่วงเดือนเมษายนชาวแก่งคอย จะจัดงานแก่งคอยย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นประจำทุกปี (วิรัตน์ เดชะวราฤทธิ์ / สระบุรี)

มหกรรมการออม

วันนี้ 25 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน ณ ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดกิจกรรม “มหกรรมการออมลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน” เนื่องในวันคล้ายวันก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ครบรอบ 48 ปี โดยมี นายประจัญ จันทร์เนตร์ พัฒนาการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค คณะกรรมการและสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต พัฒนาอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม

โดยกิจกรรมในวันนี้จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ด้านการส่งเสริมการออม และการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อการผลิต ตั้งแต่ ปี 2517 โดยการนำของศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ยุวัฒน์ วุฒิเมธี อดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นการดำเนินงานภายใต้หลักการ “ใช้เงินเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคน” คือการพัฒนาคนในชุมชนให้มีคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความเสียสละ ความรับผิดชอบ ความเห็นอกเห็นใจ และความไว้วางใจกัน เกิดการเรียนรู้การทำงานในรูปแบบ “กระบวนการกลุ่ม” และใช้ “เงินสัจจะ” เป็นเครื่องมือในการสร้างวินัยการออมของสมาชิก จึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชน ตามภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน และภารกิจของกระทรวงมหาดไทยในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของประชาชน ปัจจุบันมีกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีจำนวน 93 กลุ่ม สมาชิก 9,243 คน เงินสัจจะสะสม 96,945,619 บาท

นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ กล่าวว่า กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เป็นกิจกรรมที่กรมการพัฒนาชุมชน ริเริ่มส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานเพราะการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตสอดคล้องกับภารกิจ กรมการพัฒนาชุมชน ที่มุ่งส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และสร้างการมีส่วนร่วม ของคนในชุมชน และภารกิจของกระทรวงมหาดไทยในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ของประชาชน แก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตได้ดำเนินการมาครบ 48 ปี ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมวินัยทางการเงินของสมาชิก มุ่งเน้นการช่วยเหลือกันและกัน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกและครอบครัว เป็นการส่งเสริมการพึ่งตนเองของชุมชน เกิดพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ส่งผลต่อการพัฒนาของชุมชนครอบคลุมในหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการส่งเสริมประชาธิปไตย ตลอดจนวิถีการดำรงชีวิตของคนในชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานในการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งต่อไป (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

เสริมสร้างการรับรู้

ช่วงเช้าของวันที่ 29 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี โครงการเสริมสร้างการรับรู้ให้กับนายจ้าง สถานประกอบการ แรงงานต่างด้าว และองค์กรภาคีเครือข่าย ณ อาคารจุฑามาศ ไพบูลย์ภัตตาคาร จังหวัดสิงห์บุรี โดย นางประภา ธีระเดชะชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 รักษาราชการแทน จัดหางานสิงห์บุรี จัดโครงการเสริมสร้างการรับรู้ให้กับนายจ้าง สถานประกอบการ แรงงานต่างด้าว และองค์กรภาคีเครือข่าย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นายจ้าง สถานประกอบการ มีความรู้ความเข้าใจ ตระหนักรู้ในการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมาย ได้รับทราบถึงขั้นตอนและแนวทางการนำแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมาย ได้รับทราบถึงขั้นตอนและแนวทางการนำแรงงานต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตลอดจนวิธีดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจคนเข้าเมือง รวมไปถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ปัจจุบันจังหวัดสิงห์บุรีมีแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 1,3057 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา) สำหรับวันนี้มีนายข้างสถานประกอบการ และผู้สนใจเข้าร่วมจำนวน 85 คน

ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสิงห์บุรี ก่อนเข้าร่วมการประชุมตรวจ ATK ทุกคน ให้ยึดมาตรการ D-M-H-T-T-A ในระหว่างที่ประชุม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)

ยื่นขอรับรอง

อาจารย์สุภัทรา วิลามาศ ผู้ช่วยอธิการบดี พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นัยวิท เฉลิมนนท์ คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทร.สุวรรณภูมิ) ให้การต้อนรับ เภสัชกรเมธี พันธุ์เทียน และ เภสัชกรหญิงขวัญฤทัย โยงราช เภสัชกรปฏิบัติการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข

ในการลงพื้นที่ตรวจประเมินสถานที่ผลิตอาหาร ณ อาคารต้นแบบการผลิตสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรม มทร.สุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์พาขวัญ ทองรักษ์ หัวหน้าสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร พร้อมกับอาจารย์จันทร์เพ็ญ บุตรใส อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร เป็นผู้ประสานงานและนำเสนอข้อมูลต่อผู้ตรวจประเมินรวมทั้งฟังคำแนะนำ (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

มอบอุปกรณ์การเรียน

พลตรีคณธัช มากท้วม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 และคุณธนัญญา มากท้วม ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบกสาขามณฑลทหารบกที่ 18 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารและอาสาสมัครกิจการพลเรือนมณฑลทหารบกที่18และคณะได้มอบอุปกรณ์การเรียนการสอน เครื่องอุปโภคบริโภคและจักรยาน พร้อมอาหาร ขนม ให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านลำและโรงเรียนวัดสหกรณ์รังสรรค์ โดยมีนายสมพิศ รามพิชัย นายก อบต.หนองสรวง นายสอน สุริยัณต์ ประธาน อส.กร.ตำบลหนองสรวง และคณะครูผู้ปกครอง ร่วมรับมอบ (สมชาติ มานะยิ่งเมต / สระบุรี)

เปตองคนพิการ

วันพุธที่ 30 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น. นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี และนางจิราภรณ์ กองเงิน รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมด้วยนางสาววิภารัตน์ บัญญัติ ผู้อำนวยการสำนักงาน กกท.จังหวัดสิงห์บุรี และเจ้าหน้าที่ของจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมเยี่ยมเยียนให้กำลังใจและเชียร์นักกีฬาเปตองคนพิการจังหวัดสิงห์บุรี ในการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 37 นครลำดวนเกมส์ ณ จังหวัดศรีสะเกษ โดยการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 37 นครลำดวนเกมส์ จัดการแข่งขัน ณ จังหวัดศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2565 มีการแข่งขันทั้งหมด 18 ชนิดกีฬา มีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมเข้าร่วมประมาณ 2,500 คน เป็นการจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการระดับชาติครั้งแรก หลังสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยมีมาตรการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)