โกลยังใช้ นพพล ละครพล, เซ็นเตอร์ ทรงชัย ทองฉ่ำ ลงมาแทน ธีรภัทร เลาหบุตร คู่กับกัปตันทีม อนุศักดิ์ ใจเพชร
แบ๊กเปลี่ยนทั้ง 2 คน ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์-บุคฆอรี เหล็มดี แทน กิตติพงษ์ แสนสนิท-นาคิน วิเศษชาติ
อิรฟาน ดอเลาะ ยังเป็นกลางรับ แต่มาจับคู่กับ วิลเลียม แกเบรียล ไวเดอร์เฌอ ของ การท่าเรือ แทน ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท
สิทธิโชค ภาโส ลงตัวจริงตำแหน่งกลางรุก แล้วโยก ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ไปริมเส้นฝั่งขวา แทน เมธี สาระคำ
ชิษณุพงษ์ โชติ ยืนฝั่งซ้าย แทน สกุลชัย แสงโทโพธิ์ ขณะที่กองหน้า “ซัน” กรวิชญ์ ทะสา แทน แพตริก กุสตาฟส์สัน
สิ่งที่น่าสนใจคือการลงเล่นพร้อมกันของ สิทธิโชค กับ ชาญณรงค์ 2 นักเตะที่ค้าแข้งต่างแดน มาได้ประสานงาน ซึ่ง “เจ้าย้า” ก็จัดว่าเล่นได้ และมียิงไกลทีเด็ด 1 ตุง แต่ “เจ้าหนึ่ง” ชาญณรงค์ ไปพิงริมเส้น ทำให้บทบาทน้อยกว่าเกมแรก
วิลเลียม แกเบรียล ไวเดอร์เฌอ มาเพิ่มความแน่นของแนวรับ มีความใหญ่ เหลี่ยมบอลใช้ได้ แย่งบอลดี ถ้าคู่กับ อิรฟาน ดูน่าจะเหมาะกับเกมที่เป็นรอง
ถือว่ามีแวว สำหรับ วิลเลียม ทั้งความนิ่ง การอ่านเกม ออกบอล รวมทั้งฟรีคิกทีเด็ด ที่โชว์ท้ายเกม
อนันต์ ยอดสังวาลย์ ที่ลงครึ่งหลัง และแฟนบอลอยากเห็นฟอร์ม ยังไม่มีโอกาสโชว์นัก
แพตริก ที่ลงชุดหลังเช่นกัน ยังน่าสนใจกับการหาจังหวะจบสกอร์ให้ตัวเองที่ทำได้ดีเหมือนเดิม และยังไม่คมเหมือนเดิม
กองกลาง ถึงกองหน้า เหมือนอยู่ในช่วงปรับจูน และด้วยศักยภาพรายบุคคล ก็ถือว่าดีอยู่
แพตริก, ชาญณรงค์, สิทธิโชค, วิลเลียม ไล่ไปถึง อิรฟาน ที่ยังฝากผีฝากไข้ได้ ต่างทำผลงานได้ดี และมีความหวัง มีแววเป็นจุดแข็งของทีมต่อไป ขอให้จูนให้ลงตัวก็แล้วกัน
แต่ที่ดูเป็นปัญหา ดูจะเป็นจุดอ่อนคือกองหลัง มันเต็มตาจากประตูที่เสีย
ลูกแรก อนุศักดิ์ กัปตันทีม เหลี่ยมได้บอลแท้ๆ แต่โดน ฟานเฮา ฉกไปดื้อๆ จากนั้นลูก 2 เราก็ครองบอลอยู่ ได้ทุ่ม แต่ ฉัตรมงคล เตะสะเปะสะปะ เข้ากลาง ไปแจกโชคให้ฟานเฮา
ลูก 3 จากเตะมุม เคลียร์ไม่ขาด ช่องโหว่เยอะ แล้วเจ้าเดิมก็สังหาร และ ลูก 4 ฟานเฮา อีกแล้ว แผลงฤทธิ์ โชว์ความจมูกไวกว่า แกร่งกว่า บุคฆอรี โฉบไปยิงนิ่มๆ ฉีกแผงหลังขาดวิ่น
ย้อนไปนัดแรก ที่แพ้ กาตาร์ ประตูโทนที่เราเสีย ธีรภัทร ก็โดนเบียดร่วง และ อิรฟาน ก็ตามลงมาบล็อกไม่สุด
จะบอกว่า 5 ประตูที่เสีย มาจากความผิดพลาดของตัวเองทั้งหมดก็ว่าได้
การที่ซ้อมน้อย อาจมีปัญหาความเข้าใจก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนที่สมาธิ ความนิ่ง
ถึงตอนนี้ 2 นัดที่ผ่านมา แนวรับของเรา เป็นแผลใหญ่ เป็นแผลที่ โค้ชโย่ง ต้องสมานแผลให้ได้ ก่อน ซีเกมส์ และชิงแชมป์เอเชีย
โจนาธาน เข็มดี น่าจะเป็นคนที่ถูกนึกถึงที่จะมาอุดรูรั่ว
หรือแม้แต่ นักเตะที่ขึ้นชั้นชุดใหญ่ไปแล้วอย่าง “และห์” กฤษดา กาแมน ที่มีความเก๋า ความนิ่ง
เผลอๆ อาจต้องทบทวนกันดีๆ ว่าการเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่ กับเป็นแกนหลัก กำลังสำคัญ ของทีมชุด 23 ปี แบบไหนจะเกิดประโยชน์มากกว่า.
*** วุฒินล ***
