2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนในครอบครัว พี่ที่เคารพรัก เพื่อนร่วมงานและคนที่รู้จักติดโควิดถึง 6 คนรวด นี่แสดงว่า โอมิครอน แพร่ระบาดรวดเร็วมากจริง ๆ ก็ไม่น่าแปลกใจที่ตัวเลขติดเชื้อยังอยู่ที่วันละ 5-6 หมื่น คนตายจาก ม.ค.-19 มี.ค. 2,464 คน นี่เฉพาะที่ตรวจพบนะ ที่ไม่ตรวจอีกเท่าไหร่ ไม่รู้

คนแรกที่ได้ข่าวคือน้องสาว นั่งรถสาธารณะ มีคนไอค็อกแค็กข้าง ๆ แต่สวมแมสก์ทั้งคู่ ต่อมาลูกชายติด อยู่หอธรรมศาสตร์ รังสิต อีก 2 คน พี่ที่รักอยู่บ้านที่เป็นออฟฟิศด้วยกัน เพื่อนร่วมงาน ติดจากไปสัมภาษณ์แหล่งข่าว น้องที่รู้จักไม่รู้ติดจากไหน ฉีดเข็ม 3 ทุกคน อาการจึงไม่หนักมาก เป็นผู้ป่วยสีเขียว รักษาเองที่บ้านบ้าง ที่โรงพยาบาลบ้าง ฮอสพิเทลบ้าง “ตามสภาพและเงินในกระเป๋า” ใครว่าเป็นแล้วชิล ชิล ก็อย่างที่รู้ รบ. 3 ป. เตรียมให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น เพื่อประหยัดงบประมาณ

“ลอยแพ” หรือไม่ลอยแพ ลองคิดดูเองเถอะ ?!?

แต่เฉพาะหน้า นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาใหญ่ ศบค. บอกฉากทัศน์ที่คาดไว้ว่า สงกรานต์นี้จะเป็นทางแยกสำคัญ ต้องกดตัวเลขติดเชื้อไม่ให้เพิ่มขึ้น ให้อยู่ในหลักพันต้น ๆ แต่ไม่มีทางเป็นศูนย์ โดยสงกรานต์ปี 64 ที่ไม่มีการล็อกดาวน์ตัวเลขติดเชื้อพุ่งและลากยาวถึงสิ้นปี 64 สงกรานต์ปีนี้ หากกดตัวเลขไม่อยู่และสูงขึ้นไปอีก จะลากยาวถึงสิ้นปี 65 ทำให้การใช้ชีวิตลำบาก และเศรษฐกิจไม่เดินหน้า ดังนั้นประชาชนต้องให้ความร่วมมือ ขอให้มารับวัคซีนเข็ม 3  เพราะจากสถิติ 2 เข็มลดการตายได้ 6 เท่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ฉีด เข็ม 3 ลดตายได้ 41 เท่าเลย ขณะที่คนตาย 95-98% อายุ 60 ปีขึ้นไป และอยู่ต่างจังหวัด เพราะเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุข

หมออุดมบอกอีกว่า การรับมือมี 2 แนวทาง 1.ให้ปู่ย่าตายายที่อยู่ต่างจังหวัดได้รับเข็ม 3 โดยเร็ว 2.ให้ลูกหลานที่จะกลับบ้าน 2 สัปดาห์ก่อนถึงสงกรานต์ต้องฉีดเข็ม 3 เพื่อลดความเสี่ยง

นับเป็นข้อเท็จจริงที่มีประโยชน์มาก จะติดใจก็ตรงคำว่า ประชาชนต้องให้ความร่วมมือนี่ล่ะ ขอยืนยันล้านครั้งว่า คนไทยเป็นพวกเชื่อหมอเกือบมากสุดในโลกแล้วมั้ง  หมอสั่งอะไร ทำตามหมด ปัญหาจึงอยู่ที่ภาครัฐจะบริหารจัดการได้ยอดเยี่ยมแค่ไหนต่างหาก ไม่เชื่อ ลองย้อนไปทบทวนดูตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดจนถึงตอนนี้เถอะ แล้วจะเห็นตามจริงเอง

วัคซีนเข็ม 3 ที่ว่า ต้องยอมรับว่า ยังมีคนได้ไม่มาก ม.ค.65 ยังมีแค่ 13 ล้านคน ถึงตอนนี้ไม่น่าถึง 20 ล้าน ดูจากบรรยากาศและสถานที่ฉีดยังน้อยมาก ล่าสุดที่เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ออกมาขอให้รีบมาฉีดเข็ม 3 เยอะ ๆ โดยเฉพาะคนสูงวัย มีอีก 2-3 ล้านที่ไม่ได้ฉีดเข็ม 3 (จาก 14 ล้าน) แต่สถานที่ “walk in” กลับมีไม่กี่แห่ง ใน กทม.นอกจาก สถานีกลางบางซื่อ ก็มีห้างเซ็นทรัลบางนา เวสต์เกต พระราม 3 กับเซ็นทรัลเวิลด์ และล่าสุดที่ รพ.ศิริราช เท่านั้น ผิดกับคราวฉีดเข็ม 1 เข็ม 2 ที่มีจุดฉีดตามชุมชนใหญ่ ๆ ออฟฟิศคนมาก ๆ รพ.เอกชน ห้างใหญ่ ๆ รวมทั้ง “ปั๊มน้ำมัน ปตท.” ทำให้บางวันฉีดได้ถึงล้านโด๊ส นั่นคือ เอาวัคซีนไปหาคน คนอยู่ไหน เอาวัคซีนไปที่นั่น ไม่ใช่ให้คนมาหาวัคซีนเช่นตอนนี้ ก็ไม่รู้ “โมเดลนี้” หายไปได้ยังไง ต่างจังหวัด ก็เช่นกัน

จากวันนี้ถึงสงกรานต์ ยังมีเวลามากพอ  อยากให้ เสี่ยหนู อนุทิน รีบบริหารจัดการเอา “โมเดลเดิมถึงลูกถึงคน” กลับมาใช้โดยด่วน เชื่อว่าไม่เกินความสามารถเสี่ยหนู เพื่อผ่านสงกรานต์นี้ให้ได้

กลับไปที่หัวเรื่องอีกนิด แค่อยากบอกว่า ต้องขอบคุณยา “ฟ้าทะลายโจร” ตำรับไทย ๆ นี่ล่ะ โดยเฉพาะของ “อภัยภูเบศร์” ที่เป็น “ยาในดวงใจ” ของคนกักตัวที่บ้าน ยาเขียวตราใบห่อ ก็ด้วย เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้ไปรบกวน สปสช.  รู้ว่าคนโทรฯ เป็นแสน ยาฟาวิพิราเวียร์ที่บอกว่า ฤทธิ์เดชไม่เท่าไหร่ ใครได้มาถือว่า ของหรู แล้วนะ ไม่มีหรอก เรมเดซิเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ แพกซ์ลวิด แล้วการไปอยู่ รพ.เอกชนก็แพงมาก 2 แสนบาทนะประกันฯมีก็เหมือนไม่มี เจอส่วนต่าง 2-3 หมื่นให้ออกเอง เงินก็หายากหาเย็นสุด ๆ

กลับบ้านกินฟ้าทะลายโจรเถอะ ได้สนองนโยบาย รบ.3 ป. “อัตตาหิ อัตตโน นาโถ” ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน นี่ล่ะ…ชีวิตคนไทยทุกวันนี้

———————-
ดาวประกายพรึก