เบาหวาน เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ ทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกิน ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลได้อย่างเหมาะสม โรคเบาหวานนี้เปรียบเทียบร่างกายเป็นระบบปั๊มน้ำ และน้ำในระบบคือเลือดของเรา โดยปกติแล้วปั๊มน้ำจะทำงานอย่างปกติ แต่เมื่อมีการทำให้น้ำในระบบเกิดความข้นขึ้น (คือการเติมน้ำตาลลงไปในน้ำ) น้ำในระบบก็จะมีความหนืดขึ้น ปั๊ม (หัวใจ) ต้องทำงานหนักขึ้น ท่อน้ำ (หลอดเลือด) ต้องรับแรงดันที่มากขึ้น ปัญหาที่ผู้ชายกลัวที่สุดคือเบาหวานเพราะส่งผลทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงเป็นลำดับจนไม่สามารถร่วมเพศได้

จากการทำงานของกล้ามเนื้อเพศแย่ลง ระบบประสาทจะชา ระบบเส้นเลือดแข็งตัว เกิดอาการอ่อนตัวกลางคัน ในชายอาจมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เบาหวานเป็นตัวการที่จะเร่งให้เกิดการเสื่อมของหลอดเลือดทั่วร่างกายและเมื่อหลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจเสื่อมสภาพจากเบาหวาน ประกอบกับการมีไขมันในเลือดสูง จะส่งผลให้มีการตีบของหลอดเลือดหัวใจทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด ผู้เป็นเบาหวานจะมีความเสี่ยงในการเกิดอัมพาตชนิดหลอดเลือดตีบได้สูง เพราะเบาหวานทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็งได้ง่าย โดยมีหลอดเลือดแข็งทั่วร่างกายและถ้าเป็นที่หลอดเลือดของสมองก็จะเกิดอัมพาตได้

ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจะมีโอกาสเป็นอัมพาตได้สูงกว่าผู้ป่วยปกติ 2-4 เท่า ที่สำคัญหลอดเลือดที่องคชาตเกิดการเสื่อม ความยืดหยุ่นลดน้อยลงทำให้การแข็งตัวไม่เต็มที่หรือแข็งตัวแต่แข็งตัวได้ไม่นาน จนไม่สามารถร่วมเพศได้ ต้องเข้ารับการฟื้นฟูกับแพทย์ อาการอีดีในผู้ที่เป็นเบาหวานเรื้อรังกลุ่มนี้มักจะดื้อต่อการใช้ยากินคือกินแล้วไม่เกิดการแข็งตัว การรักษาด้วยยาฉีดจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แพทย์จะเลือกขนาดของยาให้เหมาะสมกับอาการของคนไข้ และไม่เกิดผลข้างเคียงตามมา นอกจากนี้แล้วการใช้ยาฉีดควบคู่กับการฝึกกล้ามเนื้อเพศให้แข็งแรงก็เป็นอีกวิธีที่แพทย์จะแนะนำเพื่อช่วยให้คนไข้ใช้ยาน้อยลง

หากวิธีเหล่านี้ไม่ได้ผลเท่าที่ควรก็ต้องอาศัยการยิงคลื่นเสียงความถี่ตํ่าเข้าที่เส้นเลือดองคชาตควบคู่กับการบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าที่กล้ามเนื้อเพศ เพื่อช่วยลดภาวะการดื้อต่อยาและสามารถฟื้นฟูอาการอีดีให้กลับคืนมาได้ดีเช่นเดิม การซื้อยากินเองทั้ง ๆ ที่ไม่มีความรู้ในเรื่องของยา ยิ่งเป็นการทำลายสุขภาพของตัวเองให้แย่ลงเรื่อย ๆ หากอยากแข็งแรงเป็นชายชาตรี ส่วนมากใช้เวลาเริ่ม 14 วันหลังฝึกและรักษากับแพทย์ก็จะฟื้นตัวได้แต่ต้องไม่อายที่จะมาพบแพทย์เพื่อฟื้นฟูทางเพศต่อไป

————-
ดร.อุ๋มอิ๋ม