เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2485 ฟิลิป ลาซาวสกี อายุเพียง 11 ขวบ เมื่อมีคนของนาซี สังเกตเห็นเขาในบริเวณด้านนอกสถานที่ที่ครอบครัวของเขาซ่อนตัวอยู่ในย่านสลัมแห่งเชเทล ประเทศโปแลนด์ และจับตัวเขาไปรวมกลุ่มกับชาวยิว อีกนับพันคนที่จัตุรัสย่านตลาดของเมือง

ระหว่างรอคอย ลาซาวสกี ได้เห็นทหารนาซี สังหารเด็กทารกคาอ้อมอกของแม่ชาวยิวอย่างโหดเหี้ยมที่นั่นต่อหน้าต่อตา ซึ่งทำให้เขากลัวมาก 

ต่อมาเจ้าหน้าที่นาซี แบ่งชาวยิวที่โดนจับมาออกเป็น 2 กลุ่ม โดยเลือกคนที่ ‘ยังมีประโยชน์’ เช่น คนที่เป็นหมอ พยาบาล ไว้ทางซ้าย และอีกกลุ่มหนึ่งที่จะต้องโดนยิงทิ้งไปไว้ทางขวา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กและคนแก่

เมื่อใกล้จะถึงคิวของล าซาวสกี เขาก็สังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งถือใบประกาศนียบัตรรับรองว่าเธอเป็นนางพยาบาล โดยมีลูกสาวของเธอ 2 คน ยืนขนาบข้าง เขารีบขอร้องให้เธอแกล้งบอกว่า เขาเป็นลูกชายของเธอ

หญิงสาวมองเขาอย่างเมตตาแล้วตอบตกลง บอกให้ลาซาวสกีจับกระโปรงของเธอไว้ และเขาก็รอดชีวิตมาได้เพราะเหตุนั้นเอง 

“ผมเจอคุณผู้หญิงคนนั้นแค่ 15-18 นาที แต่ผมไม่มีวันลืมเธอเลย” ลาซาวสกี ซึ่งมีอายุครบ 91 ปีในปีนี้ เล่าด้วยน้ำเสียงแสดงความสะเทือนใจ

ลาซาวสกี รอดกลับมาบ้าน แต่ต่อมาในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน พวกนาซีก็กลับมาไล่สังหารคนในย่านสลัมที่เขาซ่อนตัวอยู่ แม่ของเขาผลักเขาให้ออกไปทางหน้าต่างเพื่อหลบหนี และสั่งเสียให้ ‘บอกให้โลกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น’ และเขาไม่เคยลืมคำสั่งสุดท้ายของแม่ของเขา

แม่ของลาซาวสกี พี่ชายและพี่สาวของเขา 2 คน ถูกฆ่าตายโดยพวกนาซี เขาหนีรอดมาได้กับพ่อและน้องชายอีกคนหนึ่ง และอาศัยหลบอยู่ในป่าราว 2 ปี ก่อนที่จะหนีมายังอเมริกาได้ในปี 2490

ลาซาวสกี ในวัยหนุ่ม

หลายปีหลังจากนั้น เขาก็เจอเรื่องเซอร์ไพร้ส์ที่สุดในชีวิต เมื่อครอบครัวของเขาตั้งตัวได้ในย่านบรูคลีน, นิวยอร์ก ลาซาวสกี ได้รับเชิญไปงานแต่งงานของเพื่อนร่วมชั้นในปี 2496 แต่เขาไม่อยากไป เพราะไม่มีเสื้อผ้าดี ๆ ใส่และเต้นรำไม่เป็น

กระนั้น เขาก็ไปและพบกับหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ กลอเรีย 

เมื่อ กลอเรีย รู้ว่าเขามาจากเมืองเบลีกา ซึ่งเป็นเมืองเดิมที่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ก่อนจะย้ายไปที่ย่านสลัม เธอก็เล่าว่าแม่ของเพื่อนสนิทของเธอคนหนึ่ง เคยช่วยชีวิตเด็กชายคนหนึ่งจากเมืองนั้น เมื่อเธอเล่าเรื่องจบ ลาซาวสกี ก็บอกเธอว่า เด็กชายคนนั้นคือเขาเอง

ในที่สุด ลาซาวสกี ก็ได้ข้อมูลว่า มิเรียน ราบิโนวิตซ์ ผู้หญิงที่ช่วยชีวิตเขา อาศัยอยู่ในเมืองฮาร์ตฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต เขาโทรฯ ไปหาเธอ ซึ่งเธอตอบรับด้วยความยินดีที่ได้รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่

ลาซาวสกี เขียนจดหมายหาเธอและต่อมาก็เดินทางไปเยี่ยมเธอที่บ้าน เขาได้พบกับลูกสาวทั้งสองคนของเธอ ซึ่งยืนอยู่กับเขาในวันที่ต้องเสี่ยงตาย สองพี่น้องอายุได้ 18 และ 19 ปี และ ลาซาวสกี ก็ตกหลุมรัก ‘รูธ’ หนึ่งในสองพี่น้อง และเธอก็รู้สึกเช่นเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะพวกเขามีประสบการณ์ ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่คล้ายคลึงกัน

รูธ ลาซาวสกี (ขวา) กับครอบครัวของเธอ

ทั้งสองแต่งงานกันในปี 2498 ลาซาวสกี กลายมาเป็นแรบไบที่น่านับถือในเวลาต่อมา เขามีลูกชาย 3 คนกับรูธ มีหลานทั้งหมด 7 คน ลูกชายของเขาชื่นชมพ่อของตัวเองมาก จากการที่ลาซาวสกีมักจะขับรถพาพ่อแม่ของรูธไปไหนมาไหนเสมอ ๆ และดูแลพวกเขาอย่างดี จนกระทั่งพวกเขาเสียชีวิต

ลาซาวสกีไม่แยแสคำชื่นชมนั้น เขาบอกเพียงว่า “ผมคิดเสมอว่าเธอ (แม่ของรูธ) ก็คือแม่ของผม” 

แหล่งข้อมูลและเครดิตภาพ : Yahoo/Entertainment