จัดเป็นหนึ่งไอดอลกรุ๊ปสาวๆ ที่หลายคนสนใจและอยากรู้พวกเขามากขึ้นกันเลยทีเดียวสำหรับวง “EGAO” ที่เพิ่งส่งซิงเกิ้ลล่าสุดอย่างเพลง Namida no Kamen…หน้ากากน้ำตา (นามิดะ โนะ คาเมน) มาเอาใจแฟนๆ และกระแสตอบรับดีหนักมาก งานนี้มีหรือ yimyim จะปล่อยให้พลาด เลยไปคว้าตัวสาวๆ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นลูกสาวของเราไปแล้วมาอัพเดทเรื่องราวเหล่านี้สักหน่อย ตามมาคุยกันเลย

แนะนำตัว และนิสัยใจคอแต่ละคนเป็นอย่างไร?

ชาชา  “เป็นคนฮาเงียบ ๆ ไม่ค่อยเปิดเผยความจริงในใจ ต้องทำความรู้จักเยอะ ๆ ถึงจะกล้าเปิดใจ มีกำแพงค่อนข้างสูง ถ้าอยากสนิทก็ต้องมาคุยกับชาชาเยอะ ๆ ค่ะ”

แนล “นิสัยเรียบร้อยพูดน้อยน่ารักค่ะ ถึงจะพูดน้อยแต่ก็เต็มร้อยนะคะ”

จีจี้ “เรียบร้อยน่ารักเหมือนผ้ายับที่พับไว้ เป็นคนชอบกวนคนอื่น ชอบแกล้งให้เพื่อนบ่น จะมีความสุขมาก”

ตาล “เป็นคนมี 2 คาแรกเตอร์ในคนเดียว เป็นคนต๊อง ๆ อ๊อง ๆ ติสต์ แต่บางทีก็นิ่ง ๆ เงียบ ๆ ไม่ขาดก็เกินค่ะ”

ก้อย “หนูพูดไม่รู้เรื่องและติดคิดอะไรเป็นหลักการทฤษฎีมากเกินไป แต่จริง ๆ มีความรั่วอยู่ในตัว และพี่ ๆ ในยูนิตก็บอกว่าหนูซนเป็นลิงค่ะ”

ตอนที่รู้ว่าเราจะได้เดบิวต์เป็น “EGAO” รู้สึกอย่างไรบ้าง?

ก้อย “ตอนแรกใจแป้ว ตอนที่โดนออกจากรายการไม่คิดว่าจะได้ไปต่อ พอทีมงานเซอร์ไพร้ส์หลอกพาพวกเราไปดูหนังสารคดี แล้วกลายเป็นว่ามีประกาศจาก ยาสุชิ อากิโมโตะ ว่าจะได้เดบิวต์เป็น EGAO ก็ดีใจ พอได้มาอยู่กับพี่ ๆ ร่วมยูนิตรู้สึกยินดีมากที่ได้อยู่กับพี่ ๆ ทั้ง 4 คน เราจะได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่าง ๆ จากพี่ ๆ ค่ะ”

ตาล “ดีใจมาก ๆ ตาลชื่นชอบยูนิตพี่สาวที่ญี่ปุ่นอย่าง Good Tears อยู่แล้ว พอรู้ว่าได้มาอยู่ยูนิตนี้ดีใจจนน้ำตาไหลเลยค่ะ”

จีจี้ “จริง ๆ พี่ตาลดีใจจนน้ำตาลไหล เพราะจะได้อยู่กับหนูมากกว่ามั้ง (หัวเราะ) สำหรับจีจี้ตอนที่หลุดจากรายการก็ถอดใจนะคะ จากนั้นก็มาเจอเซอร์ไพร้ส์ที่พวกเรายังได้มาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นยูนิตย่อย ๆ แต่เราก็เป็น ลาสต์ ไอดอล แฟมิลี ค่ะ”

ชาชา “หลังจากที่ไม่ได้ไปต่อในรายการ ก็อยากทำเพลงเป็นศิลปินเดี่ยว มุ่งหน้าทำความฝันของตัวเอง เพราะเราก็ไม่มีค่ายอะไรรองรับ พอมีประกาศว่าได้เป็นไอดอล ซึ่งเป็นไอดอลญี่ปุ่นแท้ ๆ ก็รู้สึกแฮปปี้มาก พอได้มาทำตรงนี้ก็อยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด มาทำฝันที่เรายังไม่ได้ทำค่ะ”

แนล “จากที่คิดว่าจะได้กลับไปกินน้ำพริกของแม่ที่เชียงใหม่แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็แห้งคาครกไปแล้วค่ะ ดีใจที่ได้เดบิวต์เป็น EGAO อยากเป็นสิ่งที่ให้ทุกคนได้ค้นหาพวกเรากันต่อไป”

พอรู้ว่าต้องอยู่ด้วยกัน ความรู้สึกตอนแรกและหลังจากที่ได้ใช้เวลาด้วยกันเป็นอย่างไรบ้าง?

แนล “หลังจากได้รู้ว่าอยู่กับพี่ชาชา เพราะรู้สึกว่าพี่เขามี Passion อย่างแรงมากที่จะเป็น Someday หน้าตาเขาอาจจะนางฟ้า แต่จริง ๆ เขาเป็นนางมาร (หัวเราะ) นางมารในที่นี้ไม่ใช่ว่าเขาร้ายนะ แต่หมายถึง Passion ที่เขาอยากเป็น Someday แรงมากค่ะ แต่ก็ดีใจที่ได้อยู่กับพี่ชาชา เพราะเขาพึ่งพาได้ แนลเป็นคนที่อยู่ในกรอบมาก แต่พี่ชาชาเป็นคนจุดประกายว่าบางอย่างไม่ต้องอยู่ในกรอบก็ได้นะ เขาจริงใจและพูดตรง ๆ ค่ะ”

ชาชา “ขอพูดถึงจีจี้แล้วกัน ตอนที่รู้ว่าได้อยู่กับจีจี้หนูดีใจมาก เพราะหนูชอบเขา เขามีความฮา หนูเป็นคนนิ่ง ๆ แต่แอบขี้เล่น เลยอยากมีเพื่อนที่ฮาสุดโต่ง อยากรู้จักเขามานานแล้ว แต่ไม่กล้าแสดงออก แอบคิดในใจว่าต้องสนิทกับคนนี้ให้ได้ ซึ่งพอรู้จักจริง ๆ สุดโต่งกว่าที่คิดมากค่ะ”

จีจี้ “เมาท์พี่ตาลแล้วกัน รู้สึกว่าเขาเป็นสมาชิกชั่วคราวหมายเลข 7 ที่สวยมาก ตอนที่รู้ว่าได้อยู่ด้วยกันจีจี้กับพี่ตาลหันมาสบตากันแล้วกรี๊ด ๆ หนูดีใจมาก หนูบอกกับพี่ตาลตั้งแต่แรกว่าหนูชอบเสียงเขามาก พอมาอยู่ด้วยกัน เขาเป็นนิ่ง ๆ แต่มีจังหวะหนึ่งเห็นพี่เขาโหวกเหวก กลายเป็นว่ามีความสนุกเหมือนกัน ก็รู้สึกว่าสมควรแล้วที่อยู่ยูนิตนี้”

ตาล “พอรู้ว่าอยู่กับน้องก้อยมี 2 ความรู้สึก เพราะภาพสุดท้ายระหว่างหนูและน้องก้อยในรายการคือ เขาเป็นคนทำให้หนูปลิวจากตำแหน่ง อีกความรู้สึกก็คือ น้องก้อยใจดี คิดบวก มีความน่ารัก อ่อนโยน เขาคอยช่วยเหลือตาลและคนในวง ถ้าเราลืมท่าหรือลืมอะไรก็มาถามก้อยได้ เขาเป็นมันสมองของ EGAO”

ก้อย “ตอนที่รู้ว่าได้อยู่ยูนิตนี้ เสียงแรกที่ตะโกนเรียกชื่อหนูคือ พี่แนล ก็ดีใจที่พี่เขาจำหนูได้ รู้สึกประทับใจ พี่เขามาทักทายเราก่อน พอหนูรู้ว่าพี่แนลมีประสบการณ์ในเส้นทางไอดอลมาก่อน รู้สึกเหมือนได้พี่สาวมาอีกคน เวลามาทำงานหรือทำอะไรก็จะได้พี่แนลไปเป็นเพื่อนที่คอยดูแลเรา พี่แนลจะเป็นห่วงทุกคนและเป๊ะตลอด พี่เขาคงไม่รู้ว่าเขาเป็นมี Passion เยอะไม่น้อยกว่าคนอื่นนะคะ”

ตอนแรกที่ประกาศว่าได้เป็น “เซ็นเตอร์” ของวง ชาชารู้สึกอย่างไรบ้าง?

ชาชา “หนูเครียดและกดดันมาก หนู Someday ทั้งใจจริง ๆ พอมาอยู่ยูนิตนี้ ก็อึ้งว่าเราเป็นเซ็นเตอร์เลยเหรอ เราจะทำได้ไหมนะ เพราะต้องเป็นเซ็นเตอร์ยูนิตที่ยากมา ก็คิดว่าจะทำยังไงให้ยูนิตนี้เป็นภาพจำที่ดี ทำยังไงให้สมาชิก 5 คน ที่ไม่รู้จักกันเลย เป็นหนึ่งเดียวกันได้ หนูต้องเป็นศูนย์กลางของสมาชิกทุกคน หนูใช้เวลาอาทิตย์หนึ่งในการคุยกับตัวเอง อันดับแรกต้องทำให้เพื่อนเข้าหากัน และจะทำยังไงให้พวกเราโชว์ดีที่สุดในแบบของตัวเอง เหมือน พาวเวอร์ เรนเจอร์ ที่มีสีแตกต่างกันแต่คนจำได้ หนูก็เลยค่อนข้างกดดัน”

มิวสิกวิดีโอเพลง “Namida no Kamen…หน้ากากน้ำตา” (นามิดะ โนะ คาเมน) ปล่อยออกมากระแสเป็นอย่างไรบ้าง?

ก้อย “พอเห็นฟีดแบ็กของหลาย ๆ คน มีบางคนวิเคราะห์เพลงนี้ โดยไปเชื่อมโยงกับในรายการ หรือบางคนอาจติดตามเราจากผลงานของผู้กำกับเอ็มวีอย่าง พี่คลัง-คูณคลัง เค้าภูไทย หรือบางคนเพิ่งจะติดตามผลงานเราจากความประทับใจในเนื้อหาเพลงนี้ มีแต่กระแสที่ดีตอบกลับมา บางทีก็มีคำติเตียน ซึ่งเราก็รู้สึกเหมือนกันว่า เราก็อยากพัฒนาจุดนี้เหมือนกันนะ ก็รู้สึกขอบคุณที่เขามาบอก เหมือนเพื่อนที่มาคุยและแนะนำกัน ทำให้เราอยากทำงานให้ดีขึ้นค่ะ”

ความยากของเพลง Namida no Kamen…หน้ากากน้ำตา คืออะไร?

จีจี้ “เพลงนี้ยากนะคะ ความยากแรกเลย ต้องเรียนกับครูสอนเต้นชาวญี่ปุ่น เราต้องแกะท่ามาได้แล้วในระดับหนึ่ง เพื่อที่จะให้เขามาต่อยอดเราอีกที ต้องทำการบ้านดี ๆ เป็นความท้าทายแรกที่เราต้องผ่านไปให้ได้ หลังจากนั้นก็เป็นการร้อง เพลงนี้ยากมาก โดนครูสอนร้องเพลงดุหลายรอบ กว่าจะดีขึ้นก็ใช้เวลาฝึกซ้อมนานหลายเดือนเลยค่ะ ก็ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ทำให้อุปสรรคต่าง ๆ ผ่านมาได้ง่าย ทุกคนพยายามและช่วยเหลือกันค่ะ”

เห็นชุดประจำยูนิตแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?

จีจี้ “เหนือความคาดหมายมากค่ะ ชุดของฝั่งพี่สาวที่ญี่ปุ่น เป็นแดง-ดำ แต่ของเราเป็นแดง-ขาว มีความอ่อนหวานมากกว่า แถมกระโปรงสามารถสะบัดได้สะบัดอีก สวยมากค่ะ”

รู้สึกยังไงที่มีแฟน ๆ เป็นของตัวเอง?

ตาล “ก็ดีใจมากที่แฟน ๆ สนับสนุนกันขนาดนี้ที่คอยติดตามเราทุกองศา คอยเชียร์และให้กำลังใจ ตอนแพ้ก็ร้องไห้และเสียใจไปกับเรา ทั้ง ๆ ที่เราเพิ่งจะรู้จักกันเอง และสมาชิกทุกคนก็มีแฟน ๆ เป็นของตัวเองเหมือนกัน ยินดีกับทุกคนด้วยนะคะ”

แนล “แนลดีใจเหมือนกัน เอาตามตรงเราเป็นแค่คนธรรมดาที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ เพียงแต่ว่าวันหนึ่งเรามีพี่ ๆ น้อง ๆ ที่คอยติดตามและให้กำลังใจ เป็นความรู้สึกว่าเขาใจดี เอาเราไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเขา เขาเอาเวลาที่มีค่าของเขามาเฝ้าและติดตามคอยดูเรา ทำให้แนลอยากทำตัวให้ดีขึ้น ถ้าสิ่งที่เขาอยากให้เราเปลี่ยนเป็นไปในทางที่ดี ก็พร้อมจะทำนะคะ”

ชาชา “ชาชาจะเห็นต่างจากแนลตรงที่ชาชาคงไม่พยายามเปลี่ยนตัวเอง ชาชาอยากให้คนชอบที่เราเป็นเรามากกว่าค่ะ”

ความคาดหวังกับ “หน้ากากน้ำตา” มากหรือน้อยแค่ไหน?

ชาชา “ต้องคาดหวังอยู่แล้วค่ะ เราพยายามทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่ได้เอาใจไปผูกว่าถ้าไม่ดังจะไม่ทำแล้ว แต่พอได้อ่านความเห็นของแฟน ๆ จาก MV ทุกคนแฮปปี้ ซึ่งทำให้เรามีความสุขเหมือนกัน ก็ต้องขอบคุณผู้กำกับของเราที่ทำให้ทุกอย่างออกมาดีเกินกว่าที่เราคาดหวังค่ะ ก็ขอฝากผลงานเพลง “หน้ากากน้ำตา” ไปดูพัฒนาการของพวกเราในซิงเกิ้ลแรกผ่าน Youtube, Joox และ Spotify และแอบสปอยล์นิดนึง เร็ว ๆ นี้เราจะมีมิวสิกวิดีโอของยูนิตอื่น ๆ ตามมาต่อเนื่อง อยากให้ทุกคนติดตามพวกเรา ลาสต์ ไอดอล แฟมิลี ทุกคนเลยค่ะ”

ยังมีอะไรที่อยากพัฒนาตัวเองอีกไหม?

จีจี้ “เรื่องอินเนอร์ค่ะ การถ่ายทอดความรู้สึกให้ไปกับเพลงยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จะโดนครูสอนร้องเพลงดุประจำ จนวันถ่าย MV เราก็ใส่อินเนอร์ได้ดีมากขึ้น แต่ก็อยากซึมซับและตีความได้ทันทีมากกว่านี้ค่ะ”

ตาล “เรื่องการร้องการเต้นค่ะ ชอบเต้นผิด ๆ ถูก ๆ หรือบางทีก็ร้องผิดคีย์ จะพยายามตัดความกังวลต่าง ๆ ของตัวเองให้ดีกว่านี้ เพื่อที่จะได้โชว์ได้ดีขึ้นค่ะ”

ก้อย “หนูไม่ค่อยเข้าใจในอารมณ์เหมือนพี่จีจี้ จะหน้าเดียวตลอด ครูจะสอนเทคนิคว่าให้คิดซะว่าการร้องเพลงของเราก็เหมือนการเล่านิทาน พอเห็นตัวเองใน MV ก็รู้สึกว่าเราในจอเหมือนได้แสดงอารมณ์ดีขึ้น ก็อยากเรียนรู้เกี่ยวกับการแสดงและการทำงานเบื้องหลังมากขึ้นค่ะ”

ชาชา “พอได้ถ่าย MV รู้สึกว่าได้เจอความชอบตัวเองจากการแสดง หนูอยากเป็นนักแสดง ชอบเวลาที่ได้เห็นตัวเองในภาพเคลื่อนไหว หนูคิดว่าสามารถสื่อสารผ่านสายตาได้ดี หนูคิดว่าหนูถนัดในการปรับบุคลิกค่ะ หนูคิดว่าทำได้ดีค่ะ”

แนล “สำหรับแนลอยากพัฒนาการเต้นและร้องเพลง หนูอาจร้องดีขึ้นกว่าตอนที่แข่งขันในรายการ คิดว่าในอนาคตอยากจะมีเพลงเป็นของตัวเอง รวมถึง Performance ทุกอย่างด้วยค่ะ”

แหม…ยิ่งได้คุยก็ยิ่งหลงรักสาวๆ “EGAO” เข้าให้ซะแล้วสิ ทำไงดีน้า อ๋อ ไปฟังหน้ากากน้ำตาดีกว่าจะได้รู้จักเธอมากขึ้นไปอีกเนอะๆ อิอิ


คอลัมน์ “1 Day With ซุปตาร์”

โดย “yimyim”