เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ

ปัจจุบันผมอายุ 66 ปี เป็นคนรูปร่างท้วม ลงพุงเล็กน้อย มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน เป็นมาได้ปีกว่าแล้ว ต้องกินยาควบคุมน้ำตาลอยู่ทุกวัน และต้องไปพบแพทย์รับการตรวจต่าง ๆ ทุก 3 เดือนผลการตรวจล่าสุดพบว่ามีระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูงมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ต้องกินยาลดไขมันเพิ่มอีกอย่าง แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือรู้สึกตัวเองว่า ทั้งค่อนข้างหงุดหงิดง่าย เครียดและโมโหง่ายมาก ซ้ำร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ นอนหลับยาก ใช้เวลานานกว่าจะหลับได้ และตื่นบ่อยเมื่อตื่นแล้วกว่าจะหลับลงได้ก็ใช้เวลานาน ร่างกายไม่ค่อยสดชื่น ตื่นนอนแล้วไม่แจ่มใสสดชื่นเหมือนแต่ก่อน อารมณ์ความรู้สึกทางเพศหายไปเฉย ๆ อวัยวะเพศก็ไม่ค่อยตื่นตัว ไม่แข็งตัวได้เหมือนเดิม จึงขอคำแนะนำกับคุณหมอโอให้ช่วยเหลือ

ด้วยความนับถือ
แสวง 66

ตอบ แสวง 66

เมื่อผู้ชายมีระดับฮอร์โมนเพศลดลง ไขมันในร่างกายจะสูงขึ้น จนเกิดการสะสมมากบริเวณรอบเอวหรือเรียกง่าย ๆ ว่าลงพุง การลงพุงจึงกลายเป็นสัญญาณอันดับแรกที่แสดงถึงการพร่องของฮอร์โมนเพศชาย ในชายที่มีภาวะเมตาบอลิกซินโดรมและเบาหวานชนิดที่ 2 มักจะมีระดับเทสโทสเตอโรนในเลือดต่ำกว่าปกติ การเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนอาจจะช่วยในการรักษาเมตาบอลิกซินโดรมและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยมีการศึกษาในระยะเวลา 52 สัปดาห์ ได้ศึกษาผลของการควบคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกาย โดยมีหรือไม่มีการรับเทสโทสเตอโรนทางผิวหนังในชายที่มีระดับฮอร์โมนเพศต่ำและเพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยชายทั้งหมด 32 คน มีระดับฮอร์โมนเพศต่ำ (เทสโทสเตอโรนต่ำกว่า 12.0 nmol/L) ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 และภาวะเมตาบอลิกซินโดรมจาก 16 คนได้รับเทสโทสเตอโรนเจล 50 mg ทุกวันวันละครั้ง

ในระหว่างการศึกษานี้ไม่มีการให้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด พบว่าระดับเทสโทสเตอโรน, เบาหวานสะสม (HbA1c), ระดับน้ำตาล, ไขมันดี, ไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และรอบเอวดีขึ้นในกลุ่มการทดลองทั้งสองกลุ่มหลังจากรักษาเป็นเวลา 52 สัปดาห์ นอกจากนี้พบว่าในกลุ่มที่ใช้เทสโทสเตอโรน ผลการตรวจเหล่านี้จะพัฒนาดีกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้มาก โดยกลุ่มที่ใช้เทสโทสเตอโรน ทุกคนจะมีระดับเบาหวานแอบแฝงน้อยกว่า 7.0% และพบว่าร้อยละ 87.5 ของเบาหวานสะสมน้อยกว่า 6.5% ขณะที่กลุ่มที่ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย โดยไม่มีการให้ฮอร์โมนมีเพียง 31.3% เท่านั้นที่มีอาการดีขึ้น นอกจากนี้การรักษาด้วยเทสโทสเตอโรน ยังช่วยปรับปรุงระดับการควบคุมน้ำตาลได้ดีขึ้นให้ดีขึ้นด้วย

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การรักษาด้วยการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายและรับเทสโทสเตอโรนผ่านทางผิวหนังเป็นเวลา 52 สัปดาห์ สามารถช่วยรักษา และควบคุมระดับน้ำตาลให้ดีขึ้นได้และไขมันสามารถลดลงสู่สภาพปกติ ส่วนการแข็งตัวก็ดีขึ้นได้ระดับหนึ่ง หากต้องการให้อวัยวะเพศแข็งตัวนานเกิน 30 นาที และแข็งดีเช่นวัย 20-30 ปี ต้องฝึกขยายกล้ามเนื้อเพศเพิ่มเติมจะได้ผลดีภายใน 2 สัปดาห์.

—————————
ดร.โอ สุขุมวิท 51