จากข้อมูลของสมาพันธ์ข้าวกัมพูชา หรือ ซีอาร์เอฟ (Cambodia Rice Federation : CRF) กัมพูชามีรายได้เข้าประเทศ 35.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการส่งออกข้าวสี 53,036 ตัน ไปยัง 34 ประเทศและดินแดนทั่วโลก เพิ่มขึ้น 54.74% จาก 34,273 ตัน ในเดือน ม.ค. 2564

ซีอาร์เอฟตั้งเป้า กัมพูชาส่งออกข้าวสี ประมาณ 800,00-850,000 ตัน ตลอดปีนี้

การส่งออกข้าวสี ในเดือน ม.ค. 2564 มีสัดส่วน 5.554% ของการส่งออกตลอดทั้งปี ซึ่งอยู่ที่ 617,069 ตัน นั่นเป็นการบ่งชี้ว่า กัมพูชากำลังจะส่งออกราว 954,900 ตัน ในปี 2565

จีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงรวมกัน เป็นผู้ซื้อข้าวสีของกัมพูชารายใหญ่สุด ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ด้วยสัดส่วน 58.79% ปริมาณ 31,181 ตัน ตามด้วย 16 ประเทศในยุโรป 12,542 ตัน สัดส่วน 23.6% อันดับ 3 คือ 3 ประเทศกลุ่มอาเซียน 6,277 ตัน สัดส่วน 11.84% และจุดหมายอื่น ๆ 3,072 ตัน สัดส่วนเกือบ 6%

ส่วนตัวเลขการส่งออกข้าวเปลือก ในเดือน ม.ค. 2565 สูงสู่ระดับ 275,511 ตัน มูลค่าตามประเมิน 60.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลูกค้ารายใหญ่สุดคือ เวียดนาม

ปีที่แล้วกัมพูชาสร้างรายได้ 418 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (13,640 ล้านบาท) จากการส่งออกข้าวสี ไปยัง 56 ประเทศและดินแดน และ 845.95 ล้านดอลลาร์ (27,603 ล้านบาท) จากการส่งออกข้าวเปลือก 3,527,418 ตัน

คาดว่าการส่งออกข้าวสี ไปยัง 27 ประเทศสหภาพยุโรป (อียู) จะสูงขึ้นมาก หลังจากมาตรการปกป้องการนําเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น หรือ เอสจี (Safeguard Measures : SG ) ที่ออกโดยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) หมดอายุเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2565 และหลังจากนี้ ข้าวแปรรูปที่กัมพูชาส่งไปขายในอียู ไม่ต้องเสียภาษี

อีซี องค์กรบริหารของอียู กำหนดอัตราภาษี การส่งออกข้าวเจ้าอินดิกา จากกัมพูชาและเมียนมา เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2562 หลังการสอบสวนพบว่า การนำเข้าอินดิกาสูงขึ้นจาก 2 ประเทศนี้ สร้งความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก ต่อผู้ผลิตของอียู

มาตรการเอสจี กำหนดให้กัมพูชาต้องจ่ายค่าภาษีนำเข้า 175 ยูโร (6,478 บาท) ต่อข้าว 1 ตัน ในแรก 150 ยูโรต่อตัน ในปีที่ 2 และ 125 ยูโรต่อตัน ในปีที่ 3

นอกจากนั้น กัมพูชายังจะได้ประโยชน์จากโครงการ ขายได้ทุกอย่างยกเว้นอาวุธ หรือ อีบีเอ (Everything But Arms : EBA) ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษทางการค้า ที่อียูใช้ช่วยเหลือกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุดของโลก นั่นจะทำให้กัมพูชามีศักยภาพการแข่งขันในตลาดอียู เพิ่มขึ้นอีกมาก

วันที่ 12 ส.ค. 2563 อีซีประกาศเพิกถอน อีบีเอบางส่วนจากกัมพูชา เพื่อลงโทษการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการกดขี่ทางการเมืองภายในประเทศ การเพิกถอนส่งผลกระทบต่อการส่งรายปีของกัมพูชา ไปยัง 27 ประเทศอียู คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านยูโร หรือ 1 ใน 5 ของทั้งหมด

นายสอง สารัน ประธานสมาพันธ์ข้าวกัมพูชา ทำนายว่า รัฐบาลจีนจะกำหนดโควตา นำเข้าข้าวสีจากกัมพูชา จำนวน 400,000 ตัน และใบสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากตลาดยุโรป จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของการส่งออกในปีนี้.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES