แต่ปัจจัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น กระชาก “ชบาแก้ว” จากที่วิ่งบนทางลาดยางเพลินๆ ไปสู่ถนนลูกรัง

ทีมชาติไทย ตกไปสล็อตสุดท้าย 2 ทีม ที่ต้องไปเหนื่อยต่อกับการคัดเลือกในรอบเพลย์ออฟ ร่วมกับทวีปอื่น รวม 10 ทีม จะคัดเอาอีกแค่ 3 ทีม โดยจะเตะปีหน้า

งานช้างทันที

มองจาก 5 ทีม ที่คัดเลือกผ่านเข้ารอบ ทั้งน่ายินดีกับเขา และน่าเจ็บใจ เพราะนอกจาก ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลีใต้ ที่เป็นเต็งอยู่แล้ว ก็มี ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม 2 ทีมจากอาเซียน ที่สร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกด้วย

ปัจจัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ที่มาป่วนสาวไทย ก็อย่างที่ทราบกัน นั่นคือการแพร่ระบาดของโควิด-19

สัญญาณเตือนมาแล้ว จาก “เจ้าภาพ” อินเดีย ที่ถอนทีมไปทีมแรก

ไทยเริ่มมีติดกันบางๆ ก่อนจะมาระเบิดตู้มเป็นโกโก้ครั้นช์ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย กับ ญี่ปุ่น ต่อเนื่องถึงรอบเพลย์ออฟ 2 นัด กับ เวียดนาม และ ไต้หวัน

ทุกนัดเราส่งชื่อได้แค่ 14 คน จาก 23 คน นั่นหมายความว่านอกจากการที่ เมื่อทรัพยากรนักบอลมีน้อย ไม่สามารถเล่นตามตำแหน่ง ตามแผนที่ซ้อมแล้ว

แต่ละนัดยังมีตัวเปลี่ยนแค่ 3 คน

โควิด โจมตีแคมป์บอลหญิงเจียนอยู่เจียนไป เพราะถ้าต่ำกว่า 13 คน ต้องถอนตัว เรียกว่าต้องลุ้นผลตรวจกันแทบจะชั่วโมงต่อชั่วโมง บางนัดขณะที่แถลงข่าวก่อนแข่ง นักเตะไม่พอแล้วด้วยซ้ำ คือไปรอลุ้นกันต่อว่า ที่ติดๆ ไปแล้ว จะหายกลับมาได้ไหม

มิโยะ โอกาโมโตะ ถึงกับเรียกประชุมถามตรงๆ ว่าจะถอนตัวหรือไม่ แต่สาวไทย ก็ยืนยันกัดฟันสู้ให้จบ สู้ให้ดีที่สุด ตราบใดที่ยังเล่นได้

ที่ส่งชื่อ 14 คนใน 3 นัดหลัง ก็ไม่ใช่ว่า เชื้อโดนบล็อกไว้แค่ 9 คนในทีม แต่ว่ายังมีคนเป็นๆ หายๆ ที่ไม่ติดนัดนี้ อาจไปติดนัดต่อไป หรือที่ติดแล้ว ก็หายมาลงสนาม

แน่นอนสภาพร่างกายย่อมส่งผล โรคโควิดก็เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ไหนจะคิวเตะที่จัดมาได้ไง ให้คิกออฟ บ่ายโมงครึ่งเวลาท้องถิ่น

“แนนซี่” สุนิสา สร้างไธสง ที่ได้รับการยกย่องว่าฟิตสุดๆ ยังเกือบแย่ หลังเกมกับเวียดนาม ขณะที่ “ไหม” ธนีกานต์ แดงดา นี่ ถือว่าแย่ไปเลย เพราะจบเกมกับ ไต้หวัน ก็ฟุบคาสนาม เพราะเพิ่งหายป่วย แต่จำเป็นต้องลง

ต้องชื่นชมกับนักเตะชบาแก้วทุกคนที่ฝ่าฟันอุปสรรคไม่ยอมแพ้ง่ายๆ สู้สมศักดิ์ศรี จนจบการแข่งขัน

กระนั้นก็ตาม เมื่อมี “ผล” ก็ต้องมี “เหตุ” โควิดไม่ได้ลอยมาติด แล้วระบาดกันเฉยๆ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คงต้องไปทบทวนการบริหารจัดการทีม

ไทยติด น่าเห็นใจ แต่มองมุมกว้าง นอกจากไทย และ อินเดียแล้ว ชาติอื่นก็ไม่เจอปัญหา นั่นแสดงว่าเกิดจากการจัดการภายในทีมหรือไม่ หากฝ่ายจัดมาตรการไม่รัดกุม เราจะมีวิธีอะไร ที่จะแก้เกม แก้ไข

การดูแลนักบอลเข้มงวดพอหรือเปล่า เท่าที่ทราบก็ไม่มีผู้ใหญ่ไปควบคุม ยิ่งพอ โค้ชมิโยะ ติดโควิด ก็ยิ่งไปกันใหญ่

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ โทรฯ ไปให้กำลังใจ หลังเกิดเหตุแล้ว พร้อมกับบอกนักเตะเป็นการภายในถึงเงินอัดฉีด จึงเหมือนเป็นการปลอบใจมากกว่า ส่วนการที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประกาศอัดฉีด 2 ล้านบาท ถ้าเข้ารอบ อาจมองเหมือน “ข้ามห้วย” แต่ก็น่าจะเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจที่ดีแก่นักเตะ ที่กำลังแห่งเหี่ยวเปลี่ยวเต็มทน

บอลหญิงไทย ผ่านมรสุมโควิด-19 แน่นอนว่าส่วนหนึ่งต้องให้กำลังใจ ชื่นชม ที่สู้มาได้

แต่อย่าลืมว่า ปัญหาครั้งนี้ แม้จะไม่ใช่ปัจจัยที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ “ไม่ได้คาดคิด” ทว่ามันเป็นเรื่องที่คาดไว้แล้วว่า “อาจจะเกิดขึ้น” และก็เกิดขึ้นจริงๆ

ดังนั้น เมื่อปลอบใจ ส่งกำลังใจกันแล้ว ก็ต้องฝากไว้ว่าอย่าลืมถอดรหัสข้อผิดพลาด มาเป็นบทเรียนกับการจัดการในทีม

เพราะโควิดไม่ใช่เรื่องใหม่ของชาวโลก

อย่าให้ความประมาทนิดเดียว ทำให้แผนพัง ล้มทั้งกระดานแบบหนนี้อีกเด็ดขาด ไม่ว่ากับทีมชาติไทยชุดไหนก็ตาม.

*** วุฒินล ***