แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาการยังไม่กระเตื้องนะครับ หลังทำได้แค่บุกไปเสมอ เบิร์นลีย์ ทีมบ๊วย 1-1 และโดน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แซงกลับขึ้นไปยึดอันดับ 4 ในตารางพรีเมียร์ลีก เรียบร้อย

            เกมนี้ ราล์ฟ รังนิก จัดทีมในระบบ 4-2-3-1 เหมือนในเกมเอฟเอ คัพ นัดแพ้ มิดเดิลสโบรช์ ด้วยการดวลจุดโทษคาบ้านเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตัดสินใจดร็อป คริสเตียโน โรนัลโด เป็นตัวสำรอง และส่ง เอดิ คาวานี ลงมนประจำการในตำแหน่งหน้าเป้าแทน

            ส่วนแดนกลางใช้ เจดอน ซานโช, บรูโน แฟร์นันด์ส และมาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นตัวรุก โดยมี ปอล ป็อกบา กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ คุมเกมในแดนกลาง ขณะที่แดนหลังมี ราฟาแอล วาราน ยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่ แฮร์รี แม็กไกวร์  ขณะที่ ดีโอโก ดาโลต์ กับ ลุค ชอว์ ลงเล่นเป็นฟูลแบ๊กฝั่งขวา และซ้าย สำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู ดาบิด เด เคอา ได้กลับมาลงเฝ้าเสาแทน ดีน เฮนเดอร์สัน อีกครั้ง

            พลพรรค “ผีแดง” ออกตัวได้อย่างวูบวาบ และเกือบจะออกนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 12 จากจังหวะที่ แฟร์นันด์ส เปิดฟรีคิกให้ วาราน โขกบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่สุดท้ายก็โดน VAR ริบประตูคืน เนื่องจาก แม็กไกวร์ ดันไปยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า และถูกมองว่า มีส่วนกับการได้ประตูนี้เพราะดันไปขวางทางวิ่งของ เจย์ โรดริเกซ ดาวยิงเจ้าถิ่น

            ถัดมาเพียง 6 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ ชอว์ เติมขึ้นมารับบอลจาก แรชฟอร์ด ก่อนจะเปิดหักกลับเข้าไปให้ ป็อกบา แปเข้าไปอย่างหมดจดงดงาม

            ท้ายครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้อีกครั้งจากจังหวะที่ แรชฟอร์ด เปิดบอลไปแฉลบ จอช บราวน์ฮิลล์ เข้าประตูตัวเอง ทว่าสุดท้ายก็เฮเก้อไปอีกครั้งหลังผู้กำกับเส้นยกธงว่า ป็อกบา ไปทำฟาวล์กองหลังของเบิร์นลีย์ก่อนแล้ว

            กระนั้นแม้จะนำอยู่แค่ประตูเดียว แต่จากรูปเกมที่เหนือกว่าบานเบอะ โดยมีโอกาสยิงประตูถึง 12 ครั้ง และไม่เปิดโอกาสให้ เบิร์นลีย์ ได้ลุ้นประตูเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็น่าจะคว้าชัยได้แบบแบเบอร์

            ทว่าสุดท้ายนักเตะผีแดงก็ทำให้แฟนบอลของตัวเองต้องเซ็งอีกครั้ง เมื่อลงมาเล่นในครึ่งหลังแบบเนือย ๆ ไม่ดุดันเหมือนช่วง 45 นาทีแรก จนกระทั่งโดน เบิร์นลีย์ กดเข้าใส่ และทวงประตูตีเสมอ 1-1 ได้ตั้งแต่นาทีที่ 47 จากโอกาสยิงครั้งแรกในเกมนี้ของพวกเขา

            จังหวะนี้ แม็กไกวร์ น่าจะเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบมากที่สุด หลังเข้าพรวดจนโดน วูก เว็กฮอร์สต์ ล็อกหลบง่าย ๆ ก่อนที่ หัวหอกชาวดัตช์ จะไหลบอลต่อให้ เจย์ โรดริเกซ ที่ลากบอลเข้าไปยิงผ่านมือ เด เคอา เข้าไปตุงตาข่ายได้อย่างเยือกเย็น

            หลังเสียประตูตีเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตกอยู่ในอาการเมาหมัด และเกือบจะโดน เบิร์นลีย์ แซงหน้าจากการส่องไกลของ เว็กฮอร์สต์ แต่โชคยังดีที่ เด เคอา โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด

            ช่วงเวลาที่เหลือแม้ รังนิก พยายามแก้เกมเต็มที่ เริ่มจากการส่ง โรนัลโด ลงมาแทน คาวานี ที่แทบจะแผลฤทธิ์ไม่ออกเลยตลอดทั้งเกม ตามด้วยการส่งตัวรุกอย่าง เจสซี ลินการ์ด ลงมาแทน แม็คโทมิเนย์ และส่ง แอนโธนี เอลังกา ลงมาแทน แรชฟอร์ด

แต่สุดท้ายก็ยังไม่เป็นผล และทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำแต้มหลุดมือไปอีก 2 คะแนนอย่างน่าเขกกะโหลกในเกมที่ถูกมองว่า น่าจะมีโอกาสชนะมากสุดในบรรดาโปรแกรมพรีเมียร์ลีกทั้ง 5 นัดในรอบเดือนนี้  

            สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจาก 2 เกมที่ผ่านมาก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังขาดความสม่ำเสมอ พวกเขาออกตัวได้อย่างร้อนแรงในครึ่งแรก และดูเหมือนจะคว้าชัยได้อย่างสบายเท้า จากนั้นจะออกอาการเหี่ยวปลายในครึ่งหลัง และกลับตกเป็นฝ่ายปราชัย หรือ ไม่ก็ทำได้แค่เสมออย่างที่เห็น

            จริงอยู่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ค่อนข้างโชคร้ายเพราะหากเป็นวันที่ฟ้าฝนเป็นใจพวกเขาก็น่าจะขึ้นนำ เบิร์นลีย์ ไปแล้วอย่างน้อย 2 ประตูในครึ่งแรก

            ทว่าเหนือสิ่งอื่นใด อสูรแดง คงต้องโทษตัวเองที่ไม่สามารถรักษามาตรฐานการเล่นที่ดีเอาไว้ได้ตลอดทั้งเกม และไม่มีความเด็ดขาดมากพอที่จะปิดบัญชีคู่แข่งที่ศักยภาพเป็นรองพวกเขาทุกเหลี่ยมมุมได้ ไม่ว่าจะเป็น มิดเดิลสโบรช์ หรือ เบิร์นลีย์ ก็ตาม.

แท ยอน