ชัยชนะเลือกตั้งซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ของ นายสุรชาติ เทียนทอง จาก เพื่อไทย แกนนำพรรคฝ่ายค้านต่อ นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ พปชร. แกนนำพรรครัฐบาลชนิดขาดลอย ที่จริงเติมเสียงให้ฝ่ายค้านแค่ 1 เสียง และไม่ได้ทำให้นายกฯ เปลี่ยนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นใครอื่น แต่กลับมีนัยสำคัญยิ่ง เพราะ กทม. คือศูนย์กลางทุกระบบอำนาจของประเทศนี้

มีการส่งสัญญาณจากทุกฝ่ายว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้หมายถึง การแพ้-ชนะของรัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน จะเอา พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จะเอาเผด็จการหรือเอาประชาธิปไตย จะจมจ่อมอยู่กับ รบ.3ป. ที่ไร้ประสิทธิภาพตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่านมา แม้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ คุมแทบทุกองค์กรอิสระ แต่ล่าสุดกลับเกิดวิกฤติของ “แพงทั้งแผ่นดิน” ปกปิดโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาหรือ ASF ในหมู จนเกิดสภาพหมู เห็ด เป็ด ไข่ พาเหรดขึ้นราคาทะลุฟ้า การทุจริตคอร์รัปชั่นระบาดหนักจนดัชนีความโปร่งใสต่ำเตี้ยลงทุกปี ตั้งแต่ คสช.ยึดอำนาจ เศรษฐกิจย่ำแย่ตั้งแต่ก่อนโควิด เจอโควิดก็ยิ่งวิกฤติ คนตกงานหลาย ๆ แสน ฆ่าตัวตายรายวัน ประชาชนหน้าแห้งลงทุกวัน สภาก็มีแต่งูเห่า มี  250 ส.ว. ลากตั้งเป็น “สภาปรสิต” กันต่อไป หรือต้องการเปลี่ยนแปลง

เลือกตั้งซ่อมเขตเดียวส่งสัญญาณทรงพลังทุกมิติ?!?

ไล่ดูคะแนนยิ่งเห็นชัด นายสุรชาติ ได้ 29,416 ขณะที่ นางสรัลรัศมิ์ ได้แค่ 7,906 แม้จะอุ้ม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ 3 ป.มาช่วยหาเสียงถึง 2 ครั้ง ก็ไม่มีผล ขณะที่เอาคะแนนฝั่งเอา “ตู่” มารวมกัน อย่าง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคกล้า 20,047 นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ พรรคไทยภักดี 5,987 น.ส.กุลรัตน์ กลั่นดี พรรคยุทธศาสตร์ชาติ 190 และ นายเจริญ ชัยสิทธิ์ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 333 ทั้งหมดได้ 33,904 ขณะที่พรรคไม่เอาตู่ ที่รวมเอา กรุณพล เทียนสุวรรณ พรรคก้าวไกล 20,361 นายรุ่งโรจน์ อิมรอฮีม พรรคไทยศรีวิไลย์ 244 รวมแล้วได้ถึง 50,021 ชนะเกือบ 2 หมื่น ตอกย้ำไม่เอา “ตู่” ชนะขาดลอย

หลายอย่างต้องเซอร์ไพร้ส์ ก้าวไกล ชนะขาดในเขตทหารเช่นเขตเลือกตั้งที่ 10 จันทรเกษม จตุจักร ก้าวไกลได้ 214 เพื่อไทย 79 พรรคอื่นต่ำ 20 หมด ปฏิรูปกองทัพต้องมา มันบอกความช้ำใจของทหารเกณฑ์ นายพลรวย แต่พลทหารยากไร้ การแจกแหลกสิ้นมนต์ขลัง 17 ปี ไม่ทิ้งพื้นที่ของ “สุรชาติ” ชาวบ้านพร้อมตอบแทนในคูหา พรรคกล้าได้เกิด ไทยภักดีไม่ผิดหวัง ยับเยินสุดคือ พปชร.เลือดไหลออกแน่ คนมาเลือกตั้ง 52% กกต.รู้สึกเดือดร้อนหรือไม่  

แต่ที่สุดทุกคนได้แสดงเจตจำนงของตัวเองผ่าน “ระบบประชาธิปไตย” ไง คนที่มาเลือกตั้งไม่ว่าจะเลือกใคร พรรคไหน คือการแสดงความต้องการของตน ทุกคะแนนจึงมีความหมาย 

พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำมาเกือบ 8 ปีแล้ว แต่ไม่ทีท่าจะลงจากหลังเสือ เพราะเชื่อมั่นใน “พลังอำนาจแฝง” มีกองทัพในมือ มี รธน.อัปยศที่ร่างเพื่อตัวเอง มี 250 ส.ว.เป็นพรรคในกระเป๋า จึงลำพองใจ แม้นักศึกษา-ประชาชน ออกมาเดินขบวนเป็นแสนขับไล่ตั้งแต่ปี 62 แต่กลับโดนระเบิดฉีดน้ำเคมีใส่ ไล่ล่า ใช้กฎหมายจับเข้าคุกนับร้อย ๆ คน จนป่านนี้ยังไม่ปล่อยตัว มีวิธีกำจัดศัตรูการเมืองทั้งทางลับทางสว่าง รวมศูนย์อำนาจที่ตนเองเบ็ดเสร็จ เลยนึกว่าจะอยู่ค้ำฟ้า?!?

เสียงสวรรค์ของประชาชนที่ลงคะแนนผ่านหีบเลือกตั้งหนนี้ คือการก่อม็อบอย่างอารยะอีกครั้งต่อจากนักศึกษา-ประชาชน บอก “ตู่” ว่า ออกไปได้แล้ว ชาติต้องการเปลี่ยน แปลงโดยเร็ว.

—————————-
ดาวประกายพรึก