“ดูหนังกับหมี” ยังคงเกาะติดแพลตฟอร์มหนังออนไลน์ เพื่อนำมารีวิวในคุณผู้ชมได้เลือกติดตามดูกันในช่วงท้ายสัปดาห์เช่นเคย โดยสัปดาห์นี้จะเป็นเรื่องราวของหนัง แอ๊คชั่นไซไฟแฟนตาซี ที่คอหนังทั่วโลกกำลังจับตามองอยู่นั่นก็คือ ซีรีส์ “Shadow and Bone” ตำนานกรีชา ที่รั้งอันดับความนิยม 1-5 ไว้ได้ตลอดทางช่อง Netflix เรื่องราวความสนุกนี้เกิดมาจาก นิยายของนักเขียน ลีห์ บาร์ดูโก (Leigh Bardugo) นักเขียนลูกครี่งชาวอเมริกัน อิสราเอล ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอาณาจักรรัสเซียต้นยุค 180 ขณะที่เหล่านักวิจารณ์ต่างให้คะแนนความสวยงามของภาพ ความดุเถื่อนดิบของบทบาทตัวละคร ไปจนถึงเรื่องราวของ sex และเพศ น้อง ๆ ซีรีส์ระดับโลกอย่าง Game of Thrones กันเลยทีเดียว
เรื่องย่อ “Shadow and Bone”
เมื่ออาณาจักร “ราฟกา” ทางตอนเหนือของโลก ได้ถูกแบ่งดินแดนออกเป็น 2 ส่วนคือ ฝั่งตะวันตกและตะวันออก โดยกลุ่มหมอกควันและความมืดได้ขั้นกลางจนแบ่ง 2 ดินแดนออกจากกัน เส้นทางที่ถูกปกคลุมเหล่านี้ถูกเรียกว่า “ดินแดนพยับเงา” แน่นอนว่าพระราชาของอาณาจักรคงไม่ต้องการให้ประเทศถูกแบ่งครึ่ง ขณะที่กองกำลังต่างโดนโจมตีจากชนกลุ่มน้อยที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน ทางเดียวที่จะจบสงครามได้ก็คือ การสยบดินแดนลึกลับด้วยผู้ใช้เวทมนตร์ หรือที่เรียกกันว่า “กรีชา” ที่สามารถใช้ “พลังสุริยะ” หรือพลังแห่งแสงสว่างขับไล่ความมืดมิดเหล่านี้ออกไปให้หมด
นายพลคิริแกน (รับบทโดย เบน บาร์น) กรีชาเจ้าแห่งความมืด ได้รวบรวมไพร่พลออกตามหา กรีชาสุริยะ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววเจอ จนกระทั่งมีข่าวว่า “อาลินา สตาร์คอฟ” (รับบทโดย เจสซี่ เมย์ ลี) ทหารสาวนักวาดแผนที่ได้ปลดปล่อยพลังสุริยะออกมา ขณะเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย ระหว่างที่ติดตามทหารหนุ่มนักแกะรอยอย่าง “มัล” หรือ “มัลเยน โอเร็ตเซฟ” (รับบทโดย อาร์ชี่ เรโนซ์) เข้าไปในดินแดนพยับเงา แล้วโดนสัตว์ประหลาดโจมตีจนบาดเจ็บ
ฝ่ายนายพลสุดหล่อไม่รอช้าที่นำตัว “อาลินา” ไปยังพระราชวังเพื่อฝึกฝนให้เป็นกรีชาแห่งแสง เวลาผ่านไปไม่นาน “อาลินา” ก็สามารถใช้พลังได้สมความตั้งใจ ซึ่งระหว่างที่ฝึก เธอยังแอบเผลอไปมีใจให้แก่ นายพลผู้รูปงามนี้ด้วย ด้านทหารหนุ่มนักแกะรอย “มัล” พยายามเขียนจดหมายถึงหญิงที่ตัวเองรักที่สุดในชีวิต แต่ก็ไม่มีจดหมายตอบกลับมา สุดท้ายเขาจึงออกไปตามหาเธอด้วยตัวเอง เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวจะเป็นอย่างไร ปริศนาในดินแดนพยับเงา จะถูกคลี่คลายลงหรือไม่ ติดตามได้ในช่อง Netflix เท่านั้น
จุดเด่นของ “Shadow and Bone”
ฉาก CG และความละเอียดในการถ่ายทำได้เนียนสมจริง มีมุมมองสถานที่กว้าง ๆ สวยงาม ผู้ชมจะได้เห็นอาณารัสเซียโบราณ ธรรมเนียม การแต่งกาย ความหลากหลายต่าง ๆ โดยมีเส้นเรื่องแยกจากกันชัดเจน แบ่งเป็น 1. “อาลินา” กับการค้นพบพลังสุริยะ 2. เรื่อง “กลุ่มโคร์วคลับ” นำโดย “คาซ เบร็คเคอร์” (รับบทโดย เฟรดดี้ คาร์เตอร์) หัวหน้ากลุ่มที่เป็นมันสมองในการวางแผนต่าง ๆ, เจสเปอร์ ฟาฮีย์ (รับบทโดย คิต ยัง) มือปืนหนุ่มที่ยิงปืนแม่นราวจับวาง และ “อิเนจ” (รับบทโดย อมิตา สุมาน) สาวกรีชาผู้ใช้มีดบินสังหาร พวกเขามีเป้าหมายเดียวกันคือ จับตัว “อาลินา” ไปแลกเงินรางวัล เส้นเรื่องนี้จะมีความสนุก เพราะจะมีการสืบค้นหาบุคคลที่มีความสามารถในการผ่านดินแดนพยับเงาได้อย่างปลอดภัย
- เรื่องความรักโรแมนติก ระหว่าง นีนา เซนิก (รับบทโดย แดเนียล กัลลิแกน) กรีชาสาวที่มีพลังเปลี่ยนจิตใจ เช่น จากที่กำลังโมโห กลับอารมณ์เย็นลงราวกับไม่ได้โกรธอะไรเลย กับหนุ่มชาวคิร์ตช์ที่ชื่อ “แมตไธอัส” (รับบทโดย คาลาฮาน สคอกแมน) ผู้เกลียดชังผู้ใช้เวทย์มนต์ จนถึงขั้นจับตัว “นีนา” ไปรอการประหาร แต่ระหว่างที่เดินทางเกิดโชคร้าย เรือมาอับปางกลางทะเล ทั้งสองจำต้องเกาะแผ่นไม้เดียวกันเพื่อเอาชีวิตรอด จากคนที่เคยเกลียดชังกัน กลับกลายเป็นใส่ใจและให้ความรัก ถือ เป็นอีกตอนที่ผู้ชมจะได้เห็นความโรแมนติกแบบจิกกัด เหมือนลิ้นกับฟันที่กระทบกัน แต่ก็ยังลงเองกันไปได้
จุดอ่อนของ”Shadow and Bone”
การพยายามให้หนังถูกการเมืองแทรกด้วยอุดมคติทางการเมืองเอง จนเกิดความเนือยและยืดเยื้อในช่วงบทกลางเรื่อง ภาพแอ๊คชั่นต่อสู้ที่ดูครึ่ง ๆ กลาง ๆ ยังทำออกมาได้ไม่เนียน เช่น เวทพายุก็ไม่ได้ทำให้พายุพัดแบบลมแรง ๆ หรือเวทไฟก็ไม่ได้ทำให้ศัตรูมอดไหม้ในทีเดียว อีกทั้ง “กรีชา” เองก็ไม่ได้พิเศษ หรือแข็งแกร่งแต่อย่างใด ทั้งที่พยายามปูพื้นเรื่องใตอนแรก ให้ดูเลิศหรูภูมิฐาน แข็งแกร่งกว่าคนทั่ว ๆ ไปแน่นอน แต่พอสู้กันจริง ๆ กลับโดนยิงด้วย ธนู กระสุนปืน หรือมีดแทงจุดสำคัญ ก็ถึงแก่ชีวิตง่าย ๆ หรือ บางรายออกมาโชว์ตัว ยังไม่ทันแสดงฝีมือง ก็จบชีวิตเสียแล้ว
4/5 กะโหลกสำหรับภาพยนตร์ซีรีส์ที่น่าสนใจในความแฟนตาซี บทบู๊สู้แอ๊คชั่นเวทมนตร์มันส์ ๆ รวมพลวัยรุ่นหล่อสวย แต่คุณหนูเด็ก ๆ อาจต้องห้ามไว้ก่อน เพราะมีบางฉากล่อแหลมในเรื่องเพศเกินไป
คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพจาก เว็บไซต์ ยูทูบ netflix