ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น คนเราแม้เกิดมาไม่ได้เพียบพร้อม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องนั่งโทษตัวเอง หรือท้อแท้ต่อโชคชะตา อย่างเช่น ด.ญ.วิภารัตน์ เกตอุบล อายุ 13 ปี หรือ “น้องป๊อปอาย” อาศัยอยู่กับ ตานริด และยายบังอร เกตอุบล ที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 1 ต.บางพลับ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
น้องป๊อปอาย ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าครอบครัวเหมือนเด็กคนอื่นๆ เพราะพ่อแม่พากันไปทำงานเป็นพนักงานขายที่ห้างแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เธอยังแบเบาะ น้องป๊อปอายจึงมีตายายเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก ป้อนข้าวป้อนน้ำส่งเสียให้เรียนหนังสือ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร พ่อแม่ก็จะส่งเงินมาให้ตายายเพื่อเลี้ยงดูลูกทุกเดือน และนานๆ จะกลับมาเยี่ยมบ้านได้กอดลูกสักครั้ง
ที่บ้านของน้องป๊อปอายจะมีตากับยาย และน้าชายอาศัยอยู่ด้วย โดยจะช่วยกันทำไก่ต้มน้ำปลาขาย แต่ละวันตากับน้าชายต้องออกไปซื้อไก่สด เมื่อกลับมาถึงบ้านทุกคนก็จะช่วยกันต้มไก่ ทำน้ำจิ้ม เพื่อเตรียมออกไปขาย ซึ่งน้องป๊อปอายเป็นเด็กขยัน ไม่นิ่งดูดายที่จะช่วยงานได้ทุกอย่าง โดยไม่ปริปากบ่นหรือแอบออกไปวิ่งเที่ยวเล่นกับเพื่อนแต่อย่างใด เพราะเธอรู้ดีว่าทุกคนต้องทำมาหากินเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนจึงต้องอยู่ช่วยงาน
ยายบังอร เล่าว่า ตายายเลี้ยงดูน้องป๊อปอายมาตั้งแต่เล็ก ให้ได้เรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ หลานสาวเรียนอยู่ในระดับเกรด 2.5 ไม่ถึงกับเก่งมากแต่ก็เป็นเด็กขยันตั้งใจเรียนหนังสือ หลังเลิกเรียนกลับมาถึงบ้านก็อ่านหนังสือ ทำการบ้าน จากนั้นก็ช่วยทำงานบ้านทุกอย่าง กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน หุงข้าว ซักเสื้อผ้า ถอนขนไก่ และปรุงน้ำจิ้มไก่ช่วยตากับยาย
“น้องป๊อปอาย” เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนอนุบาลวัดดงตาล (วโรสุธาประชาสรรค์) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก เธอมีความฝันอยากจะเก่งภาษาจีน อยากทำงานเป็นมัคคุเทศก์ ไกด์นำเที่ยว เพราะหวังว่าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสพาพ่อแม่และครอบครัวไปเที่ยวเมืองจีนเหมือนคนอื่นเขาบ้าง หรือจะได้พานักท่องเที่ยวไทย-จีน ไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ
แต่ความฝันก็ดูจะไม่ง่ายเลย.. เพราะที่โรงเรียนไม่มีสอนวิชาภาษาจีน เธอจึงพยายามดิ้นรนขวนขวายเพื่อเรียนรู้ด้วยตัวเอง จากทางอินเทอร์เน็ตบ้าง และหาซื้อหนังสือมาหัดอ่าน หัดเขียน เพื่อเป็นพื้นฐานโดยหวังว่าหากวันหนึ่งเรียนระดับมัธยมแล้วจะได้เรียนตามที่ตั้งใจ
ด้าน ว่าที่ร้อยตรี สมเดช เรืองขจร ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดดงตาล (วโรสุธาประชาสรรค์) กล่าวว่า น้องป๊อปอาย เป็นเด็กนักเรียนที่เรียนปานกลาง แต่มีความขยันเรียน ในส่วนของฐานะทางบ้านก็ไม่ถึงกับเดือดร้อน ส่วนเรื่องที่น้องเขาอยากเรียนภาษาจีนนั้น สืบเนื่องจากทางโรงเรียนไม่มีหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาจีน โดยเพิ่งจะรู้ว่าน้องนั้นอยากพูดภาษาจีน เป็นเพระว่ามีความใฝ่ฝันอยากเป็นไกด์นำเที่ยวจะได้พาพ่อแม่ไปเที่ยวที่ประเทศจีน
วันหนึ่ง น้องป๊อปอาย ได้ติดต่อสั่งซื้อสมุดเขียนภาษาจีนไปยังเพจ สอนจีน จีนจีนนะ ซึ่งมีราคา 350 บาท และได้มีการแชตคุยกับแอดมินของเพจว่า เธอมีเงินอยู่เพียง 300 บาท ขอติดไว้ก่อน 50 บาท จึงทำให้แอดมินเกิดความสงสัย เมื่อถามไปถามมาจึงรู้ว่า น้องป๊อปอายพยายามเก็บหอมรอมริบเพื่อมาซื้อหนังสือหาความรู้ และน้องยังยืนยันอีกว่าจะไปทำงานรับจ้างขนอิฐ ล้างจาน ค่าแรงวันละ 20 บาท นำมาจ่ายส่วนที่ค้างไว้ ที่อยากได้หนังสือภาษาจีน เพราะอยากเรียนด้วยตัวเองจะได้เก่งๆ ฝันอยากเป็นมัคคุเทศก์
ต่อมาแอดมินเพจได้เผยแพร่เรื่องราวดีๆ สู่โซเชียล เล่าเรื่องราวของน้องป๊อปอาย เผยถึงเหตุผลที่อยากเรียนภาษาจีนที่ทุกคนรู้แล้วต้องอึ้ง เงิน 300 บาท น้องเก็บมา 1 อาทิตย์ มันอาจน้อยสำหรับบางคน แต่มันมีค่ามากสำหรับบางคนเช่นกัน และน้องทำให้แอดมินรู้สึกว่าภาษาจีนมันสำคัญกว่าการเรียนไปวันๆ มันมีค่าสำหรับน้องเขามากจริงๆ เรื่องราวของน้องยังเป็นแรงบันดาลใจให้ทางร้าน คิดโครงการช่วยเหลือเด็กที่อยากเรียนภาษาจีนแต่ขาดโอกาส ทั้งนี้หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปทางแอดมินเพจ ลูกเพจ และผู้ใจดีได้ร่วมสมทบทุนสนับสนุนน้องป๊อปอายส่งแบบเรียนภาษาจีนมาให้จำนวนมาก
ภายหลังได้รับหนังสือเรียนภาษาจีนที่ส่งมาถึงบ้านจำนวนไม่น้อย น้องป๊อปอายดีใจถึงกับน้ำตาซึม กล่าวว่า ทุกวันนี้นอกจากจะช่วยงานบ้าน ช่วยทำไก่ ทำน้ำจิ้มแล้ว เวลาตาไปรับจ้าง บางวันหนูก็จะตามไปด้วย เห็นเขากำลังขนอิฐกันอยู่จึงขอไปช่วยทำ แต่เขาก็ไม่ให้ทำ หนูจึงตื๊อว่าขอทำด้วย เพราะอยากได้เงินมาซื้อหนังสือภาษาจีน เขาจึงยอมให้ทำ และเขาก็ให้เงินมา 50 บาท แต่หนูขอแค่ 20 บาท ก็เพียงพอแล้ว “หนูคิดว่าเราอยากได้อะไรก็ต้องรู้จักทำงานและเก็บเงินซื้อมันจะเป็นความภูมิใจมากกว่า”
วันนั้นหนูได้ทักแชตไปที่แอดมินของเพจขายหนังสือคัดจีน เพื่อจะซื้อหนังสือแต่เงินไม่พอจึงขอติดเงินไว้ก่อน 50 บาท และบอกว่าจะทำงานหาเงินโอนไปใช้ให้ทีหลัง เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร แล้วเขาก็ถามไปเรื่อยๆ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ หนูก็บอกว่าถ้าแอดขายให้หนู 300 บาท จากราคา 350 บาท เขาก็จะขาดทุน แต่หลังจากตกลงซื้อกันแล้ว แอดก็จะโอนเงินคืนมาให้ หนูก็บอกว่าไม่เป็นไร แต่แอดเขาก็ยืนยันให้หนังสือเป็นของขวัญปีใหม่กับหนู หนูขอบคุณมากๆ เลย และขอบคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุน หนูตั้งใจจะเรียนรู้ด้วยตัวเองให้เก่ง และจะทำให้ดีที่สุด
คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : ครรชิต กระโห้แก้ว จ.สุพรรณบุรี
แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่..