จะมีไหม ใครที่จะบ้ายอมควักเงินตัวเองกว่าครึ่งแสนซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกต้นไม้ถนนสองข้างทาง
ที่สำคัญไม่ใช่ที่ดินของตัวเองด้วยซ้ำ
สัปดาห์นี้ “เสือสมุทร” จะพาไปพบกับเรื่องราวของชาวบ้านผู้จิตใจดี ควักเงินตัวเองปลูกต้นทองอุไรกว่า 1,800 ต้น ด้วยความสำนึกรักบ้านเกิด
บนถนนสายเขาไพร-ศาลาบ้านหลวงด้วง เชื่อมต่อระหว่างหมู่ที่ 2 ถึงหมู่ที่ 3 ต.เขาไพร อ.รัษฎา จ.ตรัง ระยะทางยาวประมาณ 7 กิโลเมตร จะบานสะพรั่งไปด้วยดอกทองอุไรสีเหลือง
นักท่องเที่ยวที่ใช้ถนนสายดังกล่าวในช่วงเวลานี้จะได้ชื่นชมกับความสวยงามสองข้างทางถนน ซึ่งมีมากเกือบ 1,800 ต้น
โดยทุกต้นปลูกโดยฝีมือของ นายสุรินทร์ ดำสุข อายุ 52 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.เขาไพร อ.รัษฎา จ.ตรัง เพื่อให้ถนนทางเข้าหมู่บ้านทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยสีสันและความสวยงามละลานตาของดอกทองอุไร
ซึ่ง “สุรินทร์” ได้ปลูกต้นทองอุไรมาตั้งแต่ปี 62 เริ่มจากลงมือเก็บขยะ ตัดหญ้าและหาต้นพันธุ์มาปลูก โดยใช้เวลาว่างหลังกรีดยางพาราและช่วงเย็นมาขุดหลุมปลูกอยู่คนเดียว หมดเงินไปกว่า 50,000 บาท
แรกๆ ชาวบ้านไม่เข้าใจว่าจะปลูกไปทำไม ปลูกแล้วได้อะไร
จนกระทั่งดอกทองอุไรสีเหลืองเริ่มบานสะพรั่งทำให้เกิดภาพความสวยงามที่ทำให้นักท่องเที่ยวและประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนสายดังกล่าวต้องแวะถ่ายภาพดอกทองอุไรในมุมต่างๆ กันอย่างไม่ขาดสาย
ปีนี้ดอกทองอุไรเริ่มโตเต็มที่ทำให้มีช่อดอกที่สมบูรณ์และสวยงาม
มีฝูงผึ้งหลวงจำนวนมากแวะเวียนมาเก็บเอาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ไปทำรัง
โดยถนนสายดังกล่าวได้ชื่อว่าเป็นถนนสายที่มีดอกไม้สวยที่สุดใน จ.ตรัง
สร้างความภาคภูมิใจให้กับนายสุรินทร์ เป็นอย่างมาก ที่ตั้งใจปลูกด้วยสำนึกรักบ้านเกิด และอยากจะตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเมื่อมีโอกาสทำได้
ย้อนไปก่อนหน้านี้นายสุรินทร์ ได้ปลูกต้นบานชื่น ต้นมะละกอ และพืชผักสวนครัวชนิดอื่นๆ บนถนนสายดังกล่าวเพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
แต่ทนแล้งได้ไม่นานก็ตายลง!
จนกระทั่งได้หันมาปลูกดอกทองอุไร ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากชาวบ้าน และผู้นำชุมชนรวมทั้งส่วนราชการ บางหน่วยงานที่ปีนี้ได้สนับสนุนปุ๋ยมาให้ด้วย
“สุรินทร์ ดำสุข” ชาวบ้านผู้ปลูกต้นทองอุไร เล่าว่า ตนปลูกมาตั้งแต่ปี 62 ปีนี้ 64 ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร กว่า 1,800 ต้น ถนนสายนี้เชื่อมต่อระหว่างหมู่ที่ 2 ต.เขาไพรไปจนถึงหมู่ที 3 ต.เขาไพร อ.รัษฎา โดยปลูกคนเดียวใช้เวลาหลายเดือน ตั้งแต่ตัดหญ้าเก็บขยะและสั่งต้นพันธุ์มาปลูก
แรกๆ ชาวบ้านไม่เข้าใจว่าปลูกทำไม จนกระทั่งออกดอกบานสะพรั่ง จึงได้รับเสียงชื่นชมเพราะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
ช่วงนี้เป็นฤดูกาลของเขา และจะบานไปเรื่อยๆ จนกว่าฝนจะลงเดือน 6 ตั้งแต่เดือนธันวาคม-มีนาคม ซึ่งจะบานเดือนละครั้งช่วงบ่ายถึงเย็น
“คนจะแวะเข้ามาเยอะ รู้สึกภูมิใจเพราะเป็นบ้านเกิดของผม ผมอยากจะให้สวยเหมือนบ้านคนอื่นหรือสวยกว่าไปเลย ซึ่งตั้งใจมานานแล้วว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างตอนอายุเยอะขึ้น และก็ได้ทำสำเร็จ อย่างน้อยก็เป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง” สุรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
จิตใจที่ดีผนวกกับความแน่วแน่อยากสร้างคุณประโยชน์ให้กับบ้านเกิด
“สุรินทร์ ดำสุข” จึงถือเป็นชาวบ้านแบบอย่างที่ดีงามโดยแท้.
………………………………………
คอลัมน์ “คนดีของสังคม”
โดย “เสือสมุทร”
ข้อมูล-ภาพ “ทรงวุฒิ นาคพล” ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จ.ตรัง
อ่านเรื่องราว “คนดีของสังคม” ได้ที่นี่..