นับถอยหลังไม่นานจากนี้จะถึงวันปีใหม่ช่วงบรรยากาศส่งท้ายปลายปีเช่นนี้จะเห็นการส่งมอบของขวัญส่งต่อความรู้สึกห่วงใย ความระลึกถึงกัน…

นพ.อภิชาติ จริยาวิลาศ

นอกจากของขวัญที่คัดสรรตั้งใจมอบให้กับคนใกล้ชิด เพื่อนสนิท คนในครอบครัว ของขวัญรางวัลสำหรับมอบให้ตนเอง เป็นอีกเรื่องที่ดี ๆ มีเรื่องน่ารู้หลายมิติ นายแพทย์อภิชาติ จริยาวิลาศ จิตแพทย์ และโฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขให้ความรู้ว่า ในบรรยากาศปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง หลายคนอาจกำลังมองหาสิ่งของส่งมอบแทนความรู้สึก มอบให้บุคคลที่เคารพนึกถึง แต่อย่างไรแล้วก็ต้องไม่ลืมมอบของขวัญให้กับตนเองด้วย ของขวัญส่งท้ายปีที่หมออยากแนะนำคือ ขอบคุณตนเอง ขอบคุณกับทุกเรื่องราวในปีนี้ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องสุขภาพ การงาน หรือการเรียน ฯลฯ ที่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ ซึ่งต้องไม่ลืมที่จะขอบคุณตัวเราเอง ชื่นชมตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมสำรวจตัวเองด้วยว่า อะไรที่อาจผิดพลาดไปก็ ให้อภัยตัวเอง

ของขวัญในปีใหม่สำหรับตัวเราเองอาจตั้งเป้าหมายชีวิตกันใหม่ ทบทวนนำข้อผิดพลาดจากปีที่แล้วมาแก้ไข ทั้งนำข้อดีจากปีที่แล้วมาเสริมให้ดีขึ้น ในความจำเป็นที่เราต้อง มีเป้าหมาย ก็เพื่อได้มีหลักยึด ตลอดทั้งปีอาจต้องเผชิญกับเรื่องราวต่าง ๆ บางครั้งอาจทำให้เกิดความสับสนว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่โอเค หรือไม่ หรือต้องทำอย่างไรต่อ การมีหลักยึดมีเป้าหมายจะทำให้เราวางแผนได้ ประเมินตนเองได้ง่ายขึ้น ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด

จิตแพทย์และโฆษกกรมสุขภาพจิต คุณหมออภิชาติอธิบายเพิ่มว่า เริ่มจากการหาเป้าหมายก่อน เป้าหมายของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน แต่อย่างไรแล้วเป้าหมายที่ดีควรมีความชัดเจน เป็นรูปธรรม และมีแนวทางปฏิบัติชัดเจน เช่นตั้งเป้าจะเก็บเงินในจำนวนที่ตั้งใจ ควรวางแผนว่าจะมีวิธีการเก็บออมอย่างไรเพื่อให้สามารถสะสมได้จริงตามจำนวน และ วัดผลได้จริงจากจำนวนวันและเวลา อย่างการตั้งเป้าเก็บเงินตามจำนวนที่ตั้งใจ วางแผนว่าแต่ละช่วงเดือนจะเก็บสะสมได้เท่าไร ไม่รอวัดผลในเดือนสุดท้ายของปีเพราะอาจไม่เป็นไปตามเป้า

“ควรตั้งเป้าช่วงเวลาให้ชัดเจน จากนั้นควรเขียนสิ่งต่าง ๆ จดบันทึก เขียนใส่กระดาษ หรือเขียนบันทึกไว้ในมือถือฯลฯ เพื่อช่วยเตือนให้ทำตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้การใช้วิธีจำ บางครั้งเมื่อผ่านไปนานอาจลืมเลือน และอีกสิ่งสำคัญคือ ตั้งเป้าหมายตามความสามารถ สถานการณ์ สิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าตามความเป็นไปได้จริงเพื่อมีแรงจูงใจ ทำได้สำเร็จ

อีกส่วนสำคัญ ต้องมีการปรับตัว สำรวจตนเองว่า มีพฤติกรรมใดที่เป็นข้อดี ที่จะเสริมให้เราทำได้สำเร็จ เช่น การใช้จ่ายด้วยความระมัดระวัง ทำบัญชี หรือมีพฤติกรรมใดที่อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางต่อเป้าหมาย อย่างเช่นการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ทั้งนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งการงาน การเงิน สิ่งแวดล้อมหรือความสัมพันธ์ในครอบครัวได้

ของขวัญที่เลือกให้กับตนเองมีหลายรูปแบบ อาจเป็น สิ่งของ หรือเป็นรูปแบบการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเช่น บางคนให้ รางวัลกับตัวเองด้วยการไปเที่ยว หรือบางครั้งอาจเลือกของขวัญให้ตนเองด้วยการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ให้รางวัลกับร่างกายตนเอง โดยช่วงเทศกาลได้หยุดพักผ่อน อาจทำสิ่งที่ชอบ สนใจไม่ว่าจะเป็น วาดรูป อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ดูแลเรื่องอาหารโภชนาการ การนอนหลับให้ดีกว่าเดิม ฯลฯ ถือเป็นการให้รางวัลกับตนเอง

ในปีที่กำลังจะมาถึง คุณหมออภิชาติให้มุมมองการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจตนเองเพิ่มอีกว่า จากปีที่ผ่าน ๆ มามีโควิดซึ่งต้องปรับตัว ปีใหม่อาจมีการปรับตัวใหม่ ๆ โดยบางคนใช้ช่วงจังหวะนี้ดูแลชีวิต สุขภาพสมดุลขึ้น การเปิดรับข้อมูลต่าง ๆ ควรพิจารณา เลือกรับข้อมูลที่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงข้อมูลจากที่เขาเล่าว่า หรือข้อมูลที่ไม่มีที่มาที่ไป ที่ไม่น่าเชื่อถือ

การให้ของขวัญกับตัวเองก็ใช่ว่าจะมีขึ้นเฉพาะปีใหม่ แต่ด้วยช่วงเวลานี้ปลายปี หรือต้นปีใหม่เป็นช่วงจังหวะที่ผูกพันกับเงื่อนไขวันเวลาที่สำคัญ ทำให้ภาพที่มุ่งมั่นตั้งใจชัดเจน แต่อย่างไรแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขอบคุณ ขอโทษ ให้อภัยตัวเอง ให้รางวัลตัวเองทำได้ตลอดปี เปลี่ยนทุกวันให้เป็นวันใหม่ได้เสมอ นำแนวคิดเหล่านี้ไปปรับใช้ซึ่งจะช่วยให้เรามีหลัก มีช่วงเวลาที่ทำให้เราจดจำสิ่งดี ๆ เป็นกำลังใจให้กับตัวเราได้ดี

“ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง นอกจากสุขภาพกายดีแล้ว สุขภาพจิตก็ต้องดูแลเอาใจใส่ การที่เราให้รางวัลตัวเอง ขอบคุณ ขอโทษ ให้อภัยตัวเอง เป็นการเพิ่มกำลังใจ เป็นเหมือนการสำรวจอารมณ์รู้เท่าทันตัวเอง ทั้งยังเสริมข้อดี ให้กำลังใจตนเองได้มากขึ้น ขณะเดียวกันลดความเสียขวัญของตัวเองเมื่อต้องพบเจอสถานการณ์ต่าง ๆ พยุงตัวเราให้ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ไปง่ายได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ตัวเรามีพลังใจมากขึ้น”

คุณหมออภิชาติขยายความเพิ่มอีกว่า เราอาจตั้งเป้าหมายได้หลายเรื่องและหลายด้าน แต่ที่สำคัญควรมีความชัดเจน โดยที่จะแนะนำจัดแบ่งเป็นสามส่วน อย่างแรก สุขภาพกาย ตั้งเป้าว่าจะดูแลสุขภาพกายเราอย่างไร ถ้ามีโรคเดิมโรคประจำตัว ดูแลรักษาให้ดีขึ้นไม่ให้กำเริบ ควรป้องกันโรคใหม่ไม่ให้มีเพิ่ม และควรเสริมความแข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย ดูแลการกินอาหาร การนอนให้เป็นเวลา ฯลฯ

ส่วน สุขภาพใจ เป็นการดูแลอารมณ์ตนเอง โดยถ้าเริ่มมีปัญหาความเครียด ทุกข์ใจ ไม่สบายใจ ควรพูดคุยปรึกษาผู้อื่น ปรึกษากับคนที่ไว้ใจเชื่อถือ ไม่ควรเก็บไว้ ถ้าไม่ทราบว่าจะพูดคุยกับใครสามารถพบแพทย์ ปรึกษาจิตแพทย์ได้ นอกจากนี้ควรสำรวจอารมณ์ตนเองบ่อย ๆ จากที่กล่าวการขอบคุณ ขอโทษเป็นส่วนหนึ่ง

นอกจากนี้เป็น เรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเรียน การใช้ชีวิต ฯลฯ อาจตั้งเป้าวางจุดหมาย ความตั้งใจ ทั้งนี้คุณหมออภิชาติให้มุมมองทิ้งท้ายเพิ่มอีกว่า สุขภาพกายสุขภาพใจต้องดูแลให้ดีไปพร้อมกัน ทั้งนี้หากสุขภาพกายไม่ดี กินอาหาร พักผ่อนไม่ดี สุขภาพจิตใจก็แย่ลงเกี่ยวเนื่องต่อกัน หรือถ้าเจ็บป่วย ไม่สบายก็มีผลเช่นกัน จากที่กล่าวหากมีความผิดปกติ มีปัญหาใดที่ไม่  สบายกาย ไม่สบายใจสามารถมาพบแพทย์ พูดคุยส่งความรัก ความระลึกถึงกับคนในครอบครัว คนรอบข้างโดยถ้าอยู่ไกลสามารถใช้เทคโนโลยีสื่อสารกัน และอีกส่วนหนึ่งคือการใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท เป็นอีกสิ่งสำคัญ…

พร้อมเริ่มต้นปีใหม่ที่จะมาถึงด้วยความสดใส มีพลัง.