ยกให้เป็นอีกหนึ่งซูเปอร์ฮีโร่ที่ครองใจคนทั่วโลก และมีแฟน ๆ รักมากที่สุด สำหรับ “สไปเดอร์แมน (Spider-Man)” หรือ “ไอ้แมงมุม” เพื่อนบ้านผู้แสนดี ที่ตอนนี้เหล่าสาวกกำลังรอคอยใจจดจ่อ สำหรับ “สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม (Spider-Man : No Way Home)” ที่กำหนดเข้าฉายในไทย วันที่ 23 ธ.ค. นี้ และยังคงได้ ทอม ฮอลแลนด์ มารับบท “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” ซึ่งเล่าเรื่องต่อจากภาคก่อนหน้านี้ อย่าง “สไปเดอร์แมน : ฟาร์ ฟรอม โฮม  (Spider-Man: Far From Home)” เมื่อ “ปีเตอร์ พาร์คเกอร์”  ถูกวายร้าย “มิสเทอริโอ” เปิดเผยตัวตนว่าเป็น “สไปเดอร์แมน” และใส่ร้ายว่าเขาได้สังหาร “มิสเทอริโอ”  ทำให้ทั้งตัวเขาเองและคนรอบข้างใช้ชีวิตลำบาก และเดือดร้อน ทำให้ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ต้องไปขอความช่วยเหลือจาก “ด็อกเตอร์ สเตรนจ์” (เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์) เพื่อให้แก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยการร่ายมนต์ ลบความทรงจำของคนทั้งโลก แต่ตามมาด้วยผลลัพธ์ที่เลวร้ายกว่าเดิม ส่งผลให้ครั้งนี้เข้าต้องเผชิญกับเหล่าร้ายมากมายจากต่างมิติ และการบิดเบี้ยวของจักรวาลโลกคู่ขนาน!

ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ของหนัง “สไปเดอร์แมน” ทำให้แฟน ๆ ตื่นเต้นกันมาก โดยเฉพาะการที่แฟน ๆ ต่างคาดหวังที่จะได้เห็น “สไปเดอร์แมน” ทั้ง 3 เวอร์ชั่น อย่าง โทบี แม็คไกวร์   , แอนดรูว์ การ์ฟิลด์  และ ทอม ฮอลแลนด์ ฟาดฟันเหล่าร้ายในหนังเรื่องเดียวกัน ความฝันนี้จะเป็นจริงหรือไม่ คงต้องตามไปดูกันใน “Spider-Man : No Way Home”!

ซึ่งหลังเปิดฉายรอบพิเศษ สำหรับสื่อมวลชนและนักวิจารณ์ที่นครลอสแอนเจลิสของสหรัฐฯ ไปก็ได้รับวิจารณ์เชิงบวกอย่างมาก รวมทั้งล่าสุดเว็บไซต์ “Deadline” ได้รายงานว่า “Spider-Man : No Way Home” ทำรายเปิดตัวไป 50 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1,700 ล้านบาท) ซึ่งเป็นรายได้ในคืนเปิดตัวสูงสุดของ Sony และเป็นรายได้เปิดตัวในวันธรรมดาสูงสุดเป็นลำดับที่ 3 รองจาก “Avengers: Endgame” และ “Star Wars: The Rise of Skywalker” อีกด้วย

งานนี้ “เทรนดี้ ฟรีไทม์” จึงไม่พลาดรวมเอาชุดสูทปฏิบัติการของ “สไปเดอร์แมน” ทั้ง 3 เวอร์ชั่น มาฝากแฟน ๆ เพื่อเป็นการต้อนรับหนังภาคใหม่ของฮีโร่เพื่อนบ้านผู้แสนดี “ไอ้แมงมุม” และอุ่นเครื่องก่อนไปดูหนังเรื่องนี้กัน

.

 โทบี แม็คไกวร์  (Tobey Maguire)

ชุดสไปเดอร์แมน คลาสสิค (Classic Costume Suit)

เริ่มกันที่รุ่นพี่ โทบี แม็คไกวร์ เจ้าของหนัง “สไปเดอร์แมน (Spider-Man)” เวอร์ชั่นคลาสสิก ฉบับขึ้นหิ้ง ที่ฉายในปี 2002 ซึ่งมีออกมาทั้งหมด 3 ภาค โดย ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์  เวอร์ชั่นนี้มาใน “ชุดสไปดี้คลาสสิค (Classic Costume Suit)” ที่ดีไซน์ออกมาได้คล้ายคลึงกับต้นฉบับในคอมมิคอย่างมาก ทั้งเรื่องของการเลือกสี ที่ท่อนบนเป็นบอดี้สูทสีแดง แต่งแต้มด้วยสีน้ำเงิน บริเวณด้านข้างเล็กน้อย ตัดกับกางเกงสีน้ำเงินในท่อนล่าง โดยมีการออกแบบให้เห็นลายละเอียดลวดลายใยแมงมุมอย่างชัดเจนรอบตัว และรัดรูปจนเห็นกล้ามเนื้อของพ่อหนุ่มสไปดี้ ที่สำคัญยังมีสัญลักษณ์ “แมงมุม” สีดำมีขนาดใหญ่บริเวณกลางหน้าอก และสัญลักษณ์แมงมุมสีแดงกลางหลัง ในส่วนดวงตาเป็นสีขาว มีขนาดใหญ่ และมีขอบดำ แต่ไม่มีเครื่องพ่นใย เพราะในหนังเวอร์ชั่นนี้ปรับให้สไปเดอร์แมนพ่นใยได้เอง!

ชุดนักมวยปล้ำ DIY (Wrestling Suit)

นอกจากนี้ยังมีคอสตูมที่น่าสนใจ โดยใน “สไปเดอร์แมน” ภาคแรก ปีเตอร์ ได้ออกแบบชุดสูทแบบดีไอวาย (DIY) สำหรับเข้าร่วมการแข่งขันมวยปล้ำ เพื่อชิงเงินรางวัล ซึ่งเป็นเสื้อแขนยาว สีแดง เนื้อผ้าธรรมดา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์แมงมุม และใยขนาดใหญ่ตรงกลางหน้าอก ขณะที่ด้านหลังก็สกรีนเป็นรูปแมงมุมเต็มตัว และกางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ขาจั๊ม คลิบขอบข้างสีแดง ใส่กับถุงมือสีแดงขาว และรองเท้าผ้าใบสีแดง  เพอร์เฟ็คลุคด้วยการใส่หมวกไหมพรมสีแดงเข้าชุดปิดบังใบหน้า ตามสไตล์ไอแมงมุม

ชุดแมงมุมสีดำ ซิมบิโอต (Black Suit & Symbiote Suit)

คอสตูมนี้ปรากฏใน “สไปเดอร์แมน” ภาค 3 ซึ่งเป็นชุดที่เกิดจากชีวภาพจากต่างดาว ชนิดปรสิตแฝงร่าง หรือ ซิมบิโอต ชื่อ “เวน่อม” เข้าครอบงำ จนทำให้ชุดสูทของ ปีเตอร์ กลายเป็นสีดำล้วน ซึ่งมันทำให้ ปีเตอร์ แข็งแกร่งขึ้น มีพลังรุนแรงขึ้นแต่ทว่าเขานั้นต้องแลกมาด้วยการสูญเสียตัวตน ปีเตอร์  ได้ปลดปล่อยด้านมืด และกลายเป็นคนที่ก้าวร้าวรุ่นแรง ซึ่งชุดสูทซิมบิโอตนี้ ถูกดีไซน์เป็นสีดำทั้งตัว แต่ยังคงสัญลักษณ์รูปแมงมุม รวมทั้งลวดลายของใยแมงมุมเอาไว้อย่างชัดเจน!

.

แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ (Andrew Garfield)

ชุดสไปเดอร์แมน คลาสสิค (Classic Costume Suit)

มาต่อที่ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ ที่มาพร้อมหนังฉบับรีบูท 2 ภาพ โดยในภาคแรก ใช้ชื่อว่า “ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน (The Amazing Spider-Man)” ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ได้มีการปรับชุดออกปฏิบัติการของสไปเดอร์แมนจากเวอร์ชั่นแรก โดยช่วงบนของสูทยังคงเป็นสีแดง แต่ดีไซน์เพิ่มพื้นที่ของผ้าสีน้ำเงินมากยิ่งขึ้น โดยด้านหลังเป็นสีน้ำเงินทั้งชุด ในส่วนกางเกงก็เป็นสีน้ำเงิน ซึ่งตัวชุดมีเส้นลายใยแมงมุมสีดำที่ชัดเจน และดูดุดันขึ้น ขณะที่สัญลักษณ์รูป “แมงมุม” ก็เปลี่ยนไปจากเวอร์ชั่นแรกเช่นกัน โดยมีดีไซน์ตัวแมงมุมให้มีก้นที่แหลมขึ้น ขณะที่ขาก็ยามากขึ้นจนกลมกลืนไปกับลายใยแมงมุมสีดำ ตัวสูททำดวยผ้ายืดสแปนเด็กซ์ ที่มีความยืดหยุ่นสูง นอกจากนี้ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์  ยังดัดแปลงหน้ากาก โดยใช้เลนส์จากแว่นตากันแดด นอกจากนี้เขายังประดิษฐ์เครื่องยิงใย (Web Shooter) ซึ่งตรงตามคอมมิคอีกด้วย

ชุดสไปดี้ DIY (Vigilante Suit)

สำหรับในภาคแรกของ “ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน (The Amazing Spider-Man)” นี้ก็มีคอสตูมดีไอวายที่ ปีเตอร์ ใส่ในช่วงแรก ๆ เพื่อออกล่าเหล่าคนชั่ว พร้อมหาตัวคนที่ฆ่าลุงเบน ซึ่งเป็นชุดง่าย ๆ ใส่เพียงหน้ากากสีแดง แมชท์ด้วยหมวกไหมพรมสีดำ และแว่นกันแดดสีดำ เพื่ออำพรางใบหน้า ภายใต้ชุดลำลองทั่วไป อย่าง แจ๊กเก็ตหรือเสื้อแนวสตรีทสวมทับแบบคูล ๆ

ชุดอัลติเมท สไปเดอร์แมน (Ultimate Spider Man Suit)

ต่อมาใน “ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน 2 (The Amazing Spider-Man 2 )” ในภาคนี้ก็มีปรับชุดออกปฏิบัติการของไอแมงมุมอีกเล็กน้อย โดยมีความคล้ายคลึงกับชุด “อัลติเมท สไปเดอร์แมน (Ultimate Spider Man Suit)” ในคอมมิค ซึ่งเป็นชุดที่ ปีเตอร์ ได้ออกแบบร่วมกับหวานใจ  เกวน สเตซี่  โดยภาพรวมทั่วไปของชุดยังคล้ายกับชุดในเวอร์ชั่นแรก แต่ได้มีการอัปเกรดให้ดวงตาของหน้ากากมีขนาดใหญ่ขึ้น และแทนที่ด้วยเลนซ์กระจกสีขาว ขอบสีดำ ขณะที่สัญลักษณ์แมงมุมมีความยาวของขาที่สั้นลง ส่วนเครื่องยิงใย  ก็สามารถพ่นใยได้หลากหลายรูปแบบ และดัดแปลงให้เป็นแม่เหล็กชาร์จเก็บประจุไฟฟ้าได้อีกด้วย

.

ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland)

ชุดสูทจากป๋าดัน “ไอรอนแมน (Iron Man)”

เดินทางมาถึงการรีบูทครั้งนี้ 3 ในรอบ 14 ปีของหนัง “สไปเดอร์แมน” และยังเป็นการกลับคืนอ้อมอกการผลิตของ “มาร์เวล สตูดิโอส์ (Marvel Studios)” ซึ่งได้ถูกบวกรวมเข้ากับจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ MCU (Marvel Cinematic Universe)  โดยในเวอร์ชั่นนี้ได้ ทอม ฮอลแลนด์ มารับบท ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์  เปิดตัวครั้งแรกในหนัง “กัปตันอเมริกา : ศึกฮีโร่ระห่ำโลก ( Captain America: Civil War) ในฐานะทีม “ไอรอนแมน” พร้อมท่าเด็ดในการฉกโล่ของกัปตัน และประโยคสุดต๊าชในทีเซอร์ “Hey Everyone!” ซึ่งครั้งนี้มีการปรับที่มาของชุดสูทไอ้แมงมุมเล็กน้อย จากที่เคยเป็นชุดที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง เหมือนใน 2 เวอร์ชั่น ชุดออกปฏิบัติการของเจ้าหนูสไปดี้ในเวอร์ชั่นนี้ได้มาจาก  โทนี่ สตาร์ค หรือ ไอรอนแมน อัจฉริยะยอดนักประดิษฐ์ ที่สร้างสูทนี้ให้ ปีเตอร์ เพื่อให้สไปเดอร์แมน ไปช่วยเขาทำศึกกับทีม “กัปตันอเมริกา” หรือ สตีฟ โรเจอร์ส ในช่วงเวลานั้น ในส่วนของดีไซน์ชุด ยังคงสีเอกลักษณ์คลาสสิคสีแดงและน้ำเงินเอาไว้อย่างชัดเจน ดวงตาสีขาวขอบดำ และสัญลักษณ์ของ “แมงมุม” ที่ดูขาสั้นลงและดูทันสมัยมากขึ้น ขณะที่ลายเส้นใยรอบตัวก็ถูกดีไซน์ให้ดูเบาลง ทำให้ดูโมเดิร์นขึ้น

ซึ่งชุดนี้ทำจากเส้นใยชนิดพิเศษที่ความแข็งแกร่ง ทนทาน ไม่ขาดง่าย มาพร้อมฟังก์ชั่นเทคโนโลยีสุดล้ำมากมายที่ คุณสตาร์ค จัดหนักมาให้ ไม่ว่าจะเป็น  “ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ”  ที่มี “แคเร็น” เป็น AI  ที่คอยช่วยให้ข้อมูลและคำแนะนำการใช้อุปกรณ์พิเศษต่างๆ  ในชุด พร้อมทั้งรายงานสภาวะการใช้งาน รวบรวมข้อมูลการใช้งาน และยังเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลกลาง เพื่อสืบหาข้อมูลต่าง ๆ ได้ด้วย , “เว็บวิง (Web Wings)” ซึ่งเป็นเป็นปีกที่สร้างจากใยแมงมุมซ่อนอยู่ใต้วงแขน ช่วยให้ร่อนลงจากที่สูงได้ , “เครื่องยิงใยแมงมุม (Web-Shooter)” ที่อัปเกรดโดย โทนี่  จนทรงประสิทธิภาพ สามารถยิงใยออกมาได้ 576 รูปแบบ มีทั้งภาพโฮโลกราฟิกขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือในการยิง และควบคุมการทำงานด้วยเสียง  ซึ่งเครื่องยิงนี้จะติดอยู่ที่ข้อมือของสไปเดอร์  , “เข็มขัดอเนกประสงค์ (Utility Belt)” ซึ่งจะติดกลักสำรองสำหรับเติมเข้าเครื่องยิงใยไว้ถึง 6 กลัก , “เลนส์พิเศษ (Eye Lenses)”  สำหรับตาของชุดสไปเดอร์แมน นั้นมีเลนส์ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ สามารถเลือกการมองเห็นได้หลากหลาย ทั้ง แสกนเป้าหมายด้วยคลื่นแสงสเปคตรัมได้ ทำให้สไปเดอร์แมน สามารถมองเห็นเป้าหมายที่อยู่ภายในอาคารได้ รวมทั้งประมวลผลวิเคราะห์ออกมาเป็นรูปภาพ

“ร่มชูชีพ (Parachute)” ร่มนิรภัยที่ซุกซ่อนไว้ภายใต้โลโก้แมลงมุมที่กลางหลัง ร่มชูชีพจะทำงานอัตโนมัติ เมื่อสไปเดอร์แมนอยู่ในสภาวะแรงกดอากาศที่สูงเกินขีดจำกัด , “ระบบสุญญากาศ (Vacuum Seal)”  ที่ช่วยในการถอดหรือสวมชุดได้สะดวก เมื่อใส่ชุดอยู่แล้วกดที่สัญลักษณ์แมงมุมที่หน้าอก ชุดจะขยายตัวขึ้นแยกออกจากผิวสัมผัสร่างกายของปีเตอร์ ทำให้เขาถอดชุดออกได้ง่ายๆ แต่ในขณะที่สวมใส่แล้วกดปุ่มที่หน้าอกชุดก็แนบกระชับเข้ากับตัว ปีเตอร์  

นอกจากนี้ยังมี “ระบบทำความร้อนภายในชุด (Heater)” , “โดรนสอดแนม (Spider-Drone)” ที่ดีไซน์เป็นรูปแมงมุมตัวน้อย และ “เครื่องติดตามส่งสัญญาณหาพิกัดเป้าหมาย  (GPS Tracking System)” เป็นต้น เรียกว่าเป็นสูทปฏิบัติการ ที่มาพร้อมความไฮเทคแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบเลยทีเดียว ซึ่งชุดสูทนี้ยังถูกใช้ใน “สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง (Spider-Man: Homecoming)” หนังสไปดี้เดี่ยวภาคแรกของเวอร์ชั่น MCU นี้ด้วย

ชุดปฏิบัติการ DIY

ใน “สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง” เรายังได้เห็น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์   ทำชุดสูทดีไอเองเองอีกครั้ง เมื่อเขาโดนไอรอนแมนยึดสูทปฏิบัติการสุดไฮเทคนั้นคืน โดยชุดดีไอวายนี้ ก็ยังได้เรฟเฟอเร้นท์ถึงชุดสูทหลัก ซึ่งปีเตอร์หยิบเอาเสื้อและกางเกงแขนยาวสีน้ำเงิน สวมทับด้วยเสื้อฮู้ดแขนกุดสีแดง ที่มีสัญลักษณ์รูปแมงมุม พร้อมอำพรางใบหน้าด้วยหมวกโม่งสีแดง และแว่นตาที่ประดิษฐ์เอง ดูไปดูมาก็น่ารักไปอีกแบบ!

ชุดไอออน-สไปเดอร์ (Iron Spider Armor)

อีกหนึ่งชุดปฏิบัติการณ์สุดว้าว! ที่ประดิษฐ์โดย โทนี่ สตาร์ค ซึ่งชุดนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในท้ายเรื่องของ “สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง” เมื่อ ไอรอนแมน เสนอมันให้ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เป็นของขวัญ แต่ตอนนั้นเขายังไม่ได้สวมใส่ เพราะคิดว่า ไอรอนแมน แกล้งลองใจในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกทีม “อเวนเจอร์ส” ก่อนที่เราจะได้เห็นระสิทธิภาพของชุดนี้แบบเต็ม ๆ ใน “อเวนเจอร์ส : มหาสงครามล้างจักรวาล (Avengers: Infinity War)” เมื่อ ปีเตอร์ ตาม โทนี่ ขึ้นยานอวกาศไป โดยที่ โทนี่  ได้เรียกชุด “ไอออน-สไปเดอร์” (Iron Spider Armor) เข้าสวมร่าง ปีเตอร์  ได้แบบทันที โดยที่ชุดยังอยู่ที่ฐานปฏิบัติการ

 โดยชุด “ไอออน-สไปเดอร์” ได้แรงบันดาลใจจากชุด Mark XLVI ของ ไอรอนแมน ตัวดีไซน์เป็นเกราะเหล็ก  ท่อนบนเป็นแดง กลางหน้าอกเป็นสัญลักษณ์ “แมงมุม” ขนาดใหญ่เต็มหน้าอก และมีกางเกงสีดำ ซึ่งภายในชุดมีอุปกรณ์และความสามารถพิเศษมากมาย เชื่อมต่อและควบคุมระยะไกลได้ด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ F.R.I.D.A.Y  ของ โทนี่ สตาร์ค  แถมยังบรรจุเตาปฏิกรณ์พลังงานขนาดเล็กไว้ เหมาะสำหรับการต่อสู้เต็มรูปแบบ!  โดยมีฟังชั่นก์ทั้งการมารวมร่างกับสไปเดอร์แมนได้ฉับไว  เหมือนกับชุดเกราะไอออนแมน , ขาแมงมุมทั้ง 4 สุดแข็งแกร่ง ซึ่งถูกซุกซ่อนไว้ด้านหลังชุดไอออน-สไปเดอร์ และจะปรากฏออกมาเมื่อกดปุ่มที่โลโก้แมลงมุมบนหน้าอก โดยขาทั้ง 4 ก็จะกางออกมาจากด้านหลัง  ใช้ได้ทั้งเป็นอาวุธในการต่อสู้ ช่วยปีนป่าย และทำหน้าที่แทนมือในการหยิบจับสิ่งของต่างๆ , ปรับสภาวะภายในอัตโนมัติ  ซึ่งชุดนี้สามารถป้องกันผู้สวมใส่เมื่อสภาวะภายนอกเป็นอันตราย เช่น การออกสู่อวกาศนอกโลก ชุดก็จะปล่อยออกซิเจนออกมาภายในให้ผู้สวมใส่มีอากาศหายใจ

ส่วนที่โหดสุดคือ “โหมดฆ่าไม่ยั้ง (Instant Kill Mode)” ใช้ในขณะคับขันที่ต้องต่อสู้กับศัตรูที่ร้ายกาจ ซึ่งเมื่อเข้าสู่โหมดนี้ขาทั้ง 4 ด้านหลังจะทำหน้าที่เป็นอาวุธสังหารรอบทิศทางอัตโนมัติ และตาของสไปเดอร์แมน จะกลายเป็นสีแดงเพลิง เรียกว่าเป็นระบบที่น่ากลัวสุด ๆ นอกจากนี้ยังมี “เครื่องยิงใยความหนาแน่นสูง (Armored Web-Shooters)” , “ระบบตอบสนองความต้องการผ่านประสาทสัมผัส (Neural-Reactive Interface)” รวมถึงออกแบบด้วยนาโนเทคโนโลยี ซึ่งเราได้เห็นชุดนี้กันไปแล้วใน “อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก (Avengers : Endgame)” ,  “สไปเดอร์แมน : ฟาร์ ฟรอม โฮม  ” และจะได้เห็นใน “สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม ” ด้วย

ชุดสเตลท์ สูท (STEALTH SUIT)

ใน “สไปเดอร์แมน : ฟาร์ ฟอร์ม โฮม” แฟน ๆ ยังได้เห็น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ในชุดสูทปฏิบัติการสีดำสนิทในชื่อ “สูทสเตลธ์” (STEALTH SUIT) ที่ออกแบบโดยหน่วย “ชีลด์ (S.H.I.E.L.D)” เพื่อให้สไปเดอร์แมน ทำภารกิจในทวีปยุโรป จึงต้องปิดบังตัวตน และออกปฏิบัติการภายใต้ชื่อ “ไนท์ มังกี้ (Night Monkey)” ซึ่งชุดสเตลธ์นี้มีดำล้วน ปรากฏครั้งแรกในคอมมิคปี 2011  ซึ่งชุดนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Ryan Meinerding ศิลปินผู้ออกแบบและพัฒนางานวิชวล ( Visual ) ของทาง “มาร์เวล สตูดิโอส์”  ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดของ“สไปเดอร์แมน  นัวร์ (Spider-Man Noir)” และเอเจนท์ของ “S.H.I.E.L.D.”  รวมกับ “แบล็ค วิโดว์ (Black Widow)” และ “ฮอว์คอาย (Hawkeye)”  อีกด้วย  

สำหรับชุดสเตลธ์ เหมาะสำหรับภารกิจการสอดแนมและพรางตัว เนื่องจากไม่เกิดเสียงแม้แต่น้อยในการเคลื่อนไหว ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวต่างๆ ก็ตรวจไม่พบ ซึ่งชุดสเตลธ์ในภาคนี้ได้ตัดอุปกรณ์พิเศษออกไปจากที่ปรากฏในคอมมิค โดย ทอม ฮอลล์แลนด์ ได้เคยเล่าว่า ชุดสเตลธ์เป็นชุดที่สไปเดอร์แมนจะต้องพึ่งพาความสามารถของตัวเองมากกว่าชุดอื่น ซึ่งความสามารถหลัก ๆ ของชุดสเตลธ์ ได้แก่เส้นใยทอพิเศษที่เชื่อมประสานกันเป็นเนื้อเดียว ทำให้ชุดมีประสิทธิภาพในการพรางตัวและดูดซับเสียงได้ดี  มีอุปกรณ์สะกดรอย Spider-Tracers และเมื่อเนื้อผาฉีกขาด ชุดสามารถเชื่อมต่อรอยขาดได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งกันไฟและความร้อนสูง และตัวชุดยังคงมีเครื่องยิงใยความหนาแน่นสูง

ชุดปฏิบัติการอัปเกรด (Upgraded Suit)

ชุดปฏิบัติการอัปเกรดปรากฏใน  “สไปเดอร์แมน : ฟาร์ ฟอร์ม โฮม” โดยเป็นชุดที่ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ได้ออกแบบเอง โดยใช้เทคโนโลยีของ โทนี่ สตาร์ค ซึ่งชุดนี้ได้ใส่ไอเดียของปีเตอร์แบบเต็ม ๆ โดยมีเปลี่ยนสีชุด จากน้ำเงินแดง มาเป็นชุดเป็นสีดำแดง เทคโนโลยีต่าง ๆ และความสามารถของชุดหลัก ๆ ยังเหมือนเดิม แต่ถูกตั้งค่าให้ง่ายต่อการใช้งานของปีเตอร์เอง เช่น มีการมีพัฒนาเครื่องยิงเว็บ ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ส่วน เว็บวิง ก็เปลี่ยนจากใต้แขน มาเป็นหน้าแขนเชื่อมโยงไปถึงหัวไหล่ และมีขนาดของปีกที่ใหญ่ขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการร่อนอยู่กลางอากาศ โดยมี Glide Stabilizers  ที่ช่วยควบคุมทิศทางในการร่อนกลางอากาศได้ดีกว่าเดิม พร้อมด้วยเครื่องยิงประจุไฟฟ้า (Taser Webs) และร่มชูชีพ เป็นต้น

ชุดปฏิบัติการ พลังเวทย์

อีกหนึ่งความน่าตื่นเต้น คือชุดปฏิบัติการใน “สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม” เราจะได้เห็นชุดสไปเดอร์แมนสีดำล้วน ที่มีวงแหวนเวทย์ที่แขน เหมือนพวกนักเวทย์ อย่าง “ดอกเตอร์ สเตรนจ์”  โดยที่ตัวชุดยังมีการลงอักขณะคล้ายอักษรเวทย์อีกด้วย เรียกว่าเราอาจได้เห็นสไปเดอร์แมน ใช้พลังเวทย์กัน!

เรียกว่าแต่ละชุดปฏิบัติการ ในแต่ละเวอร์ชั่น ก็มีความเท่ ไม่แพ้กันเลยจริง ๆ แล้วแฟน ๆ ล่ะ!? ชอบชุดปฏิการไหนของสไปเดอร์แมนมากที่สุด

ภาพ : Sony / Columbia Pictures / Marvel Studios / Walt Disney Studios Motion Pictures