ขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่น่าจับตามองสุด ๆ ในตอนนี้ สำหรับ กาโฮ (Gaho) นักร้องและนักแต่งเพลงมากความสามารถ รวมทั้งยังเป็นเจ้าพ่อเพลงประกอบซีรี่ส์ดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพลง “Start Over” จากซีรี่ส์ “Itaewon Class” ที่การันตีความสำเร็จ รับรางวัลเพลงประกอบซีรี่ส์ยอดเยี่ยม จากเวทีประกาศรางวัลทางดนตรีสุดยิ่งใหญ่ของเอเชีย “2020 Mnet Asian Music Awards” นอกจากนี่ยังมีเพลง“Running” จากซีรี่ส์ “Start-Up” และเพลง“Memories” จากซีรี่ส์ “Jirisan” เป็นต้น
ล่าสุดเจ้าตัวได้ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรก อย่าง “ไฟร์เวิร์คส (Fireworks)” ออกมาแล้ว ซึ่งเป็นผลงานที่เขาทุ่มสุดตัว มีส่วนร่วมทั้งในการแต่งเพลง เขียนเนื้อ และเรียบเรียงทั้ง 12 เพลงในอัลบั้ม โดยมาพร้อมเพลงไตเติลชื่อ “ไร้ท์ นาว (Right Now)” เพลงที่มอบพลังบวกให้ทุกคนสามารถเอาชนะช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตไปให้ได้ และที่พิเศษสุด “ฮาอึน” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์หนุ่มกาโฮแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ส่งตรงจากเกาหลีใต้ ทั้งเรื่องผลงานใหม่ มุมมองด้านดนตรี รวมถึงล้วงลึกตัวตนของหนุ่มผู้หลงรักดนตรีคนนี้มาฝากแฟน ๆ กัน
Q : แนะนำตัวกับแฟน ๆ ชาวไทยหน่อย และนิยามสั้น ๆ เกี่ยวกับตัวคุณ
กาโฮ : สวัสดีครับ ผมชื่อกาโฮครับ เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง ที่ทำงานทุกอย่างตั้งแต่เขียนเนื้อร้อง แต่งทำนอง เพื่อผลิตผลงานเพลงที่เป็นของผมเองครับ ในระหว่างที่ผมทำเพลงหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นป็อป , อาร์แอนด์บี และร็อค ผมก็มีความสุขในการแสดงออกความเป็นตัวตนของผมผ่านน้ำเสียง และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองครับ
Q : พูดถึงผลงานล่าสุด อัลบั้ม “Fireworks!” แรงบันดาลใจในการทำอัลบั้มนี้ คืออะไร?
กาโฮ : เหตุผลที่ผมเลือก ‘ไฟร์เวิร์คส (Fireworks)’ เป็นชื่อของอัลบั้มเต็มครั้งแรกของผม ก็เพราะว่าผมอายุ 25 ปีครับ ผมรู้สึกว่า ‘ไฟร์เวิร์คส’ เป็นคำที่สามารถบ่งบอกถึงช่วงอายุ 20 ของผม เวลาที่ทุกคนเห็นดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ส่องสว่างสวยงามในจุดที่อยู่สูง มันเป็นช่วงเวลาที่สั้นเพียงชั่วขณะหนึ่ง ในทำนองเดียวกันกับคนในวัย 20 ที่จะเป็นช่วงที่สดใสที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต ที่สามารถผลักดันให้คนหนึ่งไปเฉิดฉายและส่องประกายในจุดที่สูงกว่าได้
Q : คอนเซ็ปต์อัลบั้ม คือ “Youth” ช่วยบอกความหมายและที่มาของการเลือกคอนเซ็ปต์นี้หน่อย?
กาโฮ : สำหรับเพลงไตเติ้ล ‘ไร้ท์ นาว (Right Now)’ และเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้ ผสมผสานความคิดและอารมณ์ความรู้สึกจากประกบการณ์ของผมในรูปแบบต่างๆ ไม่เพียงแต่ตัวผมเท่านั้นนะครับ แต่มันยังสะท้อนถึงอารมณ์ความรู้สึกของทุกคนที่อยู่ในช่วงวัย 20ด้วย ทั้งความหวัง ความรัก มิตรภาพ ความหลงใหล ความเสียใจ ความว่างเปล่า เป็นต้น เลยเป็นตัวแทนของ ‘ยูธ (Youth)’ ด้วย ดังนั้นผมเลยตั้งจึงคอนเซ็ปต์ของอัลบั้มนี้เป็นแบบนี้ครับ
Q : ช่วยแนะนำเพลงในอัลบั้มนี้ให้แฟน ๆ ฟังหน่อย มีเพลงไหนที่อยากให้แฟนชาวไทยได้ฟังเป็นพิเศษบ้างมั้ย?
กาโฮ : อืม… ผมเชื่อว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยแพสชั่น (Passion) ในบรรดาเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้ ผมว่าเพลง ‘เฟียร์ มี (Fear me)’ เป็นเพลงที่ผมแต่งขึ้นจากคีย์เวิร์ดคำว่าแพสชั่นในใจของผม ดังนั้นผมจึงอยากแนะนำให้ฟังเพลง ‘เฟียร์ มี’ ครับ
Q : พูดถึงเพลงก่อนหน้านี้ อย่าง “RIDE” ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก แนะนำเพลงนี้ให้ฟังหน่อย?
กาโฮ : สำหรับเพลง ‘ไรด์ (RIDE)’ เป็นหนึ่งในสไตล์เพลงที่ผมอยากลองมากที่สุด เป็นเพลงแนวร็อค แต่ผมไม่อยากใช้กลิ่นอายของเพลง ‘ร็อคบัลลาด’ ที่โด่งดังในเกาหลีหรือกลิ่นอายของ ‘ร็อกง ที่เรามักชอบฟังกัน ดังนั้นผมจึงให้ความสำคัญกับการเรียบเรียงและทำนองเป็นอย่างมาก ผมเพิ่มองค์ประกอบของอาร์แอนด์บีบางส่วนด้วย เพราะคิดว่าควรมีช็อตที่หนักหน่วงในขณะที่ให้ความรู้สึกป๊อปเช่นกัน ผมพยายามสร้างเสียงที่หลากหลาย โดยเน้นที่การเรียบเรียงและทำนองขณะทำงานกับวงเคฟ (KAVE)
Q : เห็นจัดไลฟ์ – สตรีม คอนเสิร์ต “Ride Out” ด้วย พูดถึงเรื่องนี้หน่อย?
กาโฮ : จริง ๆ มันผ่านมาได้สักพักแล้วครับตั้งแต่เราปล่อย ‘ไรด์’ ผมเคยชินกับการแสดงในระดับหนึ่งแล้วในตอนนี้ แต่น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถร้องเพลงต่อหน้าและสัมผัสปฏิกิริยาของแฟนๆ ได้ทันทีทันใด ซึ่งทันทีที่สถานการณ์ดีขึ้น ผมก็อยากเจอแฟนๆ ทั่วโลกแบบตัวต่อตัวและแสดงบนเวทีของตัวเองครับ
Q : ก่อนหน้านี้คุณได้ร้องเพลงประกอบซีรี่ส์ อย่าง “Itaewon Class” และ “Start Up” ซึ่งเป็นซีรี่ส์ที่โด่งดังมากในไทย คุณรู้สึกยังไงบ้าง?
กาโฮ : สำหรับเพลง ‘สตาร์ท (Start)’ และ ‘รันนิ่ง (Running)’” ได้ปล่อยมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ดีใจที่หลายคนยังรักมันอยู่ ผมคิดว่าเพลงประกอบซีรี่ส์เป็นโอกาสที่จะแสดงให้คนอื่นเห็นอีกด้านของเสียงร้องของผม ผมหวังว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกในอนาคต เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมได้ร่วมร้องเพลง ‘เม็มโมรี่ (Memories)’ ประกอบซีรี่ส์ ‘จีรีซาน (Jirisan)’ ร่วมกับนักแสดงที่มีชื่อเสียง 2-3 คน โปรดให้ความรักเพลง ‘เม็มโมรี่’ นี้เยอะๆ ด้วยนะครับ
Q : ทั้ง “Itaewon Class” และ “Start Up” ล้วนเป็นซีรี่ส์ที่เกี่ยวกับความฝันของวัยรุ่น ความพยายามในการสร้างธุรกิจวัยรุ่น เป็นความตั้งใจของคุณที่เลือกร้องเพลงประกอบซีรี่ส์แนวนี้ หรือเป็นเพียงความบังเอิญ และเวลาที่ต้องถ่ายทอดเนื้อเพลงเกี่ยวกับความฝันของวัยรุ่นแบบนี้ มีอะไรที่คุณโฟกัสในการร้องหรือถ่ายทอดเป็นพิเศษมั้ย?
กาโฮ : บริษัทผู้ผลิตของออริจินอล ซาวด์แทร็ก (OST) ทั้งสองเรื่องนั้นเป็นบริษัทโปรดักชั่นเดียวกัน ชื่อ ‘เบลนดิ้ง (Blending)’ เนื่องจากมีภาพลักษณ์ที่ดีเข้ามาเกี่ยวข้องเวลาคัดเลือก ซึ่งภาพตามอุดมคติของ ‘กาโฮ’ ก็คือ ‘พลังของวัยรุ่น’ ที่ปรากฏอยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมคิดว่าทั้งสองเพลงได้รวมเอาบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวัยรุ่น เมื่อผมร้องเพลงออริจินอล ซาวด์แทร็ก ผมก็พยายามทำให้มันมีชีวิตชีวามากที่สุด เพราะผมรู้สึกถึงทิศทางและความรู้สึกพิเศษที่ผู้แต่งมีอยู่ในใจ นอกจากนี้ผมยังพยายามเอาตัวเองเข้าไปรวมด้วยครับ
Q : นอกจากนี้คุณยังคัฟเวอร์เพลงของเกิร์ลกรุ๊ปดัง อย่าง “BLACKPINK” ไม่ว่าจะเป็น “Lovesick Girls” , “How You Like That” และ “On The Ground” เป็นต้น ซึ่งแฟน ๆ ก็ชื่นชอบมาก อยากรู้ว่าการร้องเพลงที่เป็นเสียงร้องของผู้หญิง ส่วนตัวต้องปรับเยอะมั้ย หรือได้มีการเพิ่มเทคนิคยังไงให้เพลงออกมาสมบูรณ์แบบ?
กาโฮ : อย่างแรกเลย ผมตั้งใจไม่ฟังทั้งเพลงหลายครั้งเกินไป ด้วยวิธีนี้ผมจึงสามารถใช้กลิ่นอายของเพลงต้นฉบับได้มากที่สุด แต่ยังคงใส่ความเป็นต้นฉบับของตัวเองไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพลง ‘ฮาว ยู ไลค์ แดด (How You Like That)’ มีการเพิ่มเสียงที่น่าดึงดูดเข้าไปอีก คุณจะรู้เมื่อคุณได้ฟัง ดังนั้นหากคุณจับได้ ผมจะมีความสุขมาก
Q : ทำไมคุณถึงคัฟเวอร์เพลง “BLACKPINK” อยู่เสมอ ชื่นชอบอะไรของสาว ๆ เกิร์ลกรุ๊ปวงนี้เป็นพิเศษรึเปล่า?
กาโฮ : เมื่อผู้ชายคัฟเวอร์เพลงที่ร้องโดยผู้หญิงเป็นหลัก ผมคิดว่ามันให้ความรู้สึกที่แตกต่างเป็นพิเศษนะ ดังนั้นเพลงส่วนใหญ่ที่ผมร้องนั้นต้นฉบับจะเป็นเพลงของนักร้องหญิง (เช่น ฮาลซีย์ , เทย์เลอร์ สวิฟต์ และ ราเชล ยามากาตะเป็นต้น) เพลงของแบล็กพิงก์ (BLACKPINK) ผสมผสานกันได้ดีมากครับ ผมจึงเชื่อว่าผมจะสามารถแสดงให้ทุกคนเห็นอีกด้านของเพลงเมื่อผมคัฟเวอร์เพลงของพวกเธอ ดังนั้นผมจึงคัฟเวอร์เพลงของแบล็กพิงก์อยู่บ่อยๆ
Q : คุณอยากร่วมงานหรือฟีทเจอริ่งกับศิลปินคนไหนในโลกอีกบ้างมั้ย?
กาโฮ : ผมชื่นชอบ ‘เซย์น มาลิก’ ที่เป็นอดีตสมาชิกของวง วันไดเรกชัน และก็อยากร่วมงานกับเขา รวมถึงร่วมงานกับนักดนตรี อย่าง ‘อิมเมจิ้น ดรากอนส์’
Q : คุณอยากนิยามดนตรีสไตล์คุณว่ายังไง?
กาโฮ : เนื่องจากว่าผมยังไม่ประสบความสำเร็จตามที่พูด มันรู้สึกยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ผมอยากจะเป็นที่จดจำในฐานะนักดนตรีที่ลองแนวเพลงต่างๆ ในหมวดป๊อป และยังคงสนุกกับความท้าทายต่างๆ เช่นเดียวกับผู้ที่พเนจรในทางดนตรีอย่างมีอิสระ ผมหวังว่าเมื่อผู้คนฟังเพลงของกาโฮพวกเขาจะไม่รู้สึกเบื่อครับ
Q : ท้ายสุดหากนิยามตัวเองเป็นเครื่องดนตรี คิดว่าเป็นเครื่องดนตรีอะไร?
กาโฮ : ถ้าให้นิยามตัวเองว่าเป็นเครื่องดนตรี ผมคิดว่ามันคงจะเป็นคีย์บอร์ด ไม่ใช่แค่คีย์บอร์ดธรรมดานะแต่ยังเป็นคีย์บอร์ดที่ดังอีกต่างหาก มันสนุกดีนะครับ เพราะเป็นครั้งแรกเลยที่ผมถูกถามคำถามนี้ (หัวเราะ)
เชื่อว่าด้วยแพสชั่น ความตั้งใจ และพลังคนรุ่นใหม่ของ “กาโฮ” จะทำให้เกิดผลงานดี ๆ ประดับวงการเพลงได้อย่างมากมายแน่นอน
ฮาอึน
