กลายเป็นอีก 1 เกม ที่ “หืดจับ” แต่ก็ลงเอยด้วย 3 แต้มสำหรับลูกทีมของ เจอร์เกน คลอปป์…

การต้อนรับตำนานอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด กลับสู่ถิ่นแอนฟิลด์ ในฐานะกุนซือทีมคู่แข่ง กลายเป็นเกมที่แฟนบอล “หงส์แดง” หลายคนรอคอย หนึ่งคือพวกเขารอคอยวินาทีแรกที่ “สตีวีจี” เดินพ้นอุโมงค์ลงสู่สนาม เพื่อที่จะได้ลุกขึ้นยืนปรบมืออดีตกัปตันทีมผู้เป็นที่รักของ “เดอะ ค็อป” ทุกหมู่เหล่าให้มือบวม

ซึ่งภาพที่เห็นก็เป็นเช่นนั้น ทุกคนในแอนฟิลด์ ลุกขึ้นยืนปรบมือต้อนรับ เจอร์ราร์ด กันดังกระหึ่มท่ามกลางสายฝน…

และอีกเหตุผลที่หลายคนจับตาเกมนี้ ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะต้องการรอดูว่า เจอร์ราร์ด มี “ของ” มากน้อยขนาดไหน เพราะจะว่าไปนี่เป็นเกมที่ยากที่สุดแล้วตั้งแต่เขาเข้ามาคุม “สิงห์ผงาด”…

ไหนจะคำสัมภาษณ์ของ คลอปป์ ก่อนเกม ที่ฟันธงว่าสักวันหนึ่งข้างหน้า “สตีวีจี” จะกลับมาเป็นนายใหญ่แห่งถิ่นแอนฟิลด์แน่ หลายคนจึงน่าจะอยากดูว่า เจอร์ราร์ด พอจะมีแววหรือเปล่า?

ซึ่งหลังจบเกมเชื่อว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลคงมีคำตอบสำหรับตัวเองแตกต่างกันไป

เกมนี้ “สตีวีจี” วางหมากให้ วิลลา รับแน่นแล้วรอสวน ไม่ได้มาในสไตล์บู๊ล้างผลาญเหมือนสมัยเป็นนักเตะแต่อย่างใด โดยใช้ โอลลี วัตกินส์ เป็นตัวเล่นโต้กลับ ซึ่งเกมรับทำได้ตามเป้า ขณะที่เกมรุก ถ้าคนที่ช่วย วัตกินส์ เล่นเกมสวนกลับเป็นใครสักคนที่ดีกว่า แอชลีย์ ยัง “สิงห์ผงาด” อาจสร้างเซอร์ไพรส์ไปแล้วก็ได้

ส่วน “หงส์แดง” นั้น เกมรับและแดนกลางถือเป็นตัวหลักทั้งหมด แต่ในแดนหน้า การใส่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงในตำแหน่ง “False 9” แทนที่ ดีโอโก โชตา ที่สภาพร่างกายไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้เกมรุกของทีมดูขาดอะไรไปสักอย่าง …

อันที่จริงเกมนี้ “หงส์แดง” เอาบอลเข้าไปในเขตโทษของ วิลลา ได้บ่อยมากตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว แต่ดูเหมือนเกมรับของทีมเยือนไม่ได้ลำบากลำบนอะไรกับการสกัดเคลียร์บอล เมื่อไม่มีใครเข้าไปยืนค้ำด้านในสักเท่าไหร่ ขอแค่ระวัง ซาลาห์ กับ มาเน ที่จะลากตัดเข้าไปทำเองเท่านั้น…

ด้วยเหตุนี้ คลอปป์ จึงต้องตัดสินใจใส่ โชตา ลงมาตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง แต่ถึงตอนนั้น เกมรับ วิลลา ตั้งเกมได้แบบอยู่ตัวแล้ว ไม่ว่าบอลจะมาทางไหนสกัดได้หมด

แต่สุดท้าย ความสามารถเฉพาะตัวที่เหนือกว่าก็ช่วยให้ “หงส์แดง” เก็บ 3 แต้มได้อย่างเฉียดฉิว เมื่อ ซาลาห์ ลากเข้าเขตโทษแล้วใช้เหลี่ยมเบียดจน ไทโรน มิงส์ ทะเล่อทะล่าเตะสกัด เป็นจุดโทษอย่างไร้ข้อกังขา ก่อนที่ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาด เป็นประตูชัยให้ทีมเบียดชนะ 1-0

จากช่วงปลายตุลาคนต่อถึงพฤศจิกายน ลิเวอร์พูล เคยเป็นทีมที่ยิงอย่างกับปืนกล รัวคู่แข่ง 3-4 ศูนย์ติดต่อกันมาหลายนัด ถึงช่วงนี้ กว่าจะได้ 3 คะแนนแต่ละทีถือว่าต้องออกแรงกันเหนื่อยหนัก แต่สิ่งสำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด นั่นคือทีมได้ 3 แต้ม ในช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งของซีซั่น

และเป็น 3 แต้มที่ทำให้ทีมยังไล่กดดัน แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ชนะไปก่อนแล้วในช่วงหัวค่ำต่อไป

และสำหรับคำถามข้างต้นที่ว่า เจอร์ราร์ด ดูมีแววสำหรับเก้าอี้กุนซือ “หงส์แดง” ในอนาคตหรือไม่?

สำหรับผมแล้ว หลังนั่งดูเกมนี้จนจบ คำตอบคือ…. ใช่ !!!

เครดิตภาพ : AP