ชีวิตแสนเศร้าของสาวกระบี่ ครอบครัวยากจนสู้ทนจนเรียนจบมีงานทำ หวังพ่อแม่จะไม่ต้องลำบากอีกต่อไป แต่ไม่รู้เคราะห์กรรมอะไร พ่อแม่ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งกันทั้งคู่ คนเป็นลูกจะนิ่งดูดายได้อย่างไร ใบหน้าที่ต้องยิ้มให้ผู้คนแต่แอบร้องไห้กับตัวเอง ทั้งต้องทำงานหาเงินและต้องดูแลพ่อแม่ที่ล้มป่วยเป็นเรื่องหนักยิ่งสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ ที่ต้องเป็นเสาหลักครอบครัวแบกรับภาระและฝ่าฟันไปให้ได้
นางสาวสุพัตรา สามารถ หรือ น้องบี อายุ 23 ปี อาศัยอยู่กับพ่อและแม่คือ นายหมู่หำหมาด สามารถ อายุ 54 ปี และนางสาวอารีย์ สามารถ อายุ 54 ปี ในบ้านหลังเก่าทรุดโทรมไม่มีเลขที่ ปลูกติดถนนสายบ้านในสระ-ท่าเลน หมู่ 4 ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ ก่อนไปทำงานแต่ละวันน้องบีต้องดูแลพ่อแม่ ทำความสะอาดบ้านทุกอย่างให้เรียบร้อย วันไหนแม่อาการทรุดตัวเองต้องรับหน้าที่ดูแลพ่อ เช็ดตัว ป้อนข้าว หายาให้รับประทาน ซึ่งพ่อก็ลุกไม่ไหวนอนติดเตียงผอมจนเห็นหนังหุ้มกระดูก บางวันก็จะมาญาติพี่น้องชาวบ้านผลัดเปลี่ยนกันมาเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจบ้าง
“น้องบี” เล่าเรื่องราวของชีวิตว่า ครอบครัวของหนูไม่มีบ้านของตัวเอง เนื่องจากหลายปีก่อนพ่อนำบ้านไปกู้เงินจนหลุดจำนองถูกนายทุนยึด ปัจจุบันบ้านหลังนี้ที่อยู่เป็นของญาติใจดีให้อาศัย พ่อกับแม่ทั้งสองคนป่วยด้วยโรคมะเร็ง แม่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกมาตั้งแต่ปี 59 แต่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ ทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ได้ ส่วนพ่อป่วยมะเร็งปอด รู้ตัวว่าป่วยเมื่อปลายปี 63 อาการทรุดอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาไม่นานต้องนอนอยู่กับที่ร่างกายซูบผอมทำอะไรไม่ไหว
ยังดีก่อนที่พ่อจะทรุดหนักหนูเรียนจบก่อนและมีงานทำพอที่จะนำเงินมาจุนเจือครอบครัวได้บ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ทั้งค่าแพมเพิร์สของพ่อกับแม่ เดือนละ 2-3 พันบาท และค่าเดินทางพาพ่อแม่ไปรักษาตามหมอนัด ค่ากินอยู่ เนื่องจากหนูยังอยู่ในระหว่างทดลองงานเงินเดือนไม่มากและไม่รู้ว่าวันใดนายจ้างจะให้ออก เพราะทำงานได้ไม่เต็มที่ ต้องหยุดงานพาแม่ไปหาหมอบ้าง ดูแลพ่อบ้างในวันที่แม่อาการทรุด ถึงอย่างไรหนูก็ไม่ท้อกับชะตาชีวิตเพราะคนเรายังมีลมหายใจก็ต้องสู้ต่อไป
“ส่วนพี่ชายคนเดียวก็ถูกดำเนินคดีตอนนี้เข้าไปรับโทษอยู่ในคุก จึงเหลือหนูเพียงคนเดียวที่ต้องเป็นหลักในบ้าน แต่ในความโชคร้ายที่ถาโถมเข้ามาก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้างที่ช่วงนี้รัฐบาลมีโครงการคนละครึ่ง และเราชนะ หนูได้ลงทะเบียนและนำเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายเป็นค่าแพมเพิร์ส ค่ากับข้าว ค่ายาและอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับพ่อกับแม่ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก ซึ่งหลังจากหมดตรงนี้แล้วก็คงจะลำบาก และยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป”
ด้านนายอดุล ดินแดง เพื่อนบ้าน กล่าวว่า หลังจากเห็นความทุกข์ยากของครอบครัวนี้ก็รู้สึกหดหู่ที่สามีและภรรยาต้องมาป่วยด้วยโรคมะเร็งพร้อมกัน โชคดีที่มีลูกสาวนิสัยดี กตัญญู คอยดูแลพ่อแม่อย่างใกล้ชิด ส่วนบ้านที่อาศัยไม่แข็งแรงมีลูกผู้หญิงเป็นสาวรุ่นเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เห็นแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้แต่ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ของครอบครัวนี้บ้างไม่มากก็น้อย
สำหรับผู้ใจบุญที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัว นายหมู่หำหมาด สามารถ ติดต่อสอบถามได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 063-8854379 นางสาวสุพัตรา หรือ น้องบี ลูกสาวนายหมู่หำหมาด หรือบริจาคได้ที่บัญชี นายหมู่หำหมาด สามารถ เลขที่ 572-281740-8 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากระบี่
คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : วิชัย มังคะลา จ.กระบี่
แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]
คลิกอ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่..