ชีวิตหนุ่มยอดกตัญญูผู้ไม่ท้อต่อโชคชะตาตั้งแต่เกิดมาสุดรันทดไม่รู้จักแม้แต่พ่อตัวเอง ส่วนแม่ก็หนีหายไปตั้งแต่ยังเล็ก กว่า 15 ปีไม่ได้พบเจอหน้าจำได้แต่ชื่อ ต้องอาศัยอยู่กับตายายมาตั้งแต่ 3 ขวบ ถึงวันนี้ตายายแก่ชราพิการมีโรคประจำตัว หลานชายคนนี้ก็ทำหน้าที่เป็นเสาหลักเลี้ยงดูผู้มีพระคุณ ห่วงก็เพียงความฝันที่ตั้งใจจะเรียนให้จบ แต่ครอบครัวยากจนขาดทุนทรัพย์ที่จะส่งไปให้ถึงฝั่ง  

“น้องเบส” นายชูเกียรติ เนียมเกตุ อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปวช.ปี 2 แผนกช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคยะลา อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 13/2 หมู่ที่ 1 ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา กับนายบุญมี แม้นรัตน์ อายุ 71 ปี ผู้เป็นตาซึ่งป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ และนางประไพ แม้นรัตน์ อายุ 67 ปี ผู้เป็นยายที่ป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ 3 ชีวิตในบ้านหลังเก่าทรุดโทรม ในความขาดแคลนทรัพย์สินสิ่งอำนวยความสะดวก แต่กลับเปี่ยมล้นด้วยความรักความผูกพันในบ้านหลังนี้

ตั้งแต่เด็กจนโต น้องเบส เป็นคนขยันจะเรียนไปด้วยและทำงานได้ด้วย โดยรับจ้างทำงานต่างๆ ไม่ว่าใครจะว่าจ้างทำอะไรก็ตาม และไม่ว่างานจะหนักแค่ไหนก็ไม่เกี่ยงหวังเพียงเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูตายายและส่งตัวเองเรียนให้สูงเท่าที่จะทำได้ จนทำให้คนในหมู่บ้านต่างชื่นชมในความดี และมีผู้ใจดีในชุมชนพา “น้องเบส” ไปฝากที่ร้านประกอบการในจ.ยะลา เพื่อจะได้ฝึกงานตามหลักสูตรที่เรียน 

บ้านที่อยู่ไกลจากสถานศึกษา น้องเบส ต้องอาศัยรถรับ-ส่งร่วมกับนักเรียนคนอื่นๆ ทุกวัน ตอนนี้ก็ยังคงติดค้างค่ารถมา 2 เดือนแล้ว บางวันไปเรียนช่วงพักเที่ยงก็ต้องแอบไปนั่งคนเดียวเพราะไม่มีเงินซื้อข้าวกินเหมือนคนอื่น บางครั้งก็หยิบยืมจากเพื่อนและลุงที่ขับรถรับ-ส่งบ้าง ซึ่งทุกคนก็ยินดีให้ความช่วยเหลือ น้องเบส มีความตั้งใจที่อยากจะเรียนต่อให้จบในระดับ ปวส. แต่เนื่องจากไม่มีเงินค่าเทอมจึงไม่รู้ว่าจะได้เรียนต่ออีกหรือไม่?

ถึงวันที่ฟ้ามีตาสวรรค์เห็นใจ นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้ นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เดินทางมาเยี่ยมน้องเบสและตากับยายที่บ้านพร้อมสอบถามถึงสภาพความเป็นอยู่และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิตและเรื่องการศึกษาของน้องเบส โดยมี นายทรงวุฒิ ดำรงกุล ประธานชุมชนบ้านตาชี พร้อมด้วย น.ส.ประไพ จันทรังษี นางภิรมย์ กูลสุวรรณ์ อาสาสมัครบริบารท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่และให้การต้อนรับ ท่ามกลางความความดีใจและความหวังของครอบครัวน้องเบส 

รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งให้กับน้องเบส เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช่จ่ายดูแลครอบครัวและใช้จ่ายระหว่างเรียน พร้อมกันนี้ยังจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลครอบครัวรวมไปถึงการขอความอนุเคราะห์ไปยังวิทยาลัยเทคนิคยะลาเพื่อหาทุนการศึกษาให้กับน้องเบสได้ศึกษาต่อในระดับ ปวส.

ด้านนายทรงวุฒิ ดำรงกูล ประธานชุมชนบ้านตาชี เปิดเผยว่า น้องเบส เป็นเด็กดีที่ไม่ค่อยพูดคุยสักเท่าไหร่ แต่มีความรับผิดชอบ ที่จะทำงานหาเงินเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ไม่เกเร ซึ่งคนในชุมชนจะรู้กันดี ขณะที่ น.ส.ประไพ จันทรังษี อาสาสมัครบริบารท้องถิ่น ก็บอกว่า น้องเบส เป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก หางานทำพร้อมกับเรียนไปด้วย เลี้ยงดูครอบครัวไปด้วย ที่ผ่านมาตนเองก็ได้เข้ามาดูแลตากับยายทุกวัน ทั้งด้านร่างกาย ตรวจดูการรับประทานยาตามแพทย์สั่ง และบางครั้งก็ทำกับข้าวและทำความสะอาดบ้านที่หลับที่นอนให้
 
สำหรับอีกหนึ่งข่าวดีของน้องเบส นายอิทธิฤทธิ์ ศรีชุมภู ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคยะลา ได้มอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือเพื่อใช้จ่ายในครอบครัวและระหว่างเรียน และทางวิทยาลัยเทคนิคยะลายังได้ช่วยต่อเติมที่อยู่อาศัยจัดหาอุปกรณ์ไฟฟ้ามาต่อเติมให้เพื่อเพิ่มแสงสว่างในยามค่ำคืน โดยก่อนหน้านี้ทั้ง 3 ชีวิตจะอยู่กันในบ้านที่มีไฟเพียงดวงเดียวและสายไฟฟ้าที่เก่าทั้งบ้านเสี่ยงเกิดอันตราย

หลังชีวิตเริ่มมีความหวังและเห็นแสงสว่างส่องทาง น้องเบส เผยความรู้สึกดีใจและตื้นตันใจอย่างมากที่มีผู้ใจบุญห่วงใยเข้ามาช่วยเหลือ และขอขอบพระคุณทุกๆ ท่าน โดยน้องเบส ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนให้จบสูงๆ และจะเลี้ยงดูตายายอย่างดีที่สุด

หากผู้ใจบุญท่านใดต้องการจะสนันสนุนเรื่องการเรียนและช่วยเหลือครอบครัวของ “น้องเบส” บริจาคเงินได้ที่บัญชี นายชูเกียรติ เนียมเกตุ หมายเลขบัญชี 724-0-29202-4 ธนาคารกรุงเทพ สาขาโคลีเซียมซีเนเพล๊กซ์ยะลา

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ จ.ยะลา

แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]
คลิกอ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่..