กลายเป็นข่าวฮือฮาในสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อสภาผู้แทนราษฎรไฟเขียวให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร  (Entertainment Complex) เพื่อเป็นแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ รวมทั้งการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย เพื่อการป้องกันแก้ไขการแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้า-การพนันออนไลน์อย่างครบวงจร ในกรอบระยะเวลาการศึกษาภายใน 3 เดือน โดยมีคณะ กมธ.จากพรรคการเมืองต่าง ๆ รวม 60 คน แต่ในจำนวนนี้มีบุคคลน่าสนใจประเภท “ตัวจี๊ด” ร่วมอยู่ด้วยในคณะดังกล่าว ทั้ง “ชัช-เต้-สิระ-ชาดา”

วันนี้ ทีมข่าว “1/4 Special Report” มีโอกาสคุยกับนายชัชวาลย์ คงอุดม หรือ “ชัช เตาปูน” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท เกี่ยวกับที่มาที่ไปของเรื่องดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีหลายคณะได้ทำการศึกษาและพูดถึงการเปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทยมาแล้วหลายครั้งในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แต่มักจะติดกับดักในเรื่องของ “ศีลธรรม” และอุปสรรคใหญ่ที่สุดคือความเป็น “เมืองพุทธ”

ชัชวาลย์ คงอุดม

เพื่อนบ้านมีศาสนา-แต่มีกาสิโน

นายชัชวาลย์กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่มีเบื้องหน้า เบื้องหลังอะไร ไม่มีใครมาติดต่อทั้งสิ้น เพราะตนคิดและพูดเรื่องบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายมากว่า 30 ปี เคยไปออกรายการโทรทัศน์ก็พูดกันอย่างดุเดือด เรียกว่าไปตรงไหนก็กล้าพูด เนื่องจากอยากทำให้มันถูกต้อง รัฐจะมีรายได้ไปดูแลคนที่ยากลำบาก เอาไปช่วยนักเรียนที่ต้องกู้เงิน กยศ.เรียน แก้ปัญหาไม่มีเงินส่งคืน กยศ.แล้วต้องถูกยึดบ้าน หรือเอาเงินตรงนี้ไปช่วยชาวไร่ ชาวนาที่มีปัญหาหนี้สิน หรือเจอปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง พืชผลเสียหาย ถ้ามีกาสิโนถูกกฎหมาย ผู้คนจะได้มีงานทำ ไม่ต้องออกไปทำงานต่างประเทศ

โดยที่ผ่านมามักมีเรื่อง “ศีลธรรม” เข้ามาเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาเรื่องเปิดกาสิโนที่ถูกกฎหมาย ถ้าจะอ้างว่าเราเป็น “เมืองพุทธ” พอเข้าใจได้อยู่ แต่ประเทศเพื่อนบ้านเขาไม่มีศาสนากันหรือ? มาเลเซียก็มีศาสนาอิสลาม ซึ่งเข้มงวดมากด้วยซ้ำ แต่เขามีบ่อน มีกาสิโน ประเทศสิงคโปร์มีกาสิโน เขาเก็บเงินจากกาสิโนมาเป็นรายได้

ตนเคยอ่านข้อมูล ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ทำการศึกษาไว้ว่าสิงคโปร์เก็บภาษีจากกาสิโนได้ปีละ 1.5 แสนล้านบาท คือจริง ๆ ต้องการทำเป็นศูนย์ประชุม แล้วปรับมาเป็นกาสิโนเพื่อให้นักท่องเที่ยวไว้เล่นฆ่าเวลาช่วงรอขึ้นเครื่องบินกลับ พวกนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก หรือนักธุรกิจใหญ่ ๆ เล่นเสีย 1-2 แสนบาท ไม่เป็นไรอยู่แล้ว หรือแม้แต่ในมาเก๊า เวลาตรุษจีน ปีใหม่ มีเงินมาแจกคนละ 3 หมื่นบาท ถ้ากาสิโนไม่ได้ทำเงินให้มาเก๊ามากมาย เขาจะมีเงินมาแจกคนได้ทั้งเกาะหรือ?

เอาเงิน “หวยใต้ดิน” ขึ้นมาก่อนเลย!

สำหรับประเทศไทยตนมองไปที่ “หวยใต้ดิน” คนไทยเล่นหวยใต้ดินปีละกว่า 5 แสนล้านบาท ถ้าทำให้ถูกต้อง เอาหวยใต้ดินขึ้นมาไว้บนดิน เชื่อว่ารัฐต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 30% ของจำนวน 5 แสนล้านบาท อีก 70% เป็นค่าบริหารจัดการ คิดง่าย ๆ แค่ตำบลละแห่ง ทั่วประเทศมี 8,000 ตำบล ให้ไปเลยตำบลละ 1 เจ้ามือหวย ใครอยากเป็นเจ้ามือหวยคุณจ่ายเข้ารัฐมาก่อน 10 ล้านบาท เป็นเงินค้ำประกัน ใครแทงหวยถูกไม่ต้องกลัวไม่ได้เงิน เพราะมีเงินก้อนนี้อยู่ ถ้าแทงเกินจาก 10 ล้านบาทไม่ได้นะ ต้องติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ดี ๆ ถ้าแทงเกิน 10 ล้านบาท ระบบจะตัดไปโดยอัตโนมัติ

ตรงนี้จะสร้างงาน สร้างรายได้เข้ารัฐอีกมาก แล้วเอารายได้ไปสนับสนุนกิจการตำรวจมีเงินไปเติมน้ำมันรถไว้ไล่จับโจร ไว้ตามล่าคนร้าย คือทำให้ถูกต้อง เพื่อตำรวจไม่ต้องมาเสียเวลาไปจับหวย จับนักพนัน เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า

“ผมมองว่าถึงเวลาที่รัฐบาลต้องฟังสภา เพราะคนโหวตในสภากว่า 300 เสียง เห็นด้วยให้ศึกษาเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยแค่ 9 เสียง ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี เพราะอะไร เพราะตอนนี้หวยออนไลน์ บัคคาราออนไลน์ระบาดมาก คุณจะปราบปรามอย่างไร มันปราบไม่ไหวหรอก วันนี้ทั้งหวยและการพนันออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ มีเงินสะพัดกันเดือนละ 3 ล้านล้านบาท ปีละ 36 ล้านล้านบาท แต่ถ้ารัฐเอาธุรกิจพวกนี้มาเข้าระบบให้หมด เอาเข้ามาอยู่ในกรอบ มีกฎ กติกาควบคุม รวมทั้งการเปิดกาสิโนอีก 4 แห่ง (4 ภาค) ผมเชื่อว่าต้องมีรายได้เข้ารัฐไม่ต่ำกว่าปีละ 2 ล้านล้านบาท”

นายชัชวาลย์กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาเรากังวลในความเป็นเมืองพุทธ จึงเปิดกาสิโนถูกกฎหมายไม่ได้ ตนเห็นด้วยกับการเป็นเมืองพุทธ แต่อะไรที่มีประโยชน์กับประเทศก็ต้องทำ อาจจะถูกด่าแรง ๆ บ้างก็ไม่เป็นไร ถามว่าเป็นเมืองพุทธแล้วได้อะไร เพราะรอบบ้านมีกาสิโนกันทั้งนั้น ถ้าตำรวจเข้มงวดกวดขันเมื่อไหร่ ยิ่งเหมือนสนับสนุนส่งเสริมให้คนไทยหนีออกไปเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้าน เกือบ 30 ปีมาแล้ว เคยมีข้อมูลคนไทยออกไปเล่นการพนันในกัมพูชาปีละ 8 หมื่นล้านบาท แต่ช่วง 1-2 ปีนี้ ถือว่ายังดีที่มีโควิด-19 ไม่เช่นนั้นคนไทยออกไปเล่นที่กาสิโนในประเทศเพื่อนบ้านกันเพียบ!

มีโอกาสทำกาสิโนในเขมร-แต่ไม่ทำ!

ย้อนหลังไปกว่า 30 ปีที่แล้ว ช่วงที่เมียนมา และกัมพูชาเริ่มมีกาสิโนตามแนวชายแดน เคยมีหลานของอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ ปราโมช รู้ว่าตนมีประสบการณ์เรื่องนี้ จึงเอาเงินมาให้ 500 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนทำกาสิโนในกัมพูชา แต่ตนไม่เอา เพราะไม่อยากให้เงินรั่วไหลออกไปนอกประเทศ เราจะขนเงินไปลงทุนในบ้านเขาทำไม ถ้าอยากเล่นการพนันก็เล่นอยู่ในบ้านเรานี่แหละ ถูกตำรวจจับบ้างไม่เป็นไร ถูกจับก็ไปเสียค่าปรับ แค่นั้นเอง

“ในชีวิตผมถูกจับเรื่องการพนันครั้งเดียว คือไปเล่นที่บ้านพรรคพวกแล้วถูกจับ ขนาดเดินไปเข้าห้องน้ำยังมีนักข่าวเดินตามไปถ่ายภาพ ซึ่งเป็นเรื่องตลกขบขันมากว่าผมไปโกงใครหรือเปล่า แต่แค่เล่นการพนัน เล่นได้ก็เอา เล่นเสียก็จ่าย ตอนนั้นเป็นข่าวดัง เพราะใกล้จะมีคอนเสิร์ตการกุศลหาเงินมาปรับปรุงหอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยรามคำแหง พวกอาจารย์ก็ช่วยลุ้นกันใหญ่ ช่วยบนบานเพื่อให้ศาลปล่อยตัวผม สมมุติจะมีคอนเสิร์ตวันเสาร์ แล้วต้องไปขึ้นศาลในวันศุกร์ ก็ลุ้นกันว่าให้ศาลปล่อยตัว เพื่อให้ผมไปขึ้นคอนเสิร์ตร้องเพลงการกุศลได้ ซึ่งศาลท่านก็ปล่อยตัว”

คดีเกี่ยวกับการพนันโดยมากจะถูกปรับ 1 พันบาท อาจจะสั่งจำคุกเฉพาะเจ้ามือ เจ้าบ้าน ส่วนนักพนันถ้าถูกศาลสั่งลงโทษแรง ๆ เช่นจำคุก 3 เดือน ต่อไปใครจะรับสารภาพ? ถ้าไม่รับสารภาพนี่ตำรวจยุ่งนะ เพราะงานจะเยอะเลย คดีจะเพียบ เนื่องจากต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเขาเล่นตรงไหน นั่งกันตรงไหน มันไม่ใช่เรื่องที่เกิดซึ่ง ๆ หน้า ดังนั้นการถูกสั่งปรับจึงถือว่าเป็นสิ่งที่สมควรแก่เหตุ เพราะการพนันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ เล่นพนันกันมาหลายร้อยปีแล้ว

แต่วันนี้การพนัน และกาสิโนมีการพัฒนารูปแบบไปมาก ตนเลิกเข้าบ่อน ไม่ได้ไปกาสิโนมาตั้งแต่ปี 37 ตอนนั้นเล่นเสียหลายสิบล้านบาท แต่จู่ ๆ ฉุกคิดว่าจะเล่นไปทำไม เราไม่ได้เดือดร้อนอะไร จึงไปบอกพี่เล็ก(ธานินทร์ อินทรเทพ)ว่าเลิกเล่นแล้ว ตอนแรกพี่แกไม่เชื่อว่าจะเลิกเล่นได้หรือ? แต่เลิกเล่นได้จริง ๆ ตั้งแต่ปี 37 แล้วมีโอกาสไปกาสิโนอีกครั้งตอนเป็น ส.ว. เพราะพาพรรคพวกไปดูงาน แต่ไม่ได้เล่นการพนัน

“พนันออนไลน์” พร้อมจ่ายเข้ารัฐ

ถ้าสภาจะศึกษาเรื่องกาสิโนถูกกฎหมาย ก็ต้องหาคนมีประสบการณ์ทำกาสิโน เอาคนทำบัคคาราออนไลน์ในปัจจุบันมาให้ข้อมูลว่าเขาทำกันอย่างไร มีช่องทางเก็บรายได้เข้ารัฐได้อย่างไร เพราะเขาเหล่านี้คือผู้เชี่ยวชาญ ตนห่างวงการไปกว่า 30 ปีแล้ว สภาพการพนันและกาสิโนเปลี่ยนแปลงไปมาก ยอมรับว่าอาจจะตามไม่ทัน แต่พอรู้จักคนในวงการ และรู้ว่ารัฐควบคุมไม่อยู่หรอก เพราะเล่นการพนันผ่านโทรศัพท์มือถือ เด็ก ๆ ที่มีเงิน 400-500 บาทก็เล่นได้ ที่สำคัญเครือข่ายพนันออนไลน์เขาอยากทำให้ถูกต้อง ไม่ต้องการจ่ายส่วยให้ใคร แต่พร้อมจ่ายเข้ารัฐถ้าทำให้ถูกต้อง ดังนั้นจึงต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาให้ข้อมูล หรืออาจจะต้องไปศึกษาดูงานในกาสิโนจริง ๆ นั่นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่โดยปกติถ้ามีกาสิโนที่ไหน ต้องมีกฎระเบียบต่าง ๆ อย่างรัดกุม เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไม่ได้อยู่แล้ว คนที่จะเข้ามาลงทุนต้องมีความรู้ มีประสบการณ์ ถ้ามาในรูปแบบของมหาชนทำได้อยู่แล้ว โดยภายในกาสิโนจะต้องมีกล้องวงจรปิดเต็มไปหมด ประเภทที่ว่าบ่อนโกงคนเล่นไม่ได้ ส่วนคนเล่นก็โกงบ่อนไม่ได้

ถามว่าไปทำกาสิโนไว้ในโรงแรมได้หรือไม่ ตอบว่าทำได้ แต่ไม่น่าจูงใจ ถ้าจะทำต้องทำให้ใหญ่ ลงทุนเกิน 1 หมื่นล้านบาท ให้สวยงามใหญ่โตโอ่อ่า เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา แล้วรอบ ๆ กาสิโนจะทำให้คนมีอาชีพ เช่นคนขายพวงมาลัยก็อยู่ได้ เพราะคนเล่นต้องซื้อพวงมาลัยไปไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่กันทั้งนั้น รวมทั้งร้านทำผม ร้านอาหาร แม่บ้าน คนรับรถ รปภ.อยู่ได้สบาย และที่สำคัญไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องยาเสพติด เพราะมีคนเหล่านี้ช่วยเป็นหูเป็นตา

“โดยส่วนตัวคิดว่าสามารถมีกาสิโนถูกกฎหมายได้ทุกภาค โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว หรือตามเกาะต่าง ๆ ถ้าไม่เป็นเมืองท่องเที่ยว ก็เอากาสิโนเข้าไปเพื่อให้คนมาเที่ยว ให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ประเทศมีหนี้สิน 9 ล้านล้านบาท จากสภาพปัจจุบันจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ แต่ถ้าเอาสิ่งที่ไม่ถูกกฎหมาย ขึ้นมาให้ถูกกฎหมาย เพื่อรัฐจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 2 ล้านล้านบาท โดยตัดออกไปปีละ 1 ล้านล้านบาท เพื่อทยอยใช้หนี้ 10 ปีหมด! ส่วนอีก 1 ล้านล้านบาท/ปี เอาไปช่วยเหลือนักเรียนยากจน ช่วยชาวไร่ ชาวนา และช่วยเหลือกิจการของตำรวจไม่ดีกว่าหรือ” นายชัชวาลย์กล่าว.