หากขับรถบนทางด่วนเป็นประจำมักจะเห็นซากสัตว์หมาเอย แมวเอยนอนเสียชีวิต เชื่อว่าหลายคนคงตั้งคำถามในใจว่า “หมา-แมว” มาบนทางด่วนได้อย่างไร ถ้าคิดง่ายๆ ก็บางที “หมา-แมว” อาศัยมาในรถแล้วเกิดตกใจกระโดดลง ซึ่งเราคงไม่คิดไปถึงว่าจะมีใครเอา “หมา-แมว” มาปล่อยบนทางด่วน หรือว่ามี? และอีกเหตุผลคือ “หมา-แมว” อาจจะพลัดหลงเดินขึ้นไปบนทางด่วน ด้วยอาจตกใจกลัวรถ กลัวผู้คน จนเตลิดขึ้นไปก็เป็นไปได้อย่างเช่นเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่นาน เมื่อมีรถเมล์จอดเปิดประตูรับสุนัขที่หลงเดินบนทางด่วน จนได้รับการชื่นชมบนโลกโซเชียลอย่างล้นหลามเรื่องราวทั้งหมด “เสือสมุทร” ขอย้อนเล่า เพื่อเป็นการชื่นชม “โชเฟอร์-กระเป๋า” รถเมล์ ปอ.166 ที่มีน้ำใจช่วยเหลือ “เจ้าตูบ” เปิดประตูให้ขึ้นรถ ไม่งั้นคงตายจากการถูกรถชนอย่างแน่นอน
ช่วงเวลา 11.30 น. วันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา รถเมล์ ปอ.166 (อนุสาวรีย์-เมืองทอง) ขับผ่านบนทางด่วนศรีรัช ขาออก ก่อนถึงทางลงแจ้งวัฒนะ พบสุนัขจรเดินอยู่กลางถนน ท่าทางอิดโรย ลิ้นห้อย รถต้องเบรกหลบกันวุ่น ก่อนจะพบว่า รถเมล์ ปอ.166 หมายเลขข้างรถ 7-3062 ที่มี น.ส.เตือน ประทุมทอง เป็นพนักงานขับรถ น.ส.นกน้อย สีดำ เป็นพนักงานเก็บค่าโดยสาร ได้จอดรับสุนัขตัวดังกล่าวขึ้นไปแล้ว น.ส.นกน้อย เล่าถึงวินาทีของเหตุการณ์ว่า ตอนแรกรถคันของตัวเองเพิ่งขึ้นทางด่วนอนุสาวรีย์ แล้วคนขับรถเมล์คันหน้า ชื่อคุณวิไลวรรณ ได้โทรฯ หา พขร.ว่า เห็นสุนัขจรท่าทางน่าสงสารบนทางด่วน บอกให้ระวังกลัวจะถูกชน และถ้าจอดได้ให้รับขึ้นมาด้วย เพราะอากาศร้อนมากๆ
น.ส.นกน้อย เล่าอีกว่า พอรถคันของตนขับมาถึงจุดที่พบสุนัข เห็นรถเบรกกันหลายคันจึงคิดว่าใช่แน่ พขร.จึงขออนุญาตผู้โดยสารขอพาสุนัขขึ้นรถมาด้วย ผู้โดยสารตอนนั้นมีประมาณ 10 คน ทุกคนยิ้มและไม่ได้ว่าอะไร จึงรีบเปิดประตูเรียกสุนัขขึ้นรถมา มันก็รีบขึ้นและเดินไปนอนหอบหลบอยู่ใต้เบาะที่นั่ง ไม่ยอมให้ใครจับ จากนั้นพอมาถึงท่ารถ ที่เมืองทองธานี สุนัขก็เดินลงไปมุดใต้ท้องรถ ก็หาอาหารหาน้ำมาให้มันเผื่อจะออกมากิน “ตอนนั้นเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ยังไงก็คงขอช่วยมันมาไว้ก่อน แต่ก็กังวลว่าจะถูกรายงานไปที่ ขสมก. แต่พอมาถึงท่ารถ นายท่าก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ถือว่าเป็นบุญของมันที่ลงมาได้อย่างปลอดภัย” พนักงานเก็บค่าโดยสาร กล่าว
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ใช้เส้นทางจำนวนมากโทรศัพท์มาร่วมชื่นชมในน้ำใจของพนักงานรถเมล์ ปอ.166 ที่ช่วยเหลือสุนัขจรตัวนี้ เพราะรถหลายคนต้องเบรกหลบกันวุ่น และไม่กล้าจอดให้ความช่วยเหลือเพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุมาถึงตรงนี้เรื่องราวของ “เจ้าตูบ” น่าจะจบลง หลังได้รับการช่วยเหลือแล้ว แต่ว่า..ไม่นานได้มีหญิงสาวชื่อ “คุณจิราภรณ์” เดินทางมาที่ท่ารถพร้อมบอกว่าเป็นเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าว ซึ่งมีชื่อ “คุกกี้” เดิมเป็นสุนัขจร นำมาเลี้ยงได้ 1 ปี จากโครงการหาบ้านให้สุนัข จนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเปิดประตูบ้านทิ้งไว้ เจ้าคุกกี้ก็วิ่งเตลิดหายไปทางไซต์งานก่อสร้าง โดยทุกคนที่บ้านก็พยายามขับรถวนหาจนทั่วแถวละแวกบ้าน เมืองทองธานี หาอยู่ 2 วันก็เริ่มหมดหวัง
“จนกระทั่งมีเพื่อนที่ช่วยกันตามหาเห็นโพสต์จาก JS100 ดูรูปแล้วตกใจมาก ใช่คุกกี้เลย จึงรีบขับรถไปที่ท่ารถ ตอนไปถึงคุกกี้ก็หมอบซ่อนตัว คงกลัวโดนดุ แต่จริงๆ แล้วเราดีใจกันมากๆ ที่พบตัวแล้ว ขอขอบคุณทุกคนมากๆ เลยค่ะที่ช่วยคุกกี้” คุณจิราภรณ์ กล่าว
ขณะที่ คุณชุมพล นายท่ารถเมล์ ปอ.166 เปิดเผยว่า ดีใจกับคุกกี้ด้วยที่มีเจ้าของมารับตัว จริงๆ ทางนี้ก็เอ็นดูกันทุกคน พอดีมีสุนัขจรตัวอื่นอยู่อีกตัว ก็ว่าจะให้อาหารไปพร้อมๆ กัน จะได้เป็นเพื่อนกันไป แต่พอเจ้าของมารับแล้วยิ่งดี ถือว่าเป็นบุญของมันจริงๆ
การทำดีของ น.ส.เตือน และ น.ส.นกน้อย ที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน เพียงแต่ต้องการช่วยเหลือ “เจ้าคุกกี้” เท่านั้น ทาง ขสมก. มองเห็นการทำดีในครั้งนี้ ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลให้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ หลังจากมีประชาชนชื่นชมในน้ำใจมากมาย
น้ำใจในการช่วยเหลือ “เจ้าคุกกี้” ของ “โชเฟอร์-กระเป๋า” อย่าง น.ส.เตือน และ น.ส.นกน้อย ถือเป็นต้นแบบที่ดีของมนุษย์ที่มีต่อสัตว์โลกโดยแท้.
……………………………..
คอลัมน์ “คนดีของสังคม”
โดย “เสือสมุทร”
ขอบคุณข้อมูล-ภาพภาพประกอบ : ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @รถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai,@JS100,@Sununta Pimonsin
อ่านเรื่องราว “คนดีของสังคม” เพิ่มเติม..