จากรายงานของสำนักข่าววิทยุเอเชียเสรี หรือ อาร์เอฟเอ กลุ่มชาวลาวที่คัดค้านแผนการ ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในรูปแบบของพระพุทธรูป ระหว่างสองนิกายหลักของพุทธศาสนา พระพุทธรูปที่จะก่อสร้าง เป็นปางประทับยืน ห่มคลุมจีวรตามรูปแบบนิกายมหายานของชาวจีน แทนที่จะเป็นแบบประทับนั่งสมาธิ หรือมารวิชัย ตามแบบนิกายเถรวาทหรือหินยาน ของชาวลาว

ชาวลาวรายหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ กล่าวว่า หากนักธุรกิจจีนเดินหน้าก่อสร้างพระพุทธรูปยืนตามแผน คาดว่าจะถูกต่อต้านอย่างหนักจากชาวลาวอย่างแน่นอน

พระพุทธรูปขนาดใหญ่โดดเด่นในรูปแบบนิกายมหายานของจีน จะทำให้ลาวสูญเสียภาพลักษณ์ และอัตลักษณ์ การสร้างพระพุทธรูปในดินแดนลาว ควรจะเป็นแบบเคารพสักการะของชาวลาว

บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หว่าน เฝิง เซี่ยงไฮ้ เรียล เอสเตท (Wan Feng Shanghai Real Estate Company) ของจีน มีแผนสร้างพระพุทธรูปยืน ขนาดความสูง 100 เมตร ในเขตเศรษฐกิจพิเศษบึงธาตุหลวง (That Luang Marsh Special Economic Zone) ที่เรียกชื่อย่อสั้น ๆ ว่า SEZ ในนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวลาวและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่

สื่อทางการลาวรายงานเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ในเดือน พ.ย. 2559 ว่า นายหว่าน เฝิง เจ้าของบริษัท มีแผนใช้เงินลงทุน 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,650 ล้านบาท) สร้างสวนน้ำภายใน SEZ ซึ่งจะมีพระพุทธรูปยืนขนาดยักษ์ด้วย

บริษัทหว่าน เฝิน เซี่ยงไฮ้ ทำสัญญาเช่าที่ดินจากรัฐบาลลาว เป็นเวลา 99 ปี เนื้อที่ 365 เฮกตาร์ (2,226.5 ไร่) ใน SEZ ตั้งแต่ปี 2555 จากรายงานของสื่อหลายสำนักในลาว

รัฐบาลลาวคาดหวังให้โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษบึงธาตุหลวง เป็นตัวอย่างการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภายในประเทศ และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ เข้าสู่ประเทศขนาดเล็ก ประชากร 7.27 ล้านคน และไม่มีเขตแดนติดทะเล โดยปัจจุบันจีนเป็นนักลงทุนต่างชาติ รายใหญ่สุดในลาว รวมมูลค่าการลงทุนล่าสุดที่ประมาณ 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (529,530 ล้านบาท)

เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ SEZ จะมีส่วนที่เป็นอพาร์ตเมนต์ที่พักอาศัย สำนักงาน สวนสาธารณะ ทะเลสาบ โรงพยาบาล ศูนย์การศึกษา ภัตตาคาร ร้านอาหาร ศูนย์กีฬา ห้างสรรพสินค้า โรงแรม วัด ธนาคาร และพื้นที่สีเขียว

พระพุทธรูปยืนที่จะก่อสร้างตามแผน หากสร้างเสร็จจะกลายเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงเป็นอันดับ 3 ของนครหลวงเวียงจันทน์ ประชาชนสามารถมองเห็นได้จากทุกฟากของเมือง

ชาวลาวในเวียงจันทน์อีกราย กล่าวว่า รัฐบาลลาวควรถามความเห็น ของประชาชนทั่วไป ก่อนการอนุมัติก่อสร้างพระพุทธรูป ซึ่งน่าจะเป็นศิลปะแบบลาว หรือหากเจ้าของโครงการต้องการสร้าง เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ก็ควรสร้าง 2 องค์ ทั้งแบบจีนและแบบลาว เคียงคู่กัน

ส่วนพระเถระอาวุโสรูปหนึ่งในเวียงจันทน์ บอกว่า โดยส่วนตัวท่านไม่อยากเห็น พระพุทธรูปแบบจีนตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองหลวงของลาว มันจะเป็นภาพที่ไม่เหมาะอย่างยิ่ง ในความรู้สึกของชาวลาว ที่นับถือศาสนาพุทธทั้งประเทศ

พระพุทธรูปยืนจะบดบัง และข่มรัศมี “เจดีย์ธาตุหลวง” ศาสนสถานสำคัญ ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเวียงจันทน์ ซึ่งตั้งอยุ่ทางฟากตะวันออกของเมือง เขตเดียวกันกับ SEZ

เมื่อคณะกรรมการรัฐบาลลาว นัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการก่อสร้างพระพุทธรูปจีน เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา รองนายกรัฐมนตรีกิแก้ว ไขคำพิทูน กล่าวว่า โครงการนี้ควรจะส่งเสริมวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ประเพณี ศาสนา การเกษตร และธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการท่องเที่ยวของลาว.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES