ความรักของลูกๆ เหมือนเป็นยาวิเศษต่อชีวิตให้แม่ แม้เจ็บปวดร่างกายสุดจะทานไหวแต่ต้องอดทนสู้ นางสาวธันย์ชนก ธรรมสูณ อายุ 43 ปี คุณแม่ผู้โชคร้าย ป่วยเป็นมะเร็งกระดูกระยะสุดท้าย แพทย์ที่รักษาบอกอาจอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน ยากเกินจะทำใจ ห่วงว่าถ้าตัวเองตายไปแล้วลูกสาวทั้ง 3 คน จะอยู่กันอย่างไร
ธันย์ชนก มีลูกสาว 3 คน คนโตคือ นางสาวปภาวรินท์ พุ่มศิริ หรือ น้องอุ้ม อายุ 19 ปี คนที่ 2 เด็กหญิงธนกานต์ พุ่มศิริ หรือ น้องเอิร์น อายุ 10 ขวบ และคนที่ 3 เด็กหญิงธัชญาดา พุ่มศิริ หรือ น้องเอย อายุ 7 ขวบ
ทั้ง 4 ชีวิตอาศัยอยู่กันในบ้านหลังเก่าผุพังซอมซ่อเลขที่ 41 หมู่ 4 บ้านราหุล ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เวลาฝนตกต้องหาที่หลบเพราะข้างฝาและหลังคาเป็นรูโหว่ พี่น้องช่วยกันย้ายที่นอนแม่กันจ้าละหวั่น เพื่อไม่ให้แม่เปียกฝน ขณะเดียวกันก็ต้องนั่งลุ้นกันว่าน้ำจะท่วมพื้นบ้านหรือไม่ เพราะบ้านตั้งอยู่ในที่ลุ่มเป็นแอ่งรับน้ำ หน้าฝนต้องขอยืมเครื่องสูบน้ำจากญาติมาคอยสูบน้ำออก
ก่อนหน้านี้ “ธันย์ชนก” เป็นหญิงแกร่งและสู้ชีวิตทำงานเป็นบัสโฮสเตส หรือ พนักงานต้อนรับบนรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-อู่เรือ เธอกับสามีซึ่งเป็นคนขับรถทัวร์ มีชีวิตชีพจรลงเท้าต้องเดินทางตลอดเวลา ส่วนลูกสาว 3 คน ตั้งแต่เด็กต้องฝากญาติช่วยเลี้ยงดูและสู้กัดฟันหาเงินส่งให้ลูกอย่างเดียว ขอแค่ให้ลูกได้เรียนหนังสือ ได้กินอิ่มนอนสบายก็มีความสุข
ส่วนตัวเองกับสามีต้องกินนอนบนรถทัวร์ไม่เป็นไร เพราะชีวิตมันเลือกไม่ได้!
วันหนึ่งเมื่อถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตช่วงเดือน เม.ย.64 ขณะที่ ธันย์ชนก ทำงานอยู่บนรถทัวร์ จู่ๆ เกิดประสบอุบัติเหตุรถตกหลุมอย่างแรงจนทำให้เธอได้รับบาดเจ็บกระดูกสะโพกหัก ที่หนักไปกว่านั้น แพทย์ตรวจพบว่าเธอเป็น “โรคมะเร็งกระดูก” ระยะสุดท้าย คาดว่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน แพทย์ทำได้เพียงรักษาตามอาการ
หลังรู้ข่าวร้าย!! เธอทำใจไม่ได้ถึงกับทรุดหนักกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทุกวันจะมีน้องอุ้ม น้องเอิร์น และน้องเอย คอยดูแลแม่ไม่ห่างป้อนข้าว ป้อนน้ำ บีบนวด นั่งคุยเป็นกำลังใจให้แม่ตลอดเวลา
ส่วนสามีที่อยู่กินกันนั้นไม่ใช่พ่อของลูก.. ทนรับสภาพของธันย์ชนกไม่ได้!! ขอแยกทางไปใช้ชีวิตส่วนตัว ยิ่งทำให้เธอหมดอาลัยตายอยากในชีวิต นอนติดเตียงน้ำตาไหล นึกในใจได้เห็นธาตุแท้ของคนก็ตอนนี้
ตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ “ธันย์ชนก” ล้มป่วย เงินทองที่เก็บมาทั้งชีวิตก็นำมารักษาตัวจนหมด ครอบครัวแม่ลูก 4 ชีวิต จึงต้องอยู่กันอย่างลำบาก “น้องอุ้ม” ลูกสาวคนโตต้องเป็นเสาหลักดูแลแม่และน้องสาว 2 คนที่ยังเล็ก
ธันย์ชนก นอนน้ำตาไหล เล่าว่า ก่อนหน้านี้หนูทำแต่งานเพื่อหาเงินเพราะตั้งใจจะสร้างบ้านให้ลูกได้อยู่สบายกว่านี้ และครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ตอนนี้เงินที่เก็บไว้ก็ต้องนำมารักษาตัวและใช้จ่ายในบ้านจนหมด เสียใจที่ทำในสิ่งตั้งใจไว้ไม่สำเร็จ ลูกๆ ต้องอยู่กันอย่างลำบาก
น้องอุ้ม ลูกสาวคนโต เล่าว่า แม่เป็นเสาหลักและทำงานหาเงินเหนื่อยมาตลอด ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีเวลามาอยู่กับลูกๆ เนื่องจากทำงานบริการบนรถทัวร์ แต่แม่ไม่เคยลืมที่จะต้องมาแวะดูหาลูกที่บ้านและให้เงินไว้ใช้จ่าย ส่วนหนูก็ดูแลบ้านและดูแลน้อง 2 คน ทุกครั้งที่แม่มาหา แม่จะร่าเริงแจ่มใส บอกลูกๆ ให้อดทน เพราะแม่กำลังพยายามเก็บเงินเพื่อจะสร้างบ้านใหม่ให้
“แต่วันนี้แม่ต้องนอนเจ็บป่วยทุกข์ทรมาน หนูอยากให้ปาฏิหาริย์มีจริง ให้แม่อาการดีขึ้น กลับมานั่งได้เดินได้ หนูกับน้องจะดูแลแม่ให้ดีที่สุด หรือถ้าเป็นไปได้ หนูอยากมีเงินสร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ได้อยู่ก่อนที่แม่จะจากไป เพื่อแม่จะได้หมดห่วงและทำความฝันแม่ให้เป็นจริง”
สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวของ “ธันย์ชนก” สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ น.ส.ปภาวรินท์ พุ่มศิริ หรือ น้องอุ้ม ลูกสาวคนโต โทรศัพท์ 09-2857-5003 ได้ตลอดเวลา
คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : กิตติ ตันติมาลา จ.เพชรบูรณ์
แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]