เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สร้างผลงานสะท้านวงการลูกหนังเมืองผู้ดีด้วยการเปิดบ้านเชือด ลิเวอร์พูล หวุดหวิด 3-2 และกลายเป็นทีมแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้ “หงส์แดง” ได้สำเร็จในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
ยิ่งไปกว่านั้น “ขุนค้อน” ที่เดินหน้าคว้าชัยมา 4 เกมรวด ยังขยับแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 เรียบร้อย โดยมีแต้มตามหลัง เชลซี ทีมจ่าฝูงเพียง 3 คะแนนหลังผ่านไป 11 นัด
แม้หนทางข้างหน้ายังเหลืออีกยาวไกลนัก แต่ด้วยผลงานอันร้อนแรงของ เดอะ แฮมเมอร์ส ที่เก็บแต้มในลีกได้ถึง 65 คะแนนในปี 2021 เป็นรองแค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี (80) และ เชลซี (66) ทำให้หลายคนอดคิดไม่ว่า ทีมของ เดวิด มอยส์ อาจจะสร้างเทพนิยายได้เหมือนกับที่ เลสเตอร์ ซิตี เคยทำได้มาแล้วในฤดูกาล 2015/16 ก็เป็นได้
ฤดูกาลที่แล้ว เวสต์แฮม พลาดคว้าตั๋วลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างหวุดหวิด โดยมีคะแนนต่ำกว่าท็อป 4 เพียง 2 แต้มเท่านั้น
ขณะที่ในฤดูกาลนี้ ขุนค้อน สานต่อความสำเร็จจากซีซั่นก่อนได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ของตารางชนิดเหนือความคาดหมาย
ส่วน มอยส์ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ตัวเขายังเป็นโค้ชที่มีฝีไม้ลายมือยอดเยี่ยมเหมือนเดิมด้วยการเปลี่ยน เวสต์แฮม จากทีมระดับครึ่งล่างของตารางให้ขึ้นมาเป็นทีมที่กำลังทำผลงานได้อย่างร้อนแรงที่สุดในพรีเมียร์ลีกในยามนี้ ทั้งที่เพิ่งเข้ามาทำงานในถิ่น ลอนดอน สเตเดี้ยม ได้เพียง 2 ปีเท่านั้น
จุดเด่นของ เวสต์แฮมชุดนี้อยู่ที่การเล่นเกมรับได้อย่างเป็นระบบ และการเล่นสวนกลับที่ทั้งรวดเร็ว แม่นยำ และทรงประสิทธิภาพด้วยนักเตะแนวรุกอย่าง จาร์ร็อด โบเวน, ปาโบล ฟอร์นาลส์, ซาอิด เบนรามา และมิคาอิล อันโตนิโอ โดยมีมิดฟิลด์คู่กลางอย่าง ดีแคลน ไรซ์ และโทมัส ซูเช็ค คุมเกมได้อย่างเนียนกริบ
นอกจากนี้ เวสต์แฮม ยังมีทีเด็ดที่ลูกตั้งเตะ โดยพวกเขาทำประตูจากลูกตั้งเตะไปแล้วถึง 32 ประตูนับตั้งแต่ได้ มอยส์ เข้ามาคุมทัพ ซึ่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก และมากกว่าคู่แข่งทีมอื่น ๆ ถึง 5 ประตู
ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เกจิลูกหนังจากหลายสำนักเริ่มมองว่า เวสต์แฮม อาจจะมีสิทธิฝันไกลถึงตำแหน่งแชมป์ก็คือพวกเขามีบางอย่างที่คล้ายคลึงกับ “จิ้งจอกสยาม” ชุดประวัติศาสตร์นั่นก็คือ “ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” ของนักเตะ, ผู้จัดการทีม และฝ่ายบริหาร
แม้ มอยส์ จะยังถ่อมตัว และมองว่า เป้าหมายที่เป็นไปได้จริงของ เวสต์แฮม อยู่ที่การคว้าตั๋วไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก มากกว่า แต่ถ้าขุนพลเดอะ แฮมเมอร์ส ยังสามารถยืนระยะ และทำผลงานได้ดีอย่างนี้ต่อไปได้เรื่อย ๆ แล้ว มันก็มีโอกาสที่จะเกิดเทพนิยายเรื่องใหม่ขึ้นที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม ได้เช่นกัน…
แท ยอน