เรียกว่าเป็นภาพยนตร์แฟรนไชส์อีกเรื่องที่เหล่าคอหนังชาวไทยรอคอยกันมานาน หลังจากเจอพิษโควิดเล่นงานจนต้องเลื่อนฉายไปหลายรอบ สำหรับ “FAST & FURIOUS 9″ หรือ “เร็ว..แรงทะลุนรก 9” กับการกลับมาของตำนานทีมซิ่งโอเวอร์แอ๊คชั่นแหกกฎเกณฑ์ทุกรูปแบบ จากเดิมภาค 8 แค่เอารถซิ่งเครื่อง V8 จับยัดไนตรัสกดปุ่มไปซิ่งลุยบนพื้นน้ำแข็งเพื่อซัดกับเรือดำน้ำ ก็ดูโอเวอร์แอ็คชั่นเกินไปแล้ว แต่มาถึงภาค 9 การจับเอารถหรูขั้นเทพมาแต่งซิ่งวิ่งไต่สะพานที่กำลังจะขาด รวมไปถึงการโชว์บินทะยานฟ้าขับมุ่งหน้าไปยังอวกาศ!! มันโอเวอร์หนักกว่าเก่าอีก
แต่สิ่งหนึ่งที่ภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้ไม่มีวันเปลี่ยนไปแต่อย่างใดทั้งในจอ และนอกจอ นั่นก็คือการเน้นย้ำเรื่องความสำคัญแบบ “ครอบครัว” โดยพล็อตเรื่องในจอตั้งแต่ถ่ายทำภาคแรกก็ปูเส้นทางให้แต่ละตัวละครต่างช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ตาม ทั้งยังแฝงมุมมองเกี่ยวกับการใช้ชีวิต “ในดีมีเสีย-ในเสียมีดี” วันนี้เป็นศัตรูไล่ล่าฆ่ากันเกือบตาย แต่วันหน้าอาจต้องเป็นเพื่อนตายจับมือกันเพื่อสู้กับศัตรูที่ร้ายกาจกว่า
เรื่องย่อของ FAST & FURIOUS 9 ใครจะรู้ว่าเสาหลักครอบครัวอย่าง “โดมินิค โทเรตโต” หรือ “ดอม” (รับบทโดย วิน ดีเซล) จะมีอดีตของความมืดดำอยู่ในใจ หลังจากจบเรื่องที่สู้กับเหล่านักฆ่าและองค์กรผู้ก่อการร้ายที่ต้องการยึดโลกแล้ว เขาก็พาเล็ตตี้และไบรอันลูกชายตัวน้อยไปอาศัยในบ้านพักชนบทแบบเงียบ ๆ แต่พวกเขารู้ว่า แม้จะอยู่ในดินแดนสงบสุข ก็ยังมีอันตรายอยู่ดี คราวนี้ “ดอม” ต้องเผชิญหน้ากับบาปในอดีตที่ไม่เคยจางหายไป แน่นอนว่าคือ “เจคอบ โทเรตโต” (รับบทโดย จอห์น ซีน่า) น้องคนรองที่ผันตัวจากนักขับรถซิ่งไปเป็นเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษ แต่กลับทรยศเข้ากับองค์กรก่อการร้าย เรื่องราวจะเป็นอย่างไร? ติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
จุดเด่นของ FAST & FURIOUS 9 งานโปรดักชั่นการโชว์รถ โชว์แรง โชว์แพง โชว์เซ็กซี่ โชว์เสี่ยงตาย ให้ผ่านทั้งหมด เพียงเปิดเรื่องมา 15 นาทีแรก คุยกันไม่นานก็ซิ่งรถเข้าดงปาล์มตามที่เคยเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยแล้ว ใครรอชมภาพแจ่ม ๆ ทั้งทางอากาศและมุมกล้องในรถคงไม่ผิดหวัง ลุ้นตื่นเต้นกันจนหายใจหายคอไม่ทันจริง ๆ มุมภาพแอ็คชั่นสายซิ่ง รับประกันทำออกมาได้เนียนตามแบบฉบับหนังฟอร์มยักษ์ ซึ่งก็ต้องยกความดีให้แก่ผู้กำกับคิวยานพาหนะ “เดนนิส แม็กคาร์ตี้”
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเสียดายที่การปูเรื่องราวของ “ฮาน หลิว” (รับบทโดย ซองคัง) ซึ่งตายไปตั้งแต่ภาคThe Fast and the Furious : Tokyo Drift แต่ทางค่ายหนังอยากเอาใจแฟนคลับที่เรียกร้องให้ “ฮาน” กลับมา และก็กลับมาจริง ๆ แต่เหตุผลที่กลับมาดูไม่ค่อยน่าเชื่อสักเท่าไหร่ ในส่วนของจุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้คงหนีไม่พัน “บทดราม่า” จากการเล่าเรื่องย้อนหลังเกี่ยวกับครอบครัว “โทเรตโต” บ่อย ๆ ปัญหาคือไม่สามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับบทของตัวละครได้ กลายเป็นข้อด้อยของหนังเรื่องนี้ไปโดยปริยาย
ในส่วนของการแสดง พี่ใหญ่ “วิน ดีเซล” ว่าเล่นแข็งแล้ว มาเจอกับความแข็ง หน้านิ่ง ไร้รอยยิ้มของ “เจคอบ” ที่แสดงโดย “จอห์น ซีนา” เข้าไปอีก… จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมเหล่านักวิจารณ์ภาพยนตร์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ถึงไม่ค่อยอยากให้คะแนน F9 เยอะเหมือนภาคก่อน ๆ
FAST & FURIOUS 9 ฉายที่สหรัฐไปตั้งแต่เดือน มิ.ย. วันแรกที่เปิดตัวก็โกยไปแล้ว 70 ล้านเหรียญ ก่อนทำรายได้ทะยานไปถึง 173 ล้านเหรียญ และเมื่อนำไปฉายในจีนก็ยังทำรายได้ไปถึง 203 ล้านเหรียญ ท่ามกลางกระแสโควิดที่ยังระบาดหนัก และเมื่อถึงเวลาฉายในไทยก็ยังได้รับความนิยม พร้อมกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า ภาคนี้หลุดโลกไปไกลมาก มีความโอเวอร์เกินจริงดูแล้วไม่อิน จนนำมาสู่คำถามที่ว่า “FAST & FURIOUS” ภาคต่อไป จะพาเราไปไกลถึงขนาดไหนได้อีกหนอ.
ภาณุพงศ์ ส่องสว่าง