@ ถ้านับจำนวนประชาการ จำนวนผู้ป่วยด้วย “โควิด-19” ที่ จ.ยะลา ยังเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค.ส่วนหน้า ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งมาเพื่อ “กำหราบ” การระบาดของ โควิด-19 ใน 4 จังหวัดของภาคใต้ เพราะที่ผ่านมา ผวจ.และ สสจ.ในแต่ละจังหวัดยัง “เอาไม่อยู่” ได้เรียกประชุม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม ทั้ง พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 และ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อกำหนด “ทิศทาง” ลดการติดเชื้อ และเพิ่มการฉีดวัคซีน ให้ครอบคลุมให้มากที่สุด…และยังเชิญประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เพื่อทำความเข้าใจ ความร่วมมือ ในหมู่ของผู้นำศาสนาอิสลามในพื้นที่ 4 จังหวัด ทั้งในการ ฉีดวัคซีน และการป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งทั้งหมดคือ “จุดอ่อน” ของการที่ทำให้ เชื้อ “โควิด-19” ยังเพิ่มจำนวนสูงขึ้น ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า มาตรการที่ออกมาจาก ผอ.ศบค.ที่มาจาก “ทหาร” เอาทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเพื่อรับการ เปิดประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ได้หรือไม่….

@ และจากนโยบายของ ผอ.ศบค. นี่เอง ที่ทำให้ นิพนธ์ บุญหลวง ผวจ.ปัตตานี ต้องตัดสินใจ ออกคำสั่ง ปิดหมู่บ้าน ในหลายอำเภอ หลายพื้นที่ ซึ่งมี “คลัสเตอร์” ใหญ่ เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่ “ได้อย่างเสียอย่าง” ที่อาจจะได้มาคือการทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง แต่ที่ต้องเสียคือ ความเดือดร้อนของประชาชน จากการปิดหมู่บ้าน ในเรื่องของ “ปากท้อง” ซึ่งทางที่ดี ก่อนที่จะประกาศปิดหมู่บ้าน จังหวัดต้องมีแผน มีความพร้อมในเรื่องปัญหาของ “ปากท้อง” ของคนในพื้นที่ก่อนการ “ต่อต้าน” การแสดงออกถึงความไม่พอใจก็จะลดลง…ที่สำคัญการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องดึง “ท้องที่” และ “ท้องถิ่น” โดยเฉพาะ “ท้องถิ่น” เช่น นายก อบจ. นายกเทศบาล และ นายก อบต. ต้องมีส่วนรับรู้และร่วม “บูรณาการ” แผนงานทั้งหมด เพราะเป็นหน่วยงานที่มี “งบประมาณ” ในการแก้ปัญหา “ปากท้อง” ที่เป็นความเดือดร้อนอันดับแรกของการ “ปิดหมู่บ้าน”

@ ส่วนที่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ ระบาดของ โควิด-19 เป็นอันดับ 2 เกือบทุกวัน ทั้งที่ เจษฎา จิตรัตน์ ผวจ. คนใหม่ ซึ่งขอเวลา 30 วันหลังรับตำแหน่ง ได้มีมาตรการ “คุมเข้ม” การเดินทางข้ามจังหวัด และการตรวจเชิงรุก การฉีดวัคซีน อย่างเต็มที่ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะใน “ครัวเรือน” ซึ่งต้องหาสาเหตุของการติดเชื้อที่สูงขึ้นให้พบ เพื่อที่จะได้วางมาตรการในการแก้ไขได้ถูกต้อง….แต่การเปิดประเทศของรัฐบาลในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับ จ.สงขลา เพราะเป็นการเปิดประเทศที่ อนุญาตเฉพาะ นักท่องเที่ยว ที่มากับสายการบิน ส่วนการเดินทางเข้าประเทศทางรถยนต์ ยังไม่มีการอนุญาต ดังนั้น นักท่องเที่ยวชาว มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ยังไม่สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ เข้ามายัง จ.สงขลา และ เมืองชายแดน อย่าง จ.นราธิวาส, ยะลา และ ปัตตานี ได้…ส่วนการเดินทางทางอากาศจากประเทศมาเลเซีย-สิงคโปร์ เพื่อมายังสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ทุกสายการบินยังงดเที่ยวบินอย่างไม่มีกำหนด ดังนั้น นโยบายเปิดการท่องเที่ยว ทั้ง หาดใหญ่แซนด์บ็อกซ์ และ ด่านนอกแซนด์บ็อกซ์ ก็ยังไม่สามารถ “ขับเคลื่อน” เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวได้อย่างจริงจัง…แต่เชื่อว่าว่าถ้าสถานการณ์การ “ติดเชื้อ” ลดลงทั้ง 4 จังหวัด และประเทศมาเลเซีย น่าจะเปิดประเทศ ทั้งทางบก ทางอากาศ ก่อนสิ้นปี เพื่อรับเทศกาลปีใหม่ 2565 เพราะ ณ วันนี้ สถานการณ์ “โควิด-19” ในประเทศมาเลเซียดีขึ้นมาก มีการผ่อนคลายมาตรการหลายอย่างเพื่อให้คนในประเทศ เดินทางได้ และ สังคม ธุรกิจ การค้าท่องเที่ยว ขยับตัวได้มากขึ้นซึ่ง ผู้นำองค์กรเอกชน เช่น สุรพล กัมพลานนท์วัฒน์ นายกธุรกิจการท่องเที่ยว จ.สงขลา และ นายกธุรกิจท่องเที่ยว ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกสมาคมโรงแรม และอื่นๆ น่าจะมีการประชุมร่วมกันเพื่อการกำหนด “ทิศทาง” ของการเปิดพื้นที่เปิดประเทศที่ชัดเจน….

@ แต่ จ.สตูล ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนภาคใต้ฝั่ง “อันดามัน” อาจจะได้ “อานิสงส์” จากการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ เพราะอาจจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เข้ามา จ.กระบี่, ภูเก็ต,พังงา และ ตรัง เดินทางมาเพื่อชื่นชมความงามของ เกาะหลีเป๊ะ สถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่อของ จ.สตูล ซึ่ง เอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.สตูล ต้อง มีมาตรการในการ “รับมือ” ให้รัดกุม เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศเปิดการท่องเที่ยวให้มากที่สุด….

@ ข่าวดีสำหรับแรงงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะ มาเลเซีย เตรียมเปิดประเทศ ด้วยการรับแรงงาน ที่ถูกขับออกจากประเทศ เมื่อ 2  ปีก่อน จากปัญหา “โควิด-19” กลับเข้าประเทศอีกครั้ง เพราะขณะนี้ มาเลเซียในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ขาดแคลนแรงงานอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมา พล.ร.ต.สมเกียติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้มีการเตรียมการประสานกับ สถานกงสุล และ สถานทูตไทยในประเทศมาเลเซีย ไว้พร้อมรับ เพื่อการส่งแรงงานไทยไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย แบบถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ในรูปแบบแรงงานเถื่อนอย่างที่ผ่านมา….พูดถึงการเปิดประเทศ และแรงงานเถื่อน วันนี้ยังเป็นปัญหาหนักของประเทศยิ่ง เมื่อมาเลเซีย เปิดประเทศ ปัญหาแรงงานเถื่อนก็จะตามมา เพราะขนาดยังไม่เปิดประเทศ ยังมีแรงงานเถื่อนจากเพื่อนบ้าน ทั้ง เมียนมา, กัมพูชา และ สปป.ลาว  ยังลักลอบเดินทางข้ามประเทศไม่เว้นแต่ละวัน พล.ต.ท.นัทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ต้องติวเข้ม ผบก.ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อ “รับมือ” แต่เนิ่นๆ เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.อรรถวุฒิ อ่อนทรัพย์ ผบก.ตชด.ภาค 4 ที่ต้อง “ใส่ใจ” กับแนวชายแดนด้าน อ.สะเดา อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ให้มากๆ เข้าไว้ เพราะเป็นเส้นทาง “ผลประโยชน์” ของ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่มานานแล้ว ซึ่งนอกจากเรื่องของ “แรงงานเถื่อน” ยังเป็นเส้นทาง น้ำมันเถื่อน บุหรี่เถื่อน และสินค้าสารพัดเถื่อนที่มีการ “จ่ายส่วย” ทั้งสิ้น…

@ ครั้งแรกเข้าใจว่า หลังการ “ปลดล็อก” ให้พืชกระท่อมเป็นพืชที่ไม่อยู่ในข่ายยาเสพติดประเภท 5 แล้ว ปัญหา “ใบกระท่อม” จากมาเลเซียจะหมดไป แต่ที่ไหนได้ วันนี้ “พืชกระท่อม” จากมาเลเซีย ยังคงมีการลักลอบข้ามแดนเข้ามามากกว่าเดิม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ ทหาร จาก พล.ร.5 จับกุมได้ในแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน อ.นาทวี จ.สงขลา 1 คันรถ 6 ล้อ เป็นการลักลอบครั้งแรกที่ใช้รถบรรทุก 6 ล้อ เป็นพาหนะแสดงให้เห็นว่า ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการใช้ “ใบกระท่อม” มากกว่าปกติ พงศธร ธรรมชาติ ผอ.สนง.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 ต้องหาสาเหตุที่มาที่ไป…

@ แม้ว่า พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. (สส.) ซึ่งรับผิดชอบปราบปรามน้ำมันเถื่อน และผู้มีอิทธิพล จะสั่งการให้ ตชด. และ ตร.ปนม. ปราบปรามผู้ลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนอย่าง เข้มงวด แต่เมื่อราคาน้ำมันในประเทศ “แพงลิบ” จึงทำให้ นายทุน ผู้มีอิทธิพล คนมีสี นักการเมือง กลายเป็น “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” ล่าสุด เจ้าหน้าที่ ตำรวจ และ สรรพสามิต จับกุมน้ำมันเถื่อนได้ 3 รถบรรทุกพ่วง กว่า 100,000 ลิตร ในพื้นที่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ขณะนำขึ้นจากเรือมาจากลูกค้าที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งรู้กันในวงการค้าน้ำมันเถื่อนว่าเป็นของ “เสี่ยโก้ 3 เค” รับน้ำมันกลางทะเลจากนายทุนใหญ่ “เสี่ยโจ้” เจ้าพ่อค้าน้ำเถื่อนระหว่างประเทศที่เคยโด่งดังใน จ.ปัตตานี นี่ถ้าน้ำมันเถื่อน 1 แสนลิตร หลุดรอดไปได้ เท่ากับว่ารัฐบาลต้องขาดทุนภาษีไป 8 ล้านบาท เพราะภาษีน้ำมันดีเซล รวม “เบ็ดเสร็จ” ที่ผู้ค้าน้ำมันต้องจ่ายให้รัฐอยู่ที่ ลิตรละ 8 บาท…แต่น่าเสียดายที่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ใช้วิธีการส่งของกลางให้กับ สรรพสามิต ทำการปรับ และคืนของกลางให้กับเจ้าของ ทั้งรถบรรทุกพ่วงที่ใช้เป็นพาหนะในการทำผิดกฎหมาย และน้ำมันเถื่อน ที่มี “สเปก” ไม่ตรงกับน้ำมันในประเทศไทย เพื่อนำไปขายและใช้เป็นยานพาหนะในการทำผิดต่อไป และเพราะทำกันอย่างนี้ด้วยวิธี “เลี้ยงเป็ดไว้กินไข่” นี่เอง จึงทำให้ การค้าน้ำมันเถื่อนเป็น “เชื้อชั่วที่ไม่เคยตาย” นี่ถ้าเจ้าหน้าที่จับผู้ค้า ของกลาง ยานพาหนะ ส่ง โรงพักหรือ ศุลกากร ของกลาง ทั้งรถ ทั้งน้ำมัน จะถูกยึด เพื่อส่งฟ้องศาล ถ้าถูกจับบ่อยๆ “นายทุน” ก็จะหมดตัว การลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนก็จะน้อยลง ….

@ และที่สำคัญผู้ที่เป็น “เจ้าพ่อ” และ “เครือข่าย” ที่ ค้าน้ำมันเถื่อน ในอ่าวไทย ตั้งแต่ จ.สงขลา, นราธิวาส, นครศรีธรรมราช จนถึง สุราษฎร์ธานี ก็จะอ้างว่า น้ำมันเถื่อนที่นำเข้ามาเป็น “น้ำมันทหาร” น้ำมันของ “กองทัพ” เพื่อให้ นักธุรกิจ ปั๊มน้ำมันต่างๆ เชื่อว่าเป็น น้ำมันในประเทศ และไม่ถูกจับ แต่คนที่เสียชื่อคือ “กองทัพ” คือ “ทหาร” ซึ่ง พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4  ต้อง “ถอนรากถอนโคน” ด้วยการปราบปราม อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ นานๆ ก็จับสักครั้ง…โดยเฉพาะน้ำมันเถื่อนที่ “นายทุน” นำเข้าทางทะเลด้าน อ.ท่าศาลา และ หัวไทร ผู้ค้ารายใหญ่ที่ชื่อ “โก ส.” จะอ้างเป็นของ “ทหาร” มาโดยตลอด …ส่วนที่ชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา แม้ว่า พ.ต.ต.สุริวงศ์ สมทรง ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 437 จะสั่งให้มีการ “กวดขัน” รถบรรทุกสินค้า ระหว่างประเทศ ที่เป็น “ต้นเหตุ” ในการนำเข้าน้ำมันเถื่อน ด้วยการตั้งจุดตรวจที่ ใกล้ๆกับด่านศุลกากร อ.สะเดา แต่ เจ้าหน้าที่ศุลกากร ก็ไม่ได้ “ยี่หระ” ยังปล่อยให้มีการนำเข้าน้ำมันเถื่อนมาโดยตลอด…สังเกตได้ว่า วันนี้ พ่อค้าน้ำมันเถื่อน แถวถนนสาย ควนสะตอ-คลองแงะ อ.สะเดา จ.สงขลา ยังมีน้ำมันเถื่อน บรรจุ “แกลลอน” ขายเต็มพื้นที่ ถ้าเป็นอย่างนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าชุดปราบปรามน้ำมันเถื่อน ต้องประเมินใหม่ว่าทำไม “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” หรือมี “คนใหญ่” ว่า “รองใหม่” เป็น “แบ๊กอัพ” อยู่ข้างหลัง….

@ มีปลาตายเกลื่อนกลาดในสระน้ำที่เป็นแหล่งผลิตน้ำประปา ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองตรัง ร้องเรียนไปแล้วหลายหน่วยงาน ก็เงียบๆ ชาวบ้านฝากความหวังไว้กับ ภานุวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง ให้เร่งตรวจสอบสาเหตุ เพราะโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่ ไม่มีการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ลองประสานกับ อุตสาหกรรมจังหวัดเพื่อหาสาเหตุแล้วจะรู้….

@ เห็นการเดินสายหาผู้สมัคร สส.ของ พรรคประชาธิปัตย์ ที่มี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นไปด้วยความคึกคักมีผู้สมัครให้คัดเลือกมากมาย โดยเฉพาะใน จ.สงขลา หลายเขตที่มีผู้อาสา เป็นผู้สมัครที่เป็น “ตัวเต็ง” เช่น เขต 3 สงขลา มีชื่อ สมยศ พลายด้วง “เสี่ยถึก” ผู้รับเหมา ที่อยู่เบื้องหลังในการสร้างความร่ำรวยให้กับนักการเมือง ทั้งท้องถิ่น และระดับชาติ ไปแล้วจำนวนมาก วันนี้ถึงคิวที่จะเป็น ส.ส.เองบ้าง…แต่อย่างไรเสีย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะ รมว.พาณิชย์ ต้องให้ความสนในกับเรื่อง ราคาสินค้าให้มากกว่าเรื่องหาผู้สมัคร ส.ส. เพราะการปล่อยให้ราคาปุ๋ยขึ้นไปกระสอบละ 200 บาท และราคายาปราบศัตรูพืชขึ้นไป แกลลอนละ 300 เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร และเงินที่ได้รับการประกันราคา ยาง ปาล์ม เมื่อ “หักลบกลบหนี้” แล้ว ยังขาดทุน

@ เป็นเรื่อง “มหากาพย์” สำหรับคดีลักรังนก ที่เกาะสี่เกาะห้า อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งมีการจับกุมผู้ทำผิดแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังมี “ตัวเป้งๆ” ที่อยู่เบื้องหลัง ที่ ตำรวจ ยังสาวไปไม่ถึง และที่สำคัญมีการ “วิ่งเคลียร์” เพื่อปิดคดี อย่าให้มา “พัวพัน” ถึงตัว เพราะมีทั้งราชการ นักการเมืองท้องถิ่น ร่วมอยู่ในบัญชี “โจรรังนก” อยู่ด้วยก็ต้องพิสูจน์ ฝีมือ และ ความ “มั่นคง” ของ พล.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. (สส.) และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ว่าคดีจะจบแบบได้ตัว “เป้ง” หรือได้แค่ “หางแถว”…แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับ จ.พัทลุง คือ คดีอุกฉกรรจ์ยังเกิดขึ้นมาก ล่าสุดมีการใช้อาวุธสงคราม เอ็ม 16 ยิงใส่คนงานของฟาร์มเลี้ยงโค ของ อดีตนายก อบต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง พล.ต.ต.มานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง คนใหม่ ต้อง สำแดงฝีมือให้ ผู้มีอิทธิพล รู้ว่า บ้านนี้เมืองนี้ ทุกคนต้องอยู่ใต้กฎหมายให้ได้….

@ ร้องมาจากผู้ขับรถผ่าน จ.สตูลว่า ด่านตรวจ สภ.ควนโดน จ.สตูล เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจขาดความ โปร่งใส ตั้งข้อกล่าวหาแบบ “เมโมโมมะ” เช่นรถบรรทุกป้ายเหลือ ซึ่งเป็นรถ “สาธารณะ” ถูกกล่าวหาว่าวิ่งผิดเส้นทาง พอคนขับให้ดูหลักฐานว่าถูกต้อง ก็ขอจับน้ำหนักเกิน พอเห็นเอกสารของขนส่งว่าไม่เกิน ก็ขอตรวจ ถังดับเพลิง เพื่อที่จะหาความผิดให้ได้สักข้อกล่าวหา ต่อไปอาจจะมีการ ตรวจล้อรถเพื่อที่จะวัดว่าสึกไปกี่เซ็น ตำรวจอย่างนี้ พ.ต.อ.บุญเลิศ ตรัสศิริ ผกก.สภ.ควนโดน จ.สตูล ต้องตรวจสอบ ต้องเอาไป “ตัดหญ้า” หน้าโรงพักอย่ามาทำหน้าที่ จุดตรวจเพื่อสร้างความเสื่อมเสียให้หน่วยงาน และฝากถึง พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ ผบก.ภ.จว.สตูล ว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ชาวบ้านร้องทุกข์กันมาเรื่องจุดตรวจควนโดนแห่งนี้….

@ ยินดีกับ ธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ผช.เลขาธิการ ศอ.บต. ที่ย้ายคืนถิ่นมาเป็น ผอ.สำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 6 จ.สงขลา ได้เป็น “ท่านเขต” สมใจ หลังจากพลาดหวังในปีที่ผ่านมา…แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้าครับ

—————————————————————— 

ไชยยงค์ มณีพิลึก 

ตรวจด่านพรมแดน…   จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ พร้อม นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบสถทนการณ์เศรษฐกิจการค้าแนวชายแดน ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ 

ต้อนรับพระสังฆาธิการ…  พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การต้อนรับคณะพระสังฆาธิการและกลุ่มไทยพุทธใน 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่งเดินทางเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ระหว่างวันที่ 23-29.ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องน้อมเกล้า ศอ.บต.ยะลา 

จชต.ต้องแก้ยากจน…   นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับตัวแทนพระสงฆ์และกลุ่มไทยพุทธจาก 3 จังหวัดและ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ที่โรงแรมตรัง กรุงเทพฯ.โดยมี ชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต.ร่วมด้วย ซึ่ง รมช.มหาดไทย ได้กล่าวกับตัวแทนของชาวพุทธว่า การแก้ปัญหาของ จชต.ต้องแก้ที่ความยากจน 

สืบสานพุทธศาสนา…   พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีทอดกฐินที่วัดศรีภิญโญศรัทธาราม ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยมีพี่น้องชาวพุทธในพื้นที่ร่วมงานอย่างคับคั่งได้เงินในการบำรุงพระพุทธศาสนาในครั้งนี้ 999,999 บาท 

น้ำใจ ปตท. ภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย รุธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ธัญรัตม์ ไตรพันธ์รัชตะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดยะลา ได้รับมอบถุงยังชีพจาก สมบัติ อาภาพงศ์ศักดิ์ ผู้จัดการแผนกบริหารศูนย์ปฏิบัติการระบบท่อ เขต 7 บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,000 ถุง (ประกอบด้วย อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น) เพื่อนำไปมอบและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวจังหวัดยะลา 

เยี่ยมฐานปฏิบัติการ…  พล.ต.อุทิศ  อนันตนานนท์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอธารโต จังหวัดยะลา โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปเพื่อรับทราบสถานการณ์ด้านการข่าวและแผนการปฏิบัติงานของหน่วย รวมทั้งได้เชิญ ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ, สถานีตำรวจภูธรในพื้นที่อำเภอธารโต และอำเภอเบตง เพื่อการประสานงานร่วมกันระหว่างทุกภาคส่วนในการปฏิบัติงานร่วมกัน พร้อมทั้งให้คำแนะนำและข้อเน้นย้ำตามนโยบายของผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โดยให้มีความมุ่งมั่นในการปฎิบัติงาน ให้เพิ่มความระมัดระวังการตอบโต้ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในการก่อเหตุรุนแรงทุกรูปแบบ รวมทั้งให้หน่วยเปิดแผนยุทธการเชิงรุก 

ติวเข้ม…   พ.อ.ทรงเดช สุกนุ้ย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลชุดปฏิบัติการพิทักษ์ และกำลังพลที่ปฏิบัติงานตามจุดตรวจต่างๆ ในพื้นที่ จ.นราธิวาส พร้อมชี้แจงสถานการณ์การข่าวให้กับชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่, จุดตรวจหน้าฐาน และจุดตรวจ POP UP เน้นย้ำการปฏิบัติต้องเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติงาน ป้องกันการก่อเหตุในห้วงวันเชิงสัญลักษณ์ จำกัดเสรีและทำลายความพยายามของผู้ก่อเหตุรุนแรง 

ตรวจราชการ…   ประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อตรวจราชการ ณ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม พร้อมตรวจเยี่ยมพนักงาน เจ้าหน้าที่และให้กำลังใจในการปฏิบัติงาน โดยมี นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมให้การต้อนรับ 

เกษตรพอเพียง…   ไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ร่วมกิจกรรมการทำนากับเกษตรกรและวางแผนที่ผลิตพืชผลทางการเกษตรภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ณ พื้นที่โครงการ คทช. หมู่ 8 ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา 

ร่วมทอดกฐิน…  ร.ต.อ.อรุณ  สวัสดี สส.เขต 4 สงขลาพร้อมด้วย โยธิน ทองเนื้อแข็ง ส.จ.เขตอำเภอกระแสสินธิ์ และประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมทอดกฐินสามัคคี ณ ที่พักสงฆ์บ้านไร่ ม.3 ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา รับอนุโมทนาบุญร่วมกัน 

แสดงความยินดี…    คณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูเพื่อนเกษตรกรจังหวัดสงขลาและผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาสงขลา มอบกระเช้าแสดงความยินดีกับ อรอนงค์ อินทสโร ในโอกาสที่มารับตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานกองทุนเพื่อเกษตรกรจังหวัดสงขลา 

วันรักต้นไม้…   อบจ.ยะลา จัดโครงการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  กิจกรรม “วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ” โดยมี ดร.ระเด่น สะมะแอ รองนายก อบจ.ยะลา เป็นประธานเปิดกิจกรรม และ รองปลัด หัวหน้าส่วนราชการ และ บุคลากรในสังกัด ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ณ บริเวณโรงเรียนลำพะยาประชานุเคราะห์ หมู่ที่ 4 ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา 

แสดงความยินดี…   วิชัย เรืองเริงกุลฤทธิ์ นายกพุทธสมาคมจังหวัดยะลา พร้อมกรรมการ และ เฉลิมพล เรืองเริงกุลฤทธิ์ รองนายก อบจ.ยะลา มอบกระเช้าของขวัญ แสดงความยินดีกับ ภิรมย์ นิลทยา ผวจ.ยะลา คนใหม่ ที่ห้องทำงานศาลากลาง จ.ยะลา 

เยี่ยม ชรบ.   พ.อ.ภาคิน เกื้อกูล ผบ.ฉก.ทหารพรานที่ 48 และคณะนายทหารฝ่ายยุทธการและการฝึก ลงพื้นที่ ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เยี่ยมและให้กำลังใจ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน “ชรบ.” พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ 

ประเมินความเสียหาย…   อภิชาติ ศิริสุนทร ประธานกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ลงพื้นที่เกาะสี่เกาะห้า อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เพื่อประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจาการที่คนร้ายเข้าไปขโมยรังนก และจุดไฟในถ้ำทำให้นกนางแอ่นหนีหายเป็นจำนวนมาก 

ยินดีด้วย…   ชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา มอบช่อดอกไม้ แสดงความยินดีกับ ธีรพงศ์ เพชรรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.ที่ย้ายมารับตำแหน่ง ผอ.กรมประชาสัมพันธ์เขต 6 จ.สงขลา ท่ามกลางความยินดีของผู้ร่วมงาน