ช่วงนี้นายกฯหญิง แพทองธาร ชินวัตร เหมือนได้พักร้อนชั่วคราวจากหน้าสื่อ เพราะคดีสุดครึกโครมของ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป กับชื่อ บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของบริษัท ตามด้วยชื่อซุป’ตาร์อันดับต้น ๆ บอสกันต์-กันต์ กันตถาวร บอสแซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี บอสมิน-พีชญา วัฒนามนตรี กับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องมากมาย หลายวงการ 3-4 แสนคน รวมครอบครัว ก็เป็นล้านคน มีเงินหมุนเวียนกว่าหมื่นล้านบาท เฉพาะปี 64 มีรายได้ 4,950 ล้าน กำไร 813 ล้าน 14 ต.ค.ที่ผ่านมา มีผู้แจ้งความ 1,067 คน เสียหาย 378 ล้านบาท และคงเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ

ที่เกิดโป๊ะแตก ต้องให้เครดิต “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย แห่งโหนกระแส จุดพลุนำผู้เกี่ยวข้อง ซุป’ตาร์ บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ พรีเซ็นเตอร์ ลูกข่าย ที่พ่อแม่ญาติพี่น้องกู้ยืมเงินจนสิ้นเนื้อประดาตัวฆ่าตัวตายมาแฉ ส่วนใหญ่บอกเห็นซุป’ตาร์ร่วมด้วย น่าเชื่อถือ เลยไปเข้าคอร์สสอนขายของออนไลน์ 98 บาท แล้วถูก “แม่ข่าย” เพิ่มดีกรีกระตุ้น (สะกดจิตหมู่) จนกลายเป็นฟาวน์เดอร์, ซูเปอร์ไวเซอร์ แล้วเป็น ดีลเลอร์ สูญเงินตั้งแต่ 2,500-250,000 จนถึงหลักล้าน หลายล้าน กำไรที่ได้แม่ข่ายจะยุให้ยิงโฆษณาหาลูกข่ายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่สินค้าขายไม่ออก

โดยบริษัทดิไอคอนก่อตั้งมากว่า 6 ปี บอสพอลเคยอยู่บริษัทขายตรงใหญ่มาก่อน แล้วพาลูกทีมออกมาตั้งบริษัทใหม่เอง เป็นนักขายที่เก่งกาจ มีวิธีพูด หาลูกค้าระดับมือทอง

มาพูดถึงรูปแบบสร้างภาพก็ซ้ำ ๆ ขับรถหรูหลายสิบล้าน ใช้แบรนด์เนมหัวจดเท้า เสื้อตัวละแสน นาฬิกา 12 ล้าน กระเป๋า 8 ล้าน อยู่บ้าน 100 ล้าน กินหรู บินเที่ยวนอก จากคนยากจนถีบตัวได้ใน 2-3 ปี โมเดลยอดฮิตสร้างตัว ยิ่งเศรษฐกิจตกต่ำนานนับ 10 ปี เพราะ รบ.บริหารห่วย คนดิ้นรนทำมาหากินยังไงก็ไม่เหลือเงิน เจอโฆษณาชวนเชื่อ “ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย” ขนาดพระดังยังเทศน์ชวนให้เข้าคอร์ส ใครจะไม่เป็นแมงเม่า (แต่ตอนหลังออกมาชี้แจงแล้วก็ต้องว่ากันไปตามนั้น)

ล่าสุดมีข่าว ดีเอสไอเตรียมรับทำเป็นคดีพิเศษ พบเข้าข่าย “อาจเป็น” ความผิด แชร์ลูกโซ่ วางกรอบการสอบสวน เน้นดูบัญชีของบริษัท วิธีการรับผลประโยชน์ แผนธุรกิจเน้นหาสมาชิกหน้าใหม่มากกว่าเน้นการขายผลิตภัณฑ์หรือไม่ ดูเส้นทางเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ใครแค่พรีเซ็นเตอร์ รับจ้างตามสัญญา หรือเป็นผู้ร่วมทุน รับรายเดือนจากยอดขาย จะรอดหรือร่วง เจอข้อหา ฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน ผิด พ.ร.บ.กู้เงิน หรือไม่ ก็รอดูฝีมือดีเอสไอ (ล่าสุดมีการออกหมายจับ 18 บอสและโค้ช ดาราดังโดนครบ เบื้องต้น 2 ข้อหาคือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ถูกจับกันเรียบร้อยลอตแรก)

ขณะพีคในพีค ไม่ใช่ที่บอสพอลร้องไห้สะอึกสะอื้น ไม่รู้มีคนฆ่าตัวตาย เป็นเรื่องแม่ข่าย ตนแค่ขายสินค้า “พูดแต่ 2 แสนห้า ๆ ใครมี 2,500 ก็ควรลงแค่ 2,500 ผมขอความเป็นธรรมบ้าง” (นี่คือความฉลาดของบอสพอล) แต่คือ คำสารภาพยอมรับ คลิปหลุด (หรือจงใจหลุด) มีการให้สินบนเทวดา ที่ สคบ. จริง ยังมี นักร้อง นักการเมือง ทนายความ มารีดไถ จ่ายไม่ถึง 30 ล้าน ให้ครั้งละ 5 แสน ล้านนึง เพื่อไม่ให้ร้องเรียน และสุดฮือฮา กับคลิปหลุดนักการเมืองล่าสุด “พอลให้พี่เดือนละแสน พอลต้องใหญ่กว่านี้ กรรมาธิการเรียก พี่จัดการให้ หรือพี่ตั้ง…เป็นรองเลขาฯ ให้มาดูแล อีกหน่อยพอลจะเอาใครเป็นเลขาฯ ก็ได้ มาเดินตามเราอย่างกับขี้ เดินตามต็อกแต๊ก ๆ”…โอ้โห

ใครไม่รู้ แต่นักข่าวโทรฯ หา นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรค พปชร. ซึ่งยืนยันเสียงแข็ง “ไม่ใช่ผมแน่ เคยเห็นผมถ่ายรูปกับพอลหรือใครพาดพิงจะฟ้องทันที อยากสัมภาษณ์รอผมกลับมาก่อน” ก็รอเจ้าตัวมาเคลียร์ ส่วนเทวดา สคบ.เป็นใครไม่รู้ แต่ 2 ปีที่แล้ว มีผู้เสียหายจาก ดิไอคอน รวมตัวร้อง สคบ.มาแล้ว มีการเรียกมาเจรจา จ่ายค่าเสียหาย เรื่องก็เงียบกริ๊บ หากเตือนกันตั้งแต่ตอนนั้น ความเสียหายจะไม่มากขนาดนี้เลย ไม่ต่างจากกรณี แม่ตั๊ก ป๋าเบียร์ ขายทองออนไลน์ ลดราคาบ้าระห่ำ ไม่มีหน่วยงานไหนเตือนประชาชน เป็นไปได้ไง รมว.น้ำ จิราพร สินธุไพร ว่าไง

รวมทั้งกรณีโศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ ติดตั้งแก๊สเป็น 10 ลูกในรถ หากไม่มีการจ่ายเงินจะผ่านการตรวจสภาพรถได้ไงทุกปี มีรถอย่างนี้อีกเป็นหมื่นคัน ได้มาตรฐานแค่ 5% ตั้งแต่อธิบดีกรมขนส่ง ถึง รมว.คมนาคม ว่าไง

ทั้งหมดจึงยืนยัน การทุจริตคอร์รัปชัน ยังเป็นมะเร็งร้ายอยู่ “รธน.ฉบับปราบโกง ไม่มีผลอะไรเลย เป็นแค่ความโกหกตอแหล” เป็นข้ออ้างให้พวกนักกินเมืองเข้ามาหาอำนาจ-ผลประโยชน์ แล้วปล่อยประเทศจมปลักไร้อนาคต

นี่แหละ เหตุผลที่ต้องปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่.

………………………………….
ดาวประกายพรึก

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…