สวัสดีจ้า “Campus Life” สัปดาห์นี้ พาไปพบกับ “ตู้ EV Charger” ผลงานของ 3 นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ประกอบด้วย “เนย” พลอยพรรณ สุขประเสริฐ, “ที” สิทธิเดช สุนันทโชติหิรัญ และ “แอล” อิสระยา แก่นแก้ว ภายใต้โปรเจกต์ปี 4 ในหัวข้อ “การออกแบบและสร้างเครื่องอัดประจุแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า” กันจ้า  

 “ที” เล่าถึงที่มาของนวัตกรรมนี้ ว่า ได้มีโอกาสดูคลิปการทำ EV Charger สำหรับรถยนต์ EV ของช่างไทย ที่อาจารย์ที่ปรึกษาส่งมาให้ดูตอนเรียนอยู่ปี 3 เทอม 2 จึงปรึกษาอาจารย์ว่า ความรู้ด้านวิศวกรรมไฟฟ้าที่เรียนมา 3 ปี และในปี 4 จะสามารถนำมาสร้างกล่องแผงวงจรเพื่อควบคุมการจ่ายไฟให้รถยนต์ EV ได้หรือไม่ จนเกิดเป็นโปรเจกต์ตอนปี 4 ขึ้นมา โดยความคาดหวังของพวกเราตอนนั้นคือ อยากจะสร้างแผงวงจรที่สามารถควบคุมการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับที่ได้มาตรฐานเดียวกับกล่อง EV Charger ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งในกล่อง EV Charger ที่มีในท้องตลาดนั้น จะต้องมีทั้งวงจรป้องกันไฟรั่ว ระบบสายดิน ระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้า ระบบสื่อสารสัญญาณเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ชาร์จ และระบบตัดไฟเมื่อพบปัญหา ซึ่งจะมีมาตรฐานสากลของแต่ละระบบกำหนดไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นในการออกแบบและสร้างแผงวงจรเพื่อควบคุมระบบเหล่านี้ จึงมีเป้าหมายคือการปรับแต่งให้ค่าสัญญาณต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการทดลองชาร์จประจุเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยในปี 4 เทอม 1 จะเป็นการศึกษาด้วยการจำลอง (Simulation) ผ่านโปรแกรม ก่อนที่จะมีการสร้างแผงวงจรและทดสอบจริงในเทอมที่ 2  ซึ่งในส่วนของตนรับผิดชอบด้านฮาร์ดแวร์ เช่น การทําแผ่นพรินท์ (PCB) เป็นหลัก

“แอล” บอกว่า ทำหน้าที่เขียนโค้ดและซอฟต์แวร์ ซึ่งการทำงานของ EV Charger ที่พัฒนาขึ้นมา เมื่อเสียบปลั๊กชาร์จเข้ากับตัวรถ ระบบจะมีการสื่อสารสัญญาณกับรถทันทีที่เสียบปลั๊ก และเมื่อตรวจสอบเสร็จสิ้น ก็จะเริ่มชาร์จไฟเองโดยอัตโนมัติ และหยุดจ่ายได้เมื่อประจุไฟให้แบตเตอรี่ได้ตามค่าที่กำหนด หรือตามเวลาที่กำหนด (สามารถเลือกได้) โดยทุกขั้นตอนจะมีการส่งข้อความแจ้งเจ้าของรถได้รู้ผ่านหน้าจอของตู้และผ่าน Wifi ไปแสดงบนจอมือถือได้อีกด้วย โดยกล่อง EV Charger ต้นแบบนี้สามารถใช้ได้ทั้งไฟฟ้ากระแสสลับแบบ 1 เฟส ที่กำลังชาร์จสูงสุด 16 แอมป์ หรือไฟฟ้ากระแสสลับแบบ 3 เฟส ที่กำลังชาร์จได้สูงสุด 32 แอมป์ โดยทุกกระบวนการเป็นไปตามมาตรฐานสากลทุกประการ

ปิดท้ายที่“เนย” ซึ่งรับผิดชอบหลักด้านการหาข้อมูลเกี่ยวกับมาตรฐานของระบบต่างๆ บนแผงวงจรของ EV Charger กล่าวว่า หน้าที่อีกอย่างหนึ่งของตนคือการจัดหา นอกจากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงการสั่งพิมพ์แผ่นพรินท์ (Printed Circuit Board: PCB) ที่ “ที” เป็นคนออกแบบ ทั้งยังติดต่อกับบริษัทผลิตเบรกเกอร์ เพื่อขอความอนุเคราะห์ตัวเบรกเกอร์ตัดไฟรั่วและเบรกเกอร์ตัดไฟเกินมาใช้กับโปรเจกต์นี้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย กับการประสานขอโครงตู้เก่าของมหาวิทยาลัย มาทำเป็นตู้ชาร์จอีกด้วย ทำให้ EV Charger ซึ่งทำให้จากต้นทุนอุปกรณ์ที่ต้องจ่ายจริงหลายหมื่นบาทก็เหลือไม่ถึงหมื่นบาท นอกจากนี้ยังได้ความรู้ที่ทำให้ตอนนี้พวกเราสามารถทำกล่อง EV Charger กล่องที่ 2 กล่องที่ 3 ให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากล่องราคาหลักหมื่นในท้องตลาด ด้วยต้นทุนค่าอุปกรณ์ไม่เกิน 5 พันบาท

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ต่อไป EV Charger  หรือ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า จะค่อยๆเข้ามามีบทบาทสำคัญ หากจำนวนรถ EV เพิ่มมากขึ้น ย่อมทำให้ความต้องการติดตั้ง EV Charger ในที่พักอาศัยและอาคารก็จะมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ดังนั้นการพัฒนา “ตู้ EV Charger” ของ”ที”,“แอล” และ “เนย” จะกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือก สำหรับผู้ที่ต้องการ “ตู้ EV Charger” ฝีมือคนไทย ได้มาตรฐานสากล แถมยังมีราคาถูก อย่างแน่นอน