ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง จำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจ หลายคนต้องไปรอตรวจโควิดตามจุดบริการตั้งแต่หัวค่ำของอีกวันเพื่อจะให้ได้คิวตอนเช้า ต้องตากฝนตากยุงกางเต็นท์นอนรอ ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนที่ยังรับตรวจโควิด-19 หลายแห่งคนก็ยังต้องแย่งกันจองคิวกันล่วงหน้า ที่น่าสลดผู้ป่วยที่ติดเชื้อแล้วยังไม่มีโรงพยาบาลรับเข้ารักษาต้องเสียชีวิตคาบ้านก็มีให้เห็นกันแทบทุกวัน

โควิด-19 สร้างความเดือดร้อนทั่วหน้าและไม่รู้ว่ามันจะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหน หลายคน หลายครอบครัวต้องสูญเสียคนที่รักกัน แม้นาทีสุดท้ายของชีวิตก็ยังไม่ได้เห็นหน้าร่ำลา ทำเจ็บปวดใจอย่างที่สุด ส่วนคนที่ไม่ติดเชื้อก็ต้องดิ้นรนได้รับผลกระทบกันทุกอาชีพ ทุกวงการ ยิ่งคนที่หาเช้ากินค่ำแทบจะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ ครอบครัวกับลูกน้อยตาดำๆ ต้องอยู่อย่างลำบาก ตกงานไม่มีรายได้ต้องเป็นหนี้นอกระบบ ก็ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งทุกอย่างจะกลับมาดีดังเดิม แต่ก็ดูจะมืดมนหนทางจริงๆ

นายบุญถม พรหมรินทร์ อายุ 63 ปี หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม “อาจารย์ลักกี้” พักอยู่ห้องเช่าเลขที่ 41/378 นนท์ซิตี้คอนโด ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี อดีตนักดนตรีเล่นเปียโนและอิเล็กโทนในโรงแรมนนทบุรีพาเลซ มานานหลายสิบปี จนลูกค้าต่างติดอกติดใจในฝีมือเล่นดนตรีและอัธยาศัยที่น่าประทับใจของอาจารย์ลักกี้ จนมาเป็นลูกค้าประจำทั้งข้าราชการ ตำรวจ ทหาร นักธุรกิจ มากหน้าหลายตาที่เวียนมาใช้บริการที่โรงแรมแห่งนี้

ระยะหลัง “อาจารย์ลักกี้” ต้องวางมือจากการเล่นดนตรีเพราะพิษโควิดที่ทำให้ร้านอาหารต้องถูกปิดนานนับหลายเดือน และตัวของอาจารย์ลักกี้เองก็มีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งเบาหวาน ตับแข็ง ความดัน ไตวาย ทำอะไรไม่ได้ต้องนั่งๆ นอนๆ เพราะแค่เดินระยะสั้นๆ ก็เวียนศีรษะและเหนื่อยหายใจแทบไม่ทัน ทำให้ไม่มีรายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว

อาจารย์ลักกี้ เล่าถึงเรื่องราวชีวิตที่แสนลำเค็ญว่า ตอนนี้ไม่สามารถเดินต่อไปได้เลย ถึงทางตันจริงๆ ตนเองล้มป่วยหลายโรค ทุกวันนี้ต้องเดินทางไปฟอกไตที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าเป็นประจำ ปัจจุบันมีลูกชายคือ ด.ช.คุณากร หรือ น้องเอ อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนศรีบุณยานนท์ ภรรยาตนได้ทิ้งตนและลูกไปมีสามีใหม่นานหลายปีแล้ว ตนเองต้องคอยดูแลน้องเอส่งเสียเลี้ยงดูลูกมาคนเดียวตลอด

“ระยะหลังตนไม่สามารถหาเงินได้เพราะร้านอาหารถูกปิดมานานกว่า 8 เดือน จากสถานการณ์โควิด-19 ทั้ง 3 รอบ ทำให้ไม่มีรายได้ ที่เคยหาได้จากการเล่นดนตรีเดือนละ 2 หมื่นกว่าบาท ก็ไม่มีแล้ว ตอนนี้ติดค้างค่าเช่าห้องมา 5 เดือนแล้ว รวมทั้งกู้เงินหนี้นอกระบบมาใช้จ่ายชีวิตประจำวันอีกเกือบ 1 แสนบาท ผมกับลูกชายต้องต้มมาม่ากินแทบทุกวัน สงสารแต่ลูกที่ไม่มีโอกาสเหมือนเด็กคนอื่นเขา ซึ่งเขาเองเป็นนักกีฬาของโรงเรียนและเรียนดีได้เกรดเฉลี่ย 3 กว่า ถึง 4 มาตลอด ไม่อยากให้ต้องมาหยุดเรียนกลางคัน และผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว”

อาจารย์ลักกี้ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีสมบัติอะไรมากมาย ที่ผ่านมาอะไรขายเป็นเงินได้ก็ทยอยขายเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงปากท้องตนกับลูกจนเกือบหมดแล้ว ตอนนี้จะเหลือก็เพียงพระเครื่องที่สะสมมากว่า 20 ปี และรถเก๋งนิสสันเก่าๆ ใช้มากว่า 30 ปี หากท่านใดอยากช่วยเหลือก็สามารถติดต่อมาขอเช่าพระทั้งหมดไปบูชาได้เลย ส่วนราคาก็แล้วแต่ท่านจะเมตตาช่วยเหลือตนกับลูกชาย ส่วนรถเก๋งเก่าๆ คู่ชีวิตที่เคยใช้ขับไปทำงานทุกคืนขอขายในราคา 45,000 บาท หากมีคนช่วยซื้อไว้ ตนจะได้นำเงินมาใช้หนี้ค่าเช่าห้อง ส่วนที่เหลือก็จะไว้เป็นทุนจ่ายค่าเล่าเรียนให้กับลูกชายต่อไป

สำหรับผู้มีจิตใจกุศลอยากช่วยเหลือ อาจารย์ลักกี้ กับ ลูกชาย สามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 082-2931732

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : สมคิด ลือประดิษฐ จ.นนทบุรี
แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]
คลิกอ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่.. 

https://youtu.be/q3CKMu2hpbc