หลังจากเคยทำหนังแอ๊คชั่นซีรีส์ ผ่านระบบสตีมมิ่ง 6 ตอน เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นหนังไทยสูตรสำเร็จแบบเดือด ๆ เอาเรื่องจริงมาเล่าซะจนดูน่ากลัว กลับมาคราวนี้ ผู้กำกับเจ้าพ่อสายบู๊ “โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ” ก็ได้ทำหนังแบบ Spin-Off ความยาว 2 ชั่วโมง 30 นาที ที่ใช้ชื่อเหมือนเดิมคือ “Bangkok Breaking” แต่เปลี่ยนชื่อไทยจาก “มหานครเมืองหลวง” เป็น “ฝ่านรกเมืองเทวดา” ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของ วันชัย (ศุกลวัฒน์ คณารศ) เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์จลาจลในม็อบ แต่ภายหลังเขาถูกสั่งพักงาน จึงต้องหันไปทำอาชีพไรเดอร์ส่งอาหาร
จนวันหนึ่งเขาไปส่งชานมไข่มุกให้กับ “เมจิ” (มายด์ 4EVE) พยาบาลฝึกหัด แต่กลับต้องไปพัวพันกับเหตุการณ์การลักพาตัว “ดวงกมล” (ณัฐธยาน์ องค์ศรีตระกูล) ลูกสาวเศรษฐี เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ซึ่งคนที่รับงานลักพาตัว ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น อดีนนักฆ่าเจ้าของฉายา “สินนัดเดียว” (สัญญา คุณากร) เรื่องราวยังวายป่วงไม่พอ เพราะพวกเขายังต้องไปพัวพันกับกลุ่มแก๊งในชุมขนเคหะ ที่นำโดย ดาร์ลี่ (เดย์ ไทเทเนียม) รวมไปถึง “แจ็ค” (สุทธิภัทร สุทธิวาณิช) หน่วยกู้ภัยที่มีภารกิจแอบแฝง “วันชัย” จะสามารถเอาตัวรอดช่วยเหลือ “ดวงกมล” จากสถานการณ์เลวร้ายนี้ได้หรือไม่?
จุดแข็ง
แม้จะบอกว่าเป็นการ Spin-Off แต่ดูแล้วเหมือนจับเอาแค่ตัว “วันชัย” มาเล่าเรื่องใหม่เท่านั้น คนที่ยังไม่เคยดู Bangkok Breaking ภาค “มหานครเมืองหลวง” ก็ไม่ต้องกังวลไปว่าจะดูไม่รู้เรื่อง เพราะพล็อตเรื่องไม่ได้มีอะไรสลับซับซ้อนวุ่นวาย หรือไปโยงเกี่ยวกับภาคก่อน หนังยังคงเน้นงานโชว์แอ๊คชั่นเข้ม ๆ ภาพสวย โปรดักส์ชั่นสู้หนังต่างประเทศได้สบาย ๆ โดยเฉพาะพาร์ทแอ๊กชั่นสตั้นซิ่งรถพยาบาลของ “วันชัย” มุมภาพโดดเด่น ใช้กล้องตัวเดียวถ่ายแบบ Long Take ได้ลุ้นกันหืดจับ
ในส่วนของบทหนังและตัวละคร อันนี้ต้องชื่นชมมากสุดเลยคือ บทของ “สินนัดเดียว” เพราะถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ “ดู๋-สัญญา คุณากร” ซึ่งจัดเต็มได้แบบ “สุดยอดดดดดด!” จากคาแรกเตอร์ของพี่ใหญ่อย่าง “กู๋เคี้ยง” ในหนัง “หลานม่า” พลิกมาเป็นนักฆ่าหัวยุ่ง ๆ หน้าตึง แต่ละพาร์ทออกมาแย่งซีนได้หมด
จุดอ่อน หนังยังคงใส่ประเด็นวิพากษ์ทางสังคมไทย ตั้งแต่ความขัดแย้งทางความคิด อิทธิพลทางอำนาจการเมือง คนจนถูกความจนบีบคั้นแก้ปัญหาไม่ตก ต้องยอมทำทุกอย่าง ขณะที่คนรวยใช้อำนาจเงินแก้ปัญหาทุกอย่าง สิ่งเหล่านี้ทำให้หนังดูย่อยง่ายเกินไป เดาทิศทางของเรื่องได้ง่าย อีกทั้งการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วทำให้ตัวละครหลักหลายตัวขาดมิติ เนื่องจากไม่มีการปูพื้นเนื้อหาของตัวละครที่สำคัญให้มากพอ
4/5 กะโหลก ภาพรวมของหนังเรื่องนี้ น่าจะเป็นการอัพเกรดความสนุกให้มากขึ้น ดารานักแสดงจัดเต็มครบเครื่อง งานขายแอ๊คชั่นสตั้นเข้ม ๆ ของ “ผู้กำกับโขม” น่าจะถูกใจคอหนังแอ๊คชั่นคนไทย แต่จะถูกใจคนดูทั่วโลกหรือไม่ ต้องติดตามกันดูต่อไป.
———————————————
คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก YouTube