กลับเข้าห้องสอบอีกครั้งกับ “Bad Genius แบดจีเนียส” ผลงานรีเมคภาพยนตร์ไทย “ฉลาดเกมส์โกง” (2560) สู่การตีความและนำเสนอในเวอร์ชั่นฮอลลีวูด กำกับการแสดงโดย “เจ.ซี. ลี” ได้ 4 นักแสดงรุ่นใหม่ “คัลลินา เหลียง” (Tell Me Everything), “จาบารี แบงส์” (Bel-Air), “เทย์เลอร์ ฮิกสัน” (Deadpool) และ “คอเนอร์ มีโดวส์” เสริมทัพด้วยดาราดังอย่าง “เบเนดิกต์ หว่อง” จาก Doctor Strange
Bad Genius เล่าเรื่องราวของ “ลินน์” (คัลลินา เหลียง) สาวนักเรียนทุนมากพรสวรรค์ของโรงเรียน ได้มองเห็นช่องทาง และโอกาสที่จะได้รับจากความชาญฉลาดของตัวเองมากกว่าทุนการศึกษา เธอจึงเริ่มรับจ้างโกงข้อสอบภายในห้องเรียน เพื่อหารายได้จากเพื่อนร่วมชั้นผู้ร่ำรวย ก่อนถลำลึกไปถึงการโกงข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่การันตีทั้งความยาก ท้าทาย และแบกความหวังสุดกดดันจากกลุ่มเพื่อน และผู้จ้าง งานนี้เธอไม่สามารถทำมันได้คนเดียว จึงต้องแท็กทีมกับ “แบงค์” (จาบารี แบงส์) นักเรียนทุนอีกราย เพื่อวางแผนอย่างแยบยลที่สุด เพราะเกมโกงข้อสอบครั้งนี้เดิมพันด้วยอนาคตทั้งหมด
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความอินให้กับเหล่าวัยรุ่นอเมริกันได้ไม่ยากเลย เพราะจากสถิติทั่วไปของการสอบในสหรัฐ ระหว่างปี 2545-2558 พบว่ามีนักเรียนมากกว่า 58% ที่โกงการสอบ และ 64% มีการลอกข้อสอบ ขณะที่ 95% ยอมรับว่ามีการโกงข้อสอบในทุกรูปแบบ
สำหรับ “Bad Genius” เวอร์ชั่นอเมริกา ที่รีเมคมาจาก “ฉลาดเกมส์โกง” ของไทยนั้น เนื้อเรื่องเกือบทั้งหมดเป็นไปตามต้นฉบับ มีแค่ปรับปริบทต่าง ๆ ให้เข้ากับสังคมอเมริกัน ทำให้ตอนเข้าไปชมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นมากนัก พร้อมกับมีคำถามในใจว่า มันจะสนุกเหรอ? เพราะเคยดูมาแล้ว เนื้อเรื่องก็คงคล้าย ๆ กัน แต่ผลปรากฏว่า หนังสนุกกว่าที่คาดเอาไว้ ความลุ้นระลึกในการเอาใจช่วยไม่ให้เด็ก ๆ ถูกจับได้ว่า กำลังโกงสอบอยู่นั้น ก็ยังคงสร้างความสนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก ให้กับผู้ชมได้เหมือนเดิม แถมยังมีการเพิ่มประเด็นของ “คนชายขอบ” อย่างครอบครัวของนางเอก “ลินน์” ที่มีเชื้อสายเอเชีย แม้จะฉลาดแค่ไหน แต่โอกาสทางสังคมของเธอก็ไม่ได้ถูกมองว่า เทียบเท่ากับเพื่อน ๆ ชาวอเมริกัน หนังสะท้อน “ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น” ได้อย่างชัดเจน ทั้งความเหลื่อมล้ำด้านฐานะ การศึกษา เชื้อชาติ วัฒนธรรม และเพศ
ด้านการแสดงของทั้ง 4 ตัวละครหลัก ถือว่าสอบผ่าน แถมยังได้นักแสดงรุ่นเก๋า “เบเนดิกต์ หว่อง” จากหนังหมอแปลก Doctor Strange มารับบท “เม้ง” พ่อของลินน์ ซึ่งช่วยสร้างสีสันให้กับหนังได้เป็นอย่างดี
น่าเสียดายที่ไม่มีการนำ 4 ดาราหลักจากเวอร์ชั่นต้นฉบับ “ฉลาดเกมส์โกง” ของไทย ไปเป็นดารารับเชิญในหนังเวอร์ชั่นอเมริกา ถ้ามีสักหน่อยจะเป็นกิมมิคที่ทำให้หนังปังกว่าเดิมอย่างแน่นอน
4/5
ใครที่คิดว่า… ดูเวอร์ชั่นไทยแล้ว ไปดูเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ดคงไม่สนุก ขอบอกเลยว่า คุณคิดผิด!! “Bad Genius แบดจีเนียส” เป็นหนังที่ดูสนุก เหมือนได้กลับไปเจอกับเพื่อนที่คุ้นเคย คุยกันกี่ทีก็สนุกเหมือนเดิม ไม่มีกร่อย
หมีเช
