การที่โรงเรียนแพทย์ ที่มีทรัพยากรบุคคลพร้อม เข้ามาจัดบริการในกลุ่มเด็กพิเศษ ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีความต้องการพิเศษได้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น“ … นี่เป็นใจความสำคัญส่วนหนึ่งจากการระบุไว้โดย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในโอกาสเข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการ “Multidisciplinary care สำหรับผู้ป่วยที่มีความต้องการพิเศษ” ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งในงานสัมมนางานนี้ยังมีการเสวนาเรื่อง “บทบาทของคณะทันตแพทย์ในการเป็นส่วนหนึ่งของระบบบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ป่วยที่มีความต้องการพิเศษ” ด้วย… 

“ผู้ป่วยมีความต้องการพิเศษ“ นี่ยังไง?
วันนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ชวนดูกรณีนี้

ทั้งนี้ สัมมนาวิชาการดังกล่าวมี ศ.ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เป็นประธานเปิดงาน นี่เป็นการสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ในการดูแล “ผู้ป่วยที่มีความต้องการพิเศษ“ อย่างเป็นองค์รวมได้อย่างถูกต้อง และสามารถนำไปพัฒนาระบบการเรียนการสอนและการบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้เกิดการผลักดันนโยบายระบบการดูแลผู้ป่วยที่มีความต้องการพิเศษในระดับประเทศ โดยมี ผศ.ทพ.ดร.นฤมนัส คอวนิช คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ กล่าวรายงาน มีผู้ทรงคุณวุฒิ คณาจารย์ นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เข้ารับฟัง ส่วนผู้เสวนา ประกอบด้วย นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, รศ.ทพ.ดร.ไชยรัตน์ เฉลิมรัตนโรจน์ ประธานราชวิทยาลัยทันตแพทย์แห่งประเทศไทย, ทพญ.วรารัตน์ ใจชื่น จากกองบริหารการสาธารณสุข และ ทพ.อรรถพร จาก สปสช.

หลังเสวนา คณะ สปสช. ที่รวมถึง ทพญ.ปาริชาติ ลุนทา ผอ.กลุ่มจังหวัด สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ ได้เยี่ยมชมระบบการดูแลผู้ป่วย ซึ่งมีการนำคณะเยี่ยมชม “คลินิกทันตกรรมสำหรับผู้ป่วยที่มีความต้องการพิเศษ 9/1“ โดย ผศ.ทพ.ดร.นฤมนัส, ผศ.ทพญ.ดร.สการัตห์ ณ ลำปาง รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจการพิเศษ, ผศ.ทพญ.อรนิดา วัฒนรัตน์ หัวหน้าสาขาทันตกรรมสำหรับเด็ก และ ผศ.ทพ.ดร.จิตจิโรจน์ อิทธิชัยเจริญ ผอ.รพ.ทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มช. 

ผศ.ทพ.ดร.ฤมนัส ระบุว่า… แนวโน้มคนไทยเริ่มมีผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงมากขึ้น ซึ่งต้องมีระบบบริการสาธารณสุขที่ดี ปัจจุบันมีคนที่ต้องการได้รับการดูแลจากสถานพยาบาลที่มีศักยภาพมากขึ้น โดยสำหรับผู้ป่วยกลุ่มคนพิเศษในภาคเหนือตอนบนนั้น หลังจากคณะทันตแพทย์ มช. เปิดหน่วยบริการ Multidisciplinary care สำหรับ ผู้ป่วยที่มีความต้องการพิเศษ” คนที่รู้ก็เริ่มทยอยมาเข้ารับบริการ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีคนไข้ที่มารับบริการที่นี่จำนวนมากขึ้น-เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“มีคนไข้เด็กพิเศษ ที่ต้องได้รับการดูแลต่างจากเด็กปกติ และจำเป็นที่ต้องการหมอที่ไปหาคนไข้ ซึ่งต้องจัดสถานที่ให้เหมาะสมกับคนไข้กลุ่มพิเศษนี้ อีกทั้งยังต้องมีความร่วมมือของหมอหลายสาขา คนไข้กลุ่มนี้อาจมีโรคอื่น ๆ เช่น หัวใจ เบาหวาน น้ำหนักเกิน ก็ต้องมีแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางมากขึ้น“…ทาง ผศ.ทพ.ดร.นฤมนัส ระบุ พร้อมบอกว่า… กับการจัดระบบบริการทันตกรรม สร้างเสริมสุขภาพช่องปาก สำหรับประชากรกลุ่มนี้ก็เป็นหน้าที่วิชาชีพทันตกรรม

คลินิกพิเศษนี้เปิดมา 3-4 ปี จำนวนคนไข้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการคัดกรองคนไข้ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ส่วนมากจะเป็นคนไข้เด็กที่มีความบกพร่อง โดยคนไข้กลุ่มนี้จะมีภาวะทางช่องปากจำนวนไม่น้อย บางคนจำเป็นต้องดมยาสลบและต้องผ่าตัดฟันคุดอย่างเร่งด่วน กลุ่มเด็กพิเศษจะมีปัญหาทางช่องปากเพราะไม่สามารถสื่อสารได้ปกติ หรือคนไข้ไม่สามารถจะควบคุมวิถีชีวิตของตนเองได้” …ทางคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มช. ระบุ

ภายหลังการเยี่ยมชมคลินิกฯ ทางคณะ สปสช. โดย ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ ได้ระบุว่า… รู้สึกประทับใจมาก ที่ทางคณะทันตแพทย์ มช. ได้เน้นและให้ความสำคัญต่อการ “ยึดคนไข้เป็นศูนย์กลาง“ ซึ่งเมื่อคนไข้กลุ่มนี้เข้ามารับบริการ มีการจัดแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางอยู่ในจุดเดียว หากมีอาการที่เกี่ยวข้องด้านใดก็จะมาช่วยกันดูแลรักษาในทันที โดย ในส่วนของ สปสช. ได้เข้ามาสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามที่ให้บริการ ซึ่งสำหรับระบบทันตกรรม แบบจ่ายตามราคาตามรายการบริการ (OP Fee Schedule) ที่มี 88 รายการนั้น จะครอบคลุมในการให้บริการกลุ่ม “ผู้ป่วยที่มีความต้องการพิเศษ”

“สปสช. ยินดีสนับสนุน สำหรับกลุ่มเด็กพิเศษกลุ่มนี้มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากได้ตลอด ซึ่งการที่โรงเรียนแพทย์เข้ามาจัดบริการผู้ป่วยในกลุ่มเด็กพิเศษ ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการมากยิ่งขึ้น“ …ทพ.อรรถพร ระบุย้ำไว้

ทั้งนี้ สุนทรี สืบวงศ์ดี ผู้ปกครองเด็กพิเศษที่ได้เข้ารับบริการที่นี่รายหนึ่ง เล่าว่า… ลูกเป็นออทิสติก ซึ่งสำหรับการมีปัญหาสุขภาพด้านช่องปากนั้น เดิมเคยพาลูกไปใช้บริการที่คลินิกทันตกรรมเด็กของเอกชน แต่พอลูกอายุมากขึ้นแล้วเครื่องมืออุปกรณ์ก็ไม่พร้อมและไม่ถนัดในการดูแลเด็กพิเศษทางทันตกรรม ก็เลยแนะนำให้มาที่นี่ ซึ่งได้มาใช้บริการที่นี่เป็นเวลา 2 ปีแล้ว

คุณหมอและเจ้าหน้าที่ใส่ใจดูแลดีมาก ที่นี่มีความเข้าใจความต้องการของเด็กพิเศษ เขาพูดคุยสื่อสารกันรู้เรื่อง สอนให้ช่วยเหลือตัวเอง เดี๋ยวนี้น้องแปรงฟันได้เองโดยแม่ไม่ต้องช่วย ดูจากพฤติกรรมและการสื่อสารของลูกก็รู้ได้ว่าชอบที่นี่มาก และโชคดีมากที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลยเพราะใช้สิทธิบัตรทอง” …ผู้ปกครองรายนี้ระบุ

ผู้ป่วยเด็กที่ ต้องการพิเศษ“ ก็มีสิทธิ
“บัตรทอง“ ก็ สนับสนุนการบริการ“
เพื่อ ผู้ป่วยที่มีความต้องการพิเศษ“.