ตามคำสั่งที่ร่างขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีนี้ รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี ผู้นำอิตาลี กำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับการขึ้นภาษีนักท่องเที่ยว จากปัจจุบันที่ประมาณ 5 ยูโรต่อคืน (ราว 189 บาท) เป็น 10 ยูโรต่อคืน (ราว 378 บาท) สำหรับห้องพักราคา 100 ยูโร (ราว 3,783 บาท) ส่วนห้องพักราคาสูงกว่า 400 ยูโร (ราว 15,000 บาท) และห้องสวีทหรูราคาสูงกว่า 750 ยูโร (ราว 28,000 บาท) จะมีอัตราภาษีอยู่ที่ 15 ยูโรต่อคืน (ราว 567 บาท) และ 20 ยูโรต่อคืน (ราว 946 บาท) ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวสร้างความไม่พอใจในกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งพวกเขากังวลว่า แผนการขึ้นภาษีอาจเป็น “การกีดกันนักท่องเที่ยว”

“เราไม่ควรทำให้นักท่องเที่ยวกลัวด้วยภาษีที่สูงเกินไป” นางมารีนา ลาลลี หัวหน้าสมาคมวิชาชีพ “เฟแดร์ทัวริสโม” กล่าวเพิ่มเติมว่า อิตาลีมีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มสูงถึง 22% อยู่แล้ว และการปรับขึ้นภาษีครั้งใหม่ มีความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายต่อความสามารถในการแข่งขันของอิตาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยวแบบครบวงจร

ทว่าหลังจากข่าวการขึ้นภาษีนักท่องเที่ยว กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในต่างประเทศ นางแดเนียลา ซานตันเช รมว.ท่องเที่ยวอิตาลี ก็ออกมาปฏิเสธ “การตื่นตระหนกที่ไม่มีมูลค่าจริง” เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เธอไม่ได้ปฏิเสธแผนการของรัฐบาลโรมแต่อย่างใด

“ในช่วงที่เกิดปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง เรากำลังหารือเกี่ยวกับภาษีนักท่องเที่ยว ซึ่งภาษีนี้สามารถช่วยปรับปรุงบริการ และทำให้นักท่องเที่ยวที่จ่ายภาษี มีความรับผิดชอบมากขึ้น” ซานตันเช ระบุบนสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ อิตาลีเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับที่ 4 ของโลก ซึ่งประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 57.2 ล้านคน เมื่อปีที่แล้ว และสร้างรายได้สะพัดถึง 55,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.9 ล้านล้านบาท) ตามข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ) ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น “การท่องเที่ยวสหประชาชาติ” หรือ ยูเอ็น ทัวริซึม เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

อีกด้านหนึ่ง บรรดานักท่องเที่ยวมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน โดยบางคนชี้ว่า การปรับขึ้นภาษีนักท่องเที่ยวถือเป็น “การแสวงหากำไรเกินควร” ตรงข้ามกับอีกฝ่ายที่มองว่า แผนการขึ้นภาษีเป็นมาตรการที่ดี และพวกเขาเข้าใจถึงความไม่สบายใจของชาวอิตาลี

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวของรัฐบาลระบุว่า การปรึกษาหารือกับภาคส่วนอุตสาหกรรมและหน่วยงานท้องถิ่น ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งแผนการปรับขึ้นภาษีนักท่องเที่ยวในตอนนี้ เป็นเพียง “สมมติฐาน” เท่านั้น และทางการอิตาลียังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ

อนึ่ง มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า และแนวชายฝั่งที่สวยงาม ทำให้อิตาลีเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมมาอย่างยาวนาน แต่จำนวนนักท่องเที่ยวก็เริ่มไม่ยั่งยืนมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ชาวอิตาลีในเมืองต่าง ๆ เริ่มเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในช่วงไฮซีซั่น รวมถึงแสดงความไม่พอใจต่อนักท่องเที่ยว ตลอดจนมีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ และค่าเช่าที่พุ่งสูง.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AFP