ความแตกต่างในตำแหน่งที่มีอาการ
แผลปรากฏบริเวณที่มีการติดเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ผู้ติดเชื้อไวรัสสามารถแพร่เชื้อได้โดยการสัมผัสบริเวณที่เจ็บ จากนั้นถูหรือเกาบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย นั่นรวมถึงนิ้วหรือดวงตาของผู้ติดเชื้อไวรัสด้วย

อาการเจ็บสามารถเกิดขึ้นได้ใน :
-ก้น ต้นขา ลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย
-ทวารหนัก ปาก
-ท่อปัสสาวะ ปากช่องคลอด
-ช่องคลอด ปากมดลูก
-องคชาต ถุงอัณฑะ

ระบาดซ้ำหรือช่วงที่เกิดซ้ำ
หลังจากการระบาดของโรคเริมที่อวัยวะเพศครั้งแรก อาการมักจะปรากฏขึ้นอีก สิ่งเหล่านี้เรียกว่าการระบาดซ้ำหรือเป็นช่วงที่เกิดซ้ำ

ความถี่ของการระบาดซ้ำเกิดขึ้นนั้นแตกต่างกันไปมาก โดยปกติผู้ติดเชื้อไวรัสจะมีการระบาดมากที่สุดในปีแรกหลังการติดเชื้อ อาจปรากฏไม่บ่อยนักเมื่อเวลาผ่านไป อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสในระหว่างการระบาดซ้ำมักจะไม่นานนักและไม่รุนแรงเท่ากับครั้งแรก

ผู้ติดเชื้อไวรัสอาจมีสัญญาณเตือนสองสามชั่วโมงหรือวันก่อนการระบาดครั้งใหม่จะเริ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้เรียกว่าผู้ป่วยมักมีอาการนำประกอบด้วย :
-อาการปวดอวัยวะเพศ

-รู้สึกเสียวซ่าหรือปวดร้าวที่ขา สะโพก หรือบั้นท้าย

สาเหตุเริมที่อวัยวะเพศ
โรคเริมที่อวัยวะเพศเกิดจากเชื้อไวรัสเริมสองชนิด ประเภทเหล่านี้รวมถึงไวรัสเริมชนิดซิมเพล็กซ์ 2 (HSV-2) และไวรัสเริม
ชนิดซิมเพล็กซ์ 1 (HSV-1) ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเริมสามารถแพร่เชื้อไวรัสได้แม้ว่าจะไม่แสดงอาการก็ตาม
ไวรัสเริมชนิดซิมเพล็กซ์ 2 (HSV-2)
ไวรัสเริมชนิดซิมเพล็กซ์ 2 เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคเริมที่อวัยวะเพศ ไวรัสสามารถเกิดขึ้นได้ :
-บนแผลพุพองและแผลทั่วไปหรือของเหลวจากแผล
-เยื่อบุหรือของเหลวในช่องปากชื้น
-เยื่อบุชื้นหรือของเหลวในช่องคลอดหรือทวารหนัก
-ไวรัสแพร่จากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งระหว่างมีเพศสัมพันธ์.

…………………………………….
ศ.น.ท.ดร.นพ.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล
คลินิกสุขภาพชาย หน่วยศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ
ภาควิชาศัลยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…