ในช่วงนี้ หลายคนอาจทั้งรู้สึกตื่นเต้น และเซอร์ไพร้สอย่างที่สุด หลังจากที่วงดนตรีระดับตำนานอย่าง LINKIN PARK ได้ประกาศเปิดตัวนักร้องนำคนใหม่ เอมิลี อาร์มสตรอง (Emily Armstrong) ศิลปินวัย 38 ปีที่เป็นนักร้องหญิงคนแรกของวง ที่จะมาสานต่อความยิ่งใหญ่ของวงร็อกระดับโลกให้ก้าวหน้าต่อไป
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีแฟนดนตรี และเกมเมอร์อีกหลายคน ได้ร่วมรำลึกถึงการจากไปของนักร้องนำคนเดิมที่เคยอยู่คู่กับวงมาอย่างยาวนาน อย่าง เชสเตอร์ เบนนิงตัน (Chester Bennington) ผู้จากโลกใบนี้ไปด้วยอาการซึมเศร้า และกลายเป็นข่าวใหญ่ในวงการดนตรีเมื่อนานมาแล้ว
ในช่วงที่ชายคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ เขาก็ได้สร้างบทเพลงที่ชวนติดหู และน่าจดจำเอาไว้มากมายในวงการเพลงร็อก โดยหลายเพลงที่ได้ปล่อยออกไป ก็ถูกนำไปใช้ในวิดีโอเกมดังหลายเกมอีกด้วย แล้วจะมีเพลงอะไรบ้าง ที่ชาวเกมเมอร์จะคุ้นหูกันอย่างแน่นอนเมื่อพูดถึง ในบทความนี้ FLINT K. จาก เดลินิวส์ออนไลน์ จะนำเรื่องราวบทเพลงบางส่วนของ เชสเตอร์ เบนนิงตัน กับวง LINKIN PARK ที่เข้าไปอยู่ในโลกวิดีโอเกม มายกตัวอย่างให้เข้าใจกันที่นี่
หมายเหตุ: ในบทความนี้จะยกตัวอย่างเฉพาะเพลงที่ทาง เชสเตอร์ เบนนิงตัน มีส่วนร่วมในการสร้างเท่านั้น ไม่รวมเพลงอื่น ๆ ที่สร้างขึ้นในยุคของเขา
A Place for My Head – อัลบั้ม Hybrid Theory (2000)
นี่คือผลงานเพลงแรกของ เบนนิงตัน และวง LINKIN PARK ที่ได้เข้าไปอยู่ในโลกของวิดีโอเกม โดยเกมแรกที่ว่านี้ก็คือเกมกีฬาเอ็กซ์ตรีม ESPN X-Games Skateboarding ที่พัฒนาร่วมกันโดย ESPN และ KONAMI เมื่อปี 2001 และถือเป็นอีกเกมที่มีเพลงประกอบสุดเร้าใจ จนสายเอ็กซ์ตรีมต้องยกนิ้วให้เลยทีเดียว!
No More Sorrow – อัลบั้ม Minutes to Midnight (2007)
อีกผลงานเพลงที่มีเนื้อสุดเศร้านี้ เป็นอีกเพลงที่ถูกนำไปใช้ในเกมกีตาร์ชื่อดัง Guitar Hero III: Legends of Rock ปี 2007 แต่จะเข้ามาในรูปแบบของ DLC ที่ผู้เล่นจะต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อเล่นเพลงนี้ ส่วนอีกเกมล่าสุดที่เพิ่งจะนำเพลงนี้ไปบรรจุไว้ ก็คือเกมมือถือ Tap Tap Reloaded เมื่อปี 2023 เพื่อให้เกมเมอร์ได้สัมผัสถึงเนื้อเพลงได้อย่างเมามันกันอีกครั้ง หลังจากผ่านไปนานเกือบ 20 ปี
One Step Closer – อัลบั้ม Hybrid Theory (2000)
นี่คือหนึ่งในผลงานเพลงที่ทาง เชสเตอร์ เบนนิงตัน แต่งขึ้น เพื่อแสดงความโกรธเกรี้ยวในการเติบโตของตัวเอง หลังจากถูกทำร้ายมาอย่างนับไม่ถ้วนในช่วงวัยเด็ก เขาต้องการจะสื่อสารกับเด็กทุกคนบนโลกใบนี้ ที่กำลังรู้สึกเกลียดตัวเอง ให้รับรู้ว่าตัวเขาเองก็ก้าวผ่านความโหดร้ายของโลกมาแล้ว
เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่ได้เข้าไปอยู่ในหลายเกม ไม่ว่าจะเป็น Guitar Hero On Tour: Decades, Rock Band 2, Rock Band 4 (DLC), Rocksmith 2014 (DLC), Project CARS, Beat Saber และ Rocksmith+ โดยหากผู้เล่นคนใดอยากสัมผัสถึงความรู้สึกในวัยเด็กของเบนนิงตัน เพลงนี้ถือเป็นหนึ่งในเพลงที่สะท้อนตัวตนในวัยเด็กของเขาได้มากที่สุด
What I’ve Done – อัลบั้ม Minutes to Midnight (2007)
ถ้าหากใครสักคนพูดถึงวง LINKIN PARK ขึ้ยแล้ว เพลงนี้จะต้องเป็นหนึ่งในเพลงที่หลายคนจดจำกันได้ดีอย่างแน่นอน เพราะนี่คือบทเพลงที่สื่อถึงการลบล้างและปลดปล่อยตัวเอง จากทุกสิ่งที่เคยทำไว้อย่างชัดเจนที่สุด และยังเป็นหนึ่งในเพลงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของวงอีกด้วย
What I’ve Done ได้ไปอยู่ในวิดีโอเกมดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Guitar Hero: World Tour, Midnight Club: Los Angeles, Rock Band 3 (DLC), Rocksmith 2014 (DLC), Beat Saber และ Rocksmith+ หากใครอยากสัมผัสถึงพลังแห่งการลบล้าง ก็ไม่ควรพลาดที่จะไปลองฟ้ง และลองเล่นเกมเหล่านี้กันดู!
Given Up – อัลบั้ม Minutes to Midnight (2008)
นี่คือบทเพลงของ LINKIN PARK ที่สื่อถึงการ ‘ยกธงขาว’ หรือการยอมแพ้จากบางสิ่งเอาไว้อย่างชัดเจน และเป็นเพลงที่มีความ “เฮฟวี” มากกว่าเพลงใด ๆ ในอัลบั้ม Minutes to Midnight อีกด้วย แม้ว่าเพลงนี้อาจไม่ใช่เพลงดัง เมื่อเทียบกับหลาย ๆ เพลงในอัลบั้ม แต่มันก็จะเป็นอีกหนึ่งในผลงานที่น่าจดจำสำหรับแฟนคลับอย่างแน่นอน
“Given Up” ได้ไปอยู่ในเกมดังบางเกม ไม่ว่าจะเป็น Rock Revolution, Rock Band 4 (DLC) และ Beat Saber
More the Victim – อัลบั้ม Meteora (2002/2023)
นี่คือเพลงที่ ‘ฉีก’ จากความเป็นร็อกแบนด์ของวง LINKIN PARK เพราะสไตล์ของเพลงนี้จะมีความเป็น Alternative ผสมกับ Indie เป็นหลัก โดยเนื้อเพลงนี้จะสื่อถึงผู้ที่แสดงตัวตนว่าเป็น ‘ผู้ถูกกระทำ’ และความ ‘เจ็บปวดยิ่งกว่าใครอีกคน’ เอาไว้ภายในบทเพลง ตัวเพลงเคยแต่งขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2002 ก่อนที่จะมีการนำมาเผยแพร่ใหม่อีกครั้งในปี 2023 เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 20 ปีของอัลบั้ม Meteora
ส่วนเกมต่าง ๆ ที่มีเพลงนี้อยู่ ก็จะมี Rock Band 4 (DLC), Beat Saber และ Rocksmith+ ให้เกมเมอร์ได้เข้าไปสัมผัสกันอย่างเต็มที่!
Wretches and Kings – อัลบั้ม A Thousand Suns (2010)
นี่คือเพลงของวง ที่แสดงถึงความคิดทางการเมืองผ่านมุมมองของ “มาริโอ ซาวิโอ” (Mario Savio) นักเคลื่อนไหวชื่อดังของสหรัฐอเมริกาในยุคสงครามเย็น โดยมีการยกคำปราศรัยของเขาในหัวข้อ “Bodies upon the gears” และ “Operation Of The Machine” เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1964 มาอยู่ในบทเพลงด้วย ส่วนสไตล์ของเพลงจะมีความเป็น Hip-hop ผสมกับการใช้เครื่องซินธิไซเซอร์เป็นองค์ประกอบหลักของเพลง
Wretches and Kings ได้ไปปรากฎอยู่ในเกมดังอย่าง EA SPORTS MMA และ Guitar Hero: Warriors of Rock (DLC) ให้แฟนเกมได้สัมผัสกันอีกด้วย!
Blackout – อัลบั้ม A Thousand Suns (2010)
นี่คือเพลงที่ไม่ค่อยมีองค์ประกอบความเป็นเมทัลเท่าไรนัก แต่ก็เป็นเพลงที่มีเสียงกรีดร้องมากที่สุดเพลงหนึ่ง ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในเพลงสุดแปลกของอัลบั้ม A Thousand Suns และผู้ฟังจะได้เห็น ไมค์ ชิโนดะ (Mike Shinoda) ผู้เป็นโปรดิวเซอร์ของเพลง มาร่วมร้องเพลงนี้กับ เบนนิงตัน ในช่วงท้ายอีกด้วย
Blackout ได้ไปอยู่ภายในเกม FIFA 11, Guitar Hero: Warriors of Rock (DLC) และ Tap Tap Reloaded
Numb – อัลบั้ม Meteora (2002/2023)
ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่า เพลง “Numb” ถือเป็นหนึ่งในเพลงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของวง LINKIN PARK เพราะนี่คือเพลงที่ครองหัวตารางชาร์ทในสหรัฐอเมริกามายาวนานเป็นปี แล้วยังเป็น 1 ใน 2 เพลงที่มีผู้ฟังบน Spotify มากกว่า 1 พันล้านครั้งอีกด้วย โดยเพลงนี้ถือเป็นเพลงที่สื่อถึงตัวตน และความสามารถในการขับร้องของ เชสเตอร์ เบนนิงตัน ได้ดีที่สุด
Numb ได้ไปปรากฎอยู่ในวิดีโอเกมหลายยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็น Rock Band 3 (DLC), Rocksmith 2014 (DLC), Let’s Sing 2020, Beat Saber, Fuser (DLC), Just Dance 2023 Edition, Rock Band 4 (DLC), Beatstar, Tap Tap Reloaded รวมถึง Fortnite Festival และเป็นอีกเกมที่ชาวเกมเมอร์จดจำได้อย่างดีอีกด้วย!
In the End – อัลบั้ม Hybrid Theory (2000)
ถ้าเพลง “Numb” คือเพลงที่สร้างปรากฎการณ์ให้กับวงกว้างแล้ว เพลง “In the End” ก็คือเพลงที่มาก่อนกาล และสร้างแรงบันดาลใจให้กับทั่วโลกได้มากกว่า! นี่คือเพลงที่ขึ้นสู่อันดับต้น ๆ ในทุกชาร์ทที่มีอยู่บนโลกใบนี้ และมีผู้ฟังทั่วโลกรวมกันไปมากกว่า 1 พันล้านครั้งผ่านทุกแพลตฟอร์ม เพลงนี้ถือเป็นเพลง “ซิกเนเจอร์” ประจำวง LINKIN PARK ไปเรียบร้อยแล้ว
In the End ได้ไปอยู่ในเกมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Rock Band 3 (DLC), Rocksmith 2014 (DLC), Beat Saber, Rocksmith+, Fortnite Festival และกำลังจะกลายเป็นเพลงประกอบในเกมดังอย่าง Grand Theft Auto VI ที่ยังไม่ปล่อยออกมาอีกด้วย!
New Divide – อัลบั้ม Transformers: Revenge of the Fallen – The Album (2009)
นี่คือหนึ่งในผลงานจากอัลบั้มสุดเอ็กซ์คลูซีฟของวง LINKIN PARK ที่ได้สร้างเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ Transformers: Revenge of the Fallen ของผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ (Michael Bay) เมื่อปี 2009 และเป็นหนึ่งในเพลงฮิตติดชาร์ทหลายรายการทั่วโลก แม้ตัวภาพยนตร์ที่นำไปประกอบอาจได้รับคำวิจารณ์อยู่บ้าง แต่ตัวผลงานเพลงนี้กลับเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงในเชิงบวกมากมาย ด้วยความมันและเร้าใจของเพลงนี้ ก็ทำให้ใครหลายคนไม่ลืมภาพจำของเพลงกันไปอย่างง่ายดายแน่นอน
New Divide ได้ไปปรากฎตัวอยู่ในโลกของเกม Rock Band 3 (DLC), Beat Saber และ Tap Tap Reloaded อีกด้วย!
Bleed It Out – อัลบั้ม Minutes to Midnight (2007)
นี่คือบทเพลงของ LINKIN PARK ที่สื่อถึงการ ลอกทุกออกไป ขุดคุ้ยออกมา แล้วก็โยนมันไปให้ไกล ผ่านเรื่องราวของการก้าวข้ามจากรอยแผลที่เกิดขึ้นของตัวเอง จนแฟนเพลงหลายคนได้ยกย่องว่านี่คือเพลงที่เบนนิงตันกรีดร้องด้วยเสียงของปีศาจ ขับร้องด้วยเสียงจากสวรรค์ และจากไปอย่างตำนานโดยแท้จริง
Bleed It Out ได้ไปอยู่ภายในเกม Guitar Hero: Warriors of Rock, Rocksmith 2014 (DLC), Beat Saber และ Rocksmith+ ให้แฟน ๆ ได้สัมผัสกัน!
CASTLE OF GLASS – อัลบั้ม Living Things (2012)
เพลงนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลงที่สร้างมาจาก ‘เรื่องจริงหลายเรื่อง’ เพราะมันคือเพลงที่แสดงถึงความเศร้าของตัวเองที่แตกสลายลงไป บวกกับความรู้สึกที่ตัวเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจุดยืนที่เคยมีอีกต่อไป และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ดังที่สุดของอัลบั้ม Living Things ปี 2012 อีกด้วย!
CASTLE OF GLASS ได้ไปปรากฎเป็นเพลงประกอบสุดเอ็กซ์คลูซีฟของเกม Medal of Honor: Warfighter ก่อนที่จะนำไปลงในเกม Need for Speed: Rivals และ Tap Tap Reloaded ในภายหลัง
Wastelands – อัลบั้ม The Hunting Party (2014)
นี่คือเพลงที่มีสไตล์ความเป็น Hip-hop และประกอบไปด้วยจังหวะกลองและเบสอย่างหนัก ตามด้วยการผสมผสานความเป็นเฮฟวีไว้ในช่วงกลางเพลง ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนต้องไหลไปตามจังหวะเพลงที่ไม่แน่นอน แต่ก็จะรู้สึกสบายใจได้ในภาพรวม
Wastelands ได้ไปปรากฎอยู่ในเพลง Guitar Hero Live เพียงเกมเดียว แต่ก็เป็นสิ่งที่ชาวเกมเมอร์ก็ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง!
Until It’s Gone – อัลบั้ม The Hunting Party (2014)
Until It’s Gone เปิดตัวด้วยทำนองแบบซินธ์ที่ทางวงเคยใช้ในการแจ้งเกิดเมื่อปี 2000 กับอัลบั้ม Hybrid Theory แต่โดยรวมจะมีความเป็นร็อกมากขึ้น โดยทาง เชสเตอร์ เบนนิงตัน เคยอธิบายเกี่ยวกับเพลงไว้สั้น ๆ ว่า “คุณจะไม่รู้ว่าคุณมีอะไร จนกว่ามันจะหายไป!”
เพลงนี้ได้ไปปรากฎอยู่ในเกม Transformers: Rise of the Dark Spark แบบเอ็กซ์คลูซีฟ หากใครอยากสัมผัสถึงคุณค่าในสิ่งที่มี ก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาด!
Guilty All the Same – อัลบั้ม The Hunting Party (2014)
นี่คือเพลงที่ทาง LINKIN PARK ได้ฟีเจอร์ร่วมกับ Rakim ในการรังสรรค์บทเพลงขึ้นมา โดยไม่มีส่วนร่วมใด ๆ จากโปรดิวเซอร์เลย เพราะพวกเขาได้ช่วงกันสร้างเพลงนี้ขึ้นมาด้วยตัวเอง และเป็นเพลงที่มีการผสมผสานความเป็นเฮฟวีเมทัล, ฮาร์ดร็อก และ แร็ปเมทัล เข้าไว้ในเพลงเดียว
Guilty All the Same ไปปรากฎอยู่ในเกม EA Sports UFC และ Rocksmith 2014 (DLC) เพื่อให้แฟนเกมได้สัมผัสถึงความเป็น “เฮฟวีเมทัล” ของวงกันอย่างจริงจัง!
The Catalyst – อัลบั้ม A Thousand Suns (2010)
นี่คือเพลงที่ทาง LINKIN PARK สื่อถึงความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า โดยจะมีข้อความที่สำคัญปนอยู่ในเนื้อเพลงมากมาย เช่น พระเจ้าให้พรเราทุกคน พระเจ้าโปรดอำนวยพรเรา พร้อมด้วยปัญหาต่าง ๆ ที่ยากจะต่อกรในโลกที่มีความวุ่นวาย ทำให้ใครหลายคนเลือกที่จะพึ่งพาพระเจ้าให้ช่วยพวกเขาไว้
The Catalyst ถูกใช้ในเกม Medal of Honor รวมถึงเป็นเพลงเปิดของเกมอาร์เคด Mobile Suit Gundam: Extreme Vs. และเป็น DLC ของเกม Guitar Hero: Warriors of Rock อีกด้วย!
ทั้งหมดนี้ ก็คือผลงานเพลงดังบางส่วน ที่ทาง เชสเตอร์ เบนนิงตัน ได้สร้างทิ้งไว้ให้กับวง LINKIN PARK และชาวเกมเมอร์ทั่วโลกก็ต่างมีโอกาสได้สัมผัสกับเกมเหล่านี้ผ่านโลกความบันเทิง แม้ว่าในปัจจุบัน เบนนิงตันจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว แต่ผลงานทั้งหมดของเขา จะกลายเป็นตำนานที่ประจักษ์ทั้งในแวดวงดนตรี และเกมอย่างแน่นอน!
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก: LINKIN PARK
——————————————–
THE GAMER LIFE Exclusive Content
คอลัมน์โดย: ภาริช ต่อพิมาย (FLINT K.)
ติดตามเรื่องราวเจาะลึกชีวิต ไลฟ์สไตล์ คัลเจอร์ในโลกของเกมได้ที่: THE GAMER LIFE by FLINT K.
