หน้าฝนปีนี้ในไทยเป็นอีกปีที่ “เกษตรกรทุกข์กันมาก!!” โดยมีทั้ง ภัยพายุฝน มีทั้ง ภัยน้ำท่วม ทำให้พืชผลเสียหาย และก็ยังมี “ภัยโจรพืชผล“ ยังมีโจร “ปล้น–ขโมย“พืชผลทางการเกษตรอีกต่างหาก!!… อย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มีเหตุการณ์ “โจรกล้วย“ออกอาละวาดในหลาย ๆ พื้นที่ ขณะที่ในพื้นที่ภาคใต้นั้นก็มี “โจรปาล์มน้ำมัน–โจรยาง–โจรทุเรียน“ ซึ่งเกษตรกรเรียกขานมิจฉาชีพกลุ่มนี้ด้วยการเปรียบเทียบเป็น “เพลี้ยกระสอบ” มีการนำคำ ๆ นี้มาใช้เรียกพฤติกรรมร้ายของมิจฉาชีพกลุ่มนี้…
“โจรพืชผล“ นี่มิใช่ปรากฏการณ์ใหม่
มิจฉาชีพแบบนี้มีในไทยมานานแล้ว
และหลัง ๆ “อาละวาด-ระบาด“ อีก!!
ทั้งนี้ กับปรากฏการณ์ร้าย ๆ ต่อสุจริตชนคนทำอาชีพเกษตร อย่างกรณี “ปล้นพืชผล–ขโมยพืชผล“ ที่เกิดอย่างต่อเนื่องนั้น ย้อนไปในช่วงปี 2562 เหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ก็เป็นเรื่องที่ “สร้างน้ำตาให้เกษตรกร“ จำนวนไม่น้อย โดย “ชนิดพืชผล” ที่เคยเป็น “เป้าโจร” จนเป็น “ชื่อเรียกโจร” ช่วงนั้นก็มี… “โจรมังคุด“ ที่อาละวาดที่ จ.นครศรีธรรมราช หลังมังคุดมีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น หรืออีกเหตุการณ์ก็เป็น “โจรทุเรียนหมอนทอง“ที่ออกอาละวาดในพื้นที่ จ.จันทบุรี แหล่งปลูกสำคัญของผลไม้ชนิดนี้ ที่พบการลักลอบเข้าตัดทุเรียนในสวนของชาวสวนทุเรียน คิดรวม ๆ แล้วมีน้ำหนักเป็นร้อย ๆ กิโลกรัม!!
นอกจาก “ทุเรียน-มังคุด” ที่ตกเป็นเป้าแล้ว ช่วงกลางปี 2562 ก็เกิดเหตุ ’โจรข้าวเปลือก“ ออกอาละวาด สร้างความเสียหายไม่แพ้มังคุดกับทุเรียน ซึ่งกรณีพืชผลการเกษตรอย่าง “ข้าว” นั้น ที่ผ่านมาก็มีข่าวถูกปล้น-ถูกขโมยเกิดขึ้นเกือบทุกปี
ขณะที่พืชผลอื่น ๆ ที่ก็ไม่รอดเงื้อมมือ “เพลี้ยกระสอบ” หรือ โจรที่มีพฤติกรรมปล้น–ขโมยพืชผล ก็ยังมี… ’โจรอะโวคาโด“ออกอาละวาดที่ จ.ตาก มี ’โจรมะพร้าวอ่อน“ ที่เข้าไปขโมยมะพร้าวไปจากร้านขายผลไม้แห่งหนึ่งเป็นร้อยลูก ที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ รวมถึงมี ’โจรกะหล่ำปลี“ ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งกรณีหลังนี้คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า 500,000 บาท
อีกทั้งยังมีโจรปล้น-โจรขโมยพืชผลอื่น ๆ มีทั้ง… “โจรพริก–โจรมะละกอ“อย่างไรก็ตามที่ในระยะหลัง ๆ มานี้ดูจะมาแรงแซงพืชผลอย่างอื่น จะเป็นกลุ่ม “โจรผลไม้” ชนิดต่าง ๆ ซึ่งจากการที่ “ภัยโจรพืชผล” มีมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้…
ตอกย้ำว่า “ภัยโจรกลุ่มนี้ก็ฝังรากลึก“
เมื่อ “สบช่อง…ก็จะโผล่มาอาละวาด!!“
และกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ที่เกิดอย่างต่อเนื่องอีกครั้งในปีนี้ ในปี 2567 ก็ทำให้เกิด “ปุจฉา” อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คำถามคาใจเกี่ยวกับโจรภัยกลุ่มนี้ จริง ๆ ทาง รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐกิจและการเมือง ก็ได้เคยวิเคราะห์และสะท้อนกับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้ถึง “ปรากฏการณ์โจร“ แบบนี้ ซึ่งก็ยังเป็น “วิสัชนา” ที่น่าพิจารณา…
รศ.ดร.สมชาย นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐกิจและการเมือง ได้ระบุไว้ว่า… ถึงแม้พืชผลบางชนิดราคาจะตกต่ำ แต่ก็มีอีกหลาย ๆ ชนิดที่ขายได้ราคาดี มีราคาขายสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พืชผักผลไม้บางชนิดตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มมิจฉาชีพและที่สำคัญ… จาก “ปรากฏการณ์โจรพืชผล” ที่เกิดขึ้นนี้ก็ยิ่งตอกย้ำชัดเจนว่า “ภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยยังย่ำแย่!!“ซึ่งภาวะนี้ “นำสู่วงจรลักขโมย–ปล้นชิง“ โดย ปัญหาเกี่ยวกับการลักขโมย ปล้นชิง มักจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกครั้งในยามที่ภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง …นี่เป็นการระบุไว้ถึง “ปัจจัย” ถึงสิ่งที่อาจเป็น “สาเหตุของปรากฏการณ์โจร” นี้
นอกจากนี้ กับการที่มี “ภัยโจรพืชผล“ มากนั้น เรื่องนี้ทาง รศ.ดร.สมชาย ยังได้ระบุไว้อีกว่า… ส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากการที่ไทยมีสัดส่วนของคนที่อยู่ในภาคเกษตรเยอะถึง 40% มีผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก และอีกปัจจัยผนวกกันก็คือ… อาจเพราะพืชผลที่มีการลักขโมยไปนั้นสามารถนำไปขายได้อย่างแน่นอน แถมยังขโมยได้ง่ายอีกด้วย ก็เลยทำให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดได้บ่อย ซึ่งที่สำคัญคือ… ถ้าหากภาวะเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้น ก็เป็นไปได้มาก ๆ ว่า…
อาจยิ่งเจอปรากฏการณ์โจรนี้มากขึ้น
คืออาจเหมือนปี 2562 ที่เจอกันเกลื่อน!!
อย่างไรก็ดี ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจยังคาดหวังยาก ก็ยังดีที่หลาย ๆ พื้นที่ทางตำรวจแข็งขันกับการสู้โจรกลุ่มนี้ เช่นที่จ.สตูลซึ่งมี“โจรทุเรียน“ จนชาวสวนทุเรียนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ต้องออกมาเฝ้าดูแลทุเรียน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ควนโดน ก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับชาวบ้าน ด้วยการจัดตั้งชุด “สายตรวจผลไม้” ลาดตระเวนตามสวนทุเรียน เพื่อเฝ้าระวังโจรย่องขโมยในช่วงฤดูผลไม้ ซึ่งกรณีนี้ก็ต้องชมเชย ต้องปรบมือให้ ที่เจ้าหน้าที่ออกมาช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวสวน
และ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็ขอสะท้อนไว้ด้วยว่า… ในทางกฎหมาย “ข้อหาลักทรัพย์พืชผลกสิกรรม” ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (12) มีว่า… ผู้ใดลักทรัพย์ ที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรม บรรดาที่เป็นผลิตภัณฑ์ พืชพันธุ์ สัตว์หรือเครื่องมืออันมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรมหรือได้มาจากการกสิกรรมจะมี โทษจำคุก 5 ปี และปรับสูงสุด 100,000 บาทซึ่งเรา ๆ ท่าน ๆ หากมีเบาะแส “โจรพืชผล” ก็โปรดช่วยแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจับกุมดำเนินการเอาผิด
“เกษตรกร” นั้น “ปีนี้ก็ทุกข์กันไม่น้อย”
“โจรพืชผล“ นี่ “ซ้ำเติมทุกข์เกษตรกร“
สมควร “ต้องรับโทษ-ต้องรับกรรม!!“.
