เห็นหน้าตาชัดเจนขึ้นสำหรับคณะรัฐมนตรี ภายใต้การนำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทาง“รายการเดลินิวส์ทอล์ค ที่จัดผ่านช่องทางยูทูปและเฟซบุ๊ก” จึงได้เชิญ “รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบายมาวิเคราะห์เกมการเมือง หลังพรรคเพื่อไทยเขี่ยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทีมี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและส่งเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมแทน สถานการณ์การเมืองหลังจากนี้จะมีความร้อนแรงไปอย่างไร
โดย “รศ.ดร.ธนพร” เปิดประเด็นว่า การเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการเติมทรัพยากรที่หายไป เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน กับ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เป็น 2 คนที่แบกภาระการเลือกตั้งปี 2566 ด้วยทรัพยากรที่มี การเข้าไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาลชั่วโมงนี้จึงต้องการเอาทรัพยากรเข้ามาเติม ไว้สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าใครรับไม่ได้ก็ลาออกไป กระทั่งผู้ใหญ่ในพรรค อย่าง นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หรือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เองยังไม่กล้าขัดมติพรรค ไม่เช่นนั้นคงถูกขับขับออกจากพรรคแล้วจะหาพรรคใหม่อยู่ยาก ซึ่งคิดว่าทั้ง 3 คนรู้ดี และจะไม่ฝืน จะอยู่ไปเป็นก้อนกรวดในรองเท้า เหมือน “ร.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ที่ปราบปรามคนทั้งประเทศ ตัวเองถูกจับขังเป็นเสือในกรง อยู่ในพรรค
@ เท่ากับว่าความแค้น 23 ปีระหว่าง2 พรรคก็จบแล้วใช่หรือไม่
มันจบแล้ว เพราะ “นายเดชอิศม์และนายเฉลิมชัย” บอกว่าช่วงที่ทะเลาะกับพรรคไทยรักไทย หรือกับนายใหญ่ เขาทั้ง 2 ไม่ได้มีส่วนร่วม แต่เป็นเรื่องของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อาจจะรวมนายชวน นายบัญญัติ และอีกหลายคน ฉะนั้นถ้าใครไม่สบายใจที่จะร่วมก็ขอให้ลาออกไป ไม่ต้องแซะว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะเหลือสส.ต่ำ 10 เพราะเขาไม่เชื่อ
“วันนี้แฟนคลับภาคใต้เปลี่ยนแปลง การเลือกตั้งที่ผ่านมา ปาร์ตี้ลิสต์ทุกจังหวัดพรรคส้มมาอันดับ 1 ส่วนระบบเขตวันนี้ภูมิใจไทยมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ รวมไทยสร้างชาติ กับพลังประชารัฐก็จัดเต็ม ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ไม่เข้าร่วมรัฐบาล ไปแบ่งปันอำนาจกับเขาแล้ว เลือกตั้งระบบเขตครั้งหน้าสูญพันธุ์จริงๆ แน่”
ดังนั้นเรื่องพรรคประชาธิปัตย์คิดว่าจบแล้ว และฝากถึงพี่น้องที่ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าพรรคประชาธิปัตย์จัดเต็มทั้งสองเก้าอี้แน่นอน และจะมีคนเข้ามาช่วยทำงานมากขึ้น ทั้งดร.เอ้ มือแก้ PM 2.5 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ซึ่งงานสิ่งแวดล้อมเป็นงานเชิงบวกใครๆก็อยากไปช่วยและในสภาวะที่พรรคประชาธิปัตย์ กำลังโหยหาอำนาจ ดังนั้นอย่าคิดซ่อนอะไรไว้ อย่าติดเขี้ยว เพราะความสามารถพิเศษของพรรคประชาธิปัตย์คืออย่าให้คุ้ยเจอเอง บอกไว้เลยของแทร่
@ งานนี้ถือได้ว่าพล.อ.ประวิตร หมดพิษสง เขี้ยวเล็บแล้วหรือยัง
ต้องมองเกมการเมืองรอบนี้เป็น 2 ระดับ ซึ่งมันจะใช้คำว่า “แพ้ศึก แต่ชนะสงคราม“ ดังนั้นกรณีอดีตพันตำรวจโท, ร้อยเอก และอดีตผบ.ทบ เกมนี้เป็นหนังชีวิต แน่นอนว่าการจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้พลเอกแพ้ราบคาบ ตั้งแต่ออกแถลงการณ์ และทวงแบบฟอร์มกรอกประวัติแล้ว บ้านป่าถูกจุดไฟเผาเรียบ แต่ตามธรรมชาติ พอถึงหน้าฝนใบไม้ก็จะแตกยอดออกมา ดังนั้นนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จากคำสัมภาษณ์แกนนำ พรรคพลังประชารัฐ ไม่มีใครบอกว่ายอมจำนน หรือยอมแพ้แล้ว และยังมีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่บอกจะร้องเรียนทุกสัปดาห์ ซึ่งเมื่อย้อนดูที่ผ่านมานักการเมืองสยบยอมหมดในช่วงคสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ เพราะ “องค์กรอิสระ” คือ ไพ่ในมือ อย่างตัวเลข 5 ต่อ 4 ที่นายเศรษฐาโดนสอย มีลักษณะคล้ายปฏิบัติการ Mission Impossible ตอนนายใหญ่ เป็นนายกฯ ถูกร้องซุกหุ้น และด้วยปฏิบัติการนี้นายใหญ่ชนะไป 8 ต่อ 7
ดังนั้นปฏิบัติการนี้ นายใหญ่ กับนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร รู้ดีถึงแก้เกมกันเหงื่อแตก และเป็นครั้งแรกของการเมืองไทยที่ออกเป็นมติพรรค มติสส.ไม่เอาพปชร.เป็นพรรคร่วม เป็นเพราะ “พล.อ.ประวิตร” ประชุม ออกเป็นมติพรรค และมีจดหมายฉบับสุดท้ายถึงพรรคเพื่อไทย เพื่อสร้างหลักฐานเล่นต่อช็อตที่ 2 คือร้องเรียนจริยธรรมนายกฯ ว่าจัดตั้งรัฐบาลตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ และรอดูว่าพรรคเพื่อไทยจะพลาดหรือไม่ เพราะรู้ว่าทีเด็ด “ลุงป้อม”คือ “องค์กรอิสระ”
อย่างไรก็ตาม สมรภูมิที่นายกฯ แพทองธาร จะต้องเจอไม่ใช่เกมในสภา แต่คือ กลไกการตรวจสอบจากองค์กรอิสระ โดยเฉพาะ ป.ป.ช., ศาลรัฐธรรมนูญ, และกกต. ซึ่งอิทธิพลของพล.อ.ประวิตร ยังอยู่อย่างน้อยอีก 2 ปี กว่าองค์กรอิสระจะหมดอายุ ประกอบกับนักร้องที่จ่อร้องทุกสัปดาห์ จะทำให้นายกฯ หลอน ขยับอะไรก็พร้อมถูกร้องเรียน
“นี่คือฤทธิ์เดช ทีเด็ดของลุงป้อม ทหารแก่ไม่เคยตาย แม้เกมตั้งครม. ลุงป้อมแพ้ยับเยินเสียไพร่พล รถถัง ปืนใหญ่ไปเยอะ แต่ไม่ได้แปลว่าแพ้สงคราม เพราะยังมีกระสุนอีกเยอะที่ตีโต้ได้ ตราบใดที่ลุงป้อมไม่หมดลมหายใจ สตอรี่ระหว่างลุงป้อมกับนายใหญ่ ที่นายใหญ่ไปเปิดวิสัยทัศน์บนเวทีนั้นแค่น้ำจิ้ม แต่เขามีเรื่องราวความหลังกันอีกเยอะ”
@ เป็นไปได้หรือไม่ที่นายใหญ่จะไล่ทุบพล.อ.ประวิตรต่อ
จะทุบก็ทุบไป ในทางการเมืองการถีบไปเป็นฝ่ายค้าน คือแรงสุด คือ “ลุงป้อม” หมดสภาพในศึกจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่ได้แปลว่าแพ้สงคราม ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ “ลุงป้อม” เปิดได้อีกหลายสิบเกม ที่ถนัดสุด คือ เกมองค์กรอิสระ ซึ่งพรรคเพื่อไทยตั้งแต่นายใหญ่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นางสาวยิ่งลักษณ์ และนายเศรษฐา 4 คนนี้มีอันเป็นไป ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับองค์กรอิสระไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
@ คิดว่าจะมีสส.ตามไปเป็นฝ่ายค้านกับลุงป้อมกี่คน
อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง ลุงป้อมมีกระสุนเหลือเต็มคลัง และไม่ต้องห่วงเรื่องกล้วย เพราะถ้ามีปัญหาก็คงรักษาสถานภาพสส.ครึ่งหนึ่งไว้ไม่ได้ ดังนั้นสงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร แล้วนักรบพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ทหารราบอย่างลุงป้อม รบมาแล้วชนิดดาบปลายปืน ลุงป้อมไม่มีถอย ตราบใดที่ยังมีลมหายใจสู้ทุกเม็ด
