“อย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโชคร้ายที่สุด และอย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโชคดีที่สุด”

คิดว่าสัปดาห์นี้จะไม่มีข่าวคราวของของวงการตำรวจที่น่าสนใจอะไรแล้ว ที่ไหนได้มันดันมีคดีฉาวโฉ่เกิดขึ้นจนได้ แถมครั้งนี้ยังเป้นเรื่องหญิงสาวขายบริการร้องเรียนถึงกลุ่มตำรวจที่มารังแกเอารัดเอาเปรียบเสียอีก

เหตุการณ์งามไส้นี้เกิดขึ้นเมื่อ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา น.ส.เอ อายุ 27 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชาย 4 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังซื้อบริการแล้วไม่จ่ายเงิน แถมยังถูกข่มขู่รีดทรัพย์อีก

เรื่องนี้คือ น.ส.เอ ได้รับการติดต่อจากชายคนหนึ่งให้มาเอ็นเตอร์เทนและไปร่วมหลับนอนด้วยกัน นัดหมายเจอกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ฝ่ายชายจ่ายเงินให้กับน้องผู้หญิง 1,500 บาท จากนั้นมีเพศสัมพันธ์กันจนเสร็จ ฝ่ายชายได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเงินคืน

ทำให้ น.ส.เอ รู้สึกแปลกใจทำไมถึงขอเงินคืน เพราะมีเพศสัมพันธ์กันแล้วตามที่ตกลงราคากัน โดยฝ่ายชายอ้างว่าอวัยวะเพศไม่แข็งตัวทำให้ไม่เสร็จ จากนั้น น.ส.เอ ไม่ยอมคืนเงิน ฝ่ายชายจึงอ้างว่า จะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาค้าประเวณี

จากนั้นชายคนดังกล่าวได้โทรฯ หาเพื่อนที่อยู่ห้องข้างๆ ซึ่งพาหญิงสาวอีกคนมาเหมือนกัน จากนั้นพาตัว น.ส.เอ ไปที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีชายอีก 3 คนอยู่ในห้อง ด้วยความกลัวจึงยอมคืนเงินให้ 1,500 บาท แต่ชายที่อ้างเป็นตำรวจไม่ยอม บอกว่าจะดำเนินคดี ถ้าไม่อยากให้ดำเนินคดีก็เอาเงินมา 20,000 บาท เพราะจะต้องจ่ายให้นายด้วย

ปรากฎว่า น.ส.เอ ไม่มีเงินมากถึง 20,000 บาท เนื่องจากที่มาทำงานแบบนี้เพราะต้องหาเงินไปเลี้ยงลูกและดูแลครอบครัว และงานพิเศษนี้ครอบครัวก็ไม่รู้เรื่องด้วย พร้อมกับบอกว่าให้ส่งดำเนินคดีได้เลยเพราะข้อหาค้าประเวณีมันเป็นโทษแค่ปรับ ทำให้ ชายคนดังกล่าวโมโหจึงพูดว่า ถ้ารู้มากนักก็ให้โทรฯตามญาติมาและข่มขู่ให้โทรฯตามญาติมาให้ได้

น.ส.เอ เกิดความกลัวเพราะไม่อยากให้ญาติรู้ว่าทำงานแบบนี้จึงมีการต่อรองกันจาก 20,000 บาท เหลือ 5,000 บาท จ่ายเป็นเงินสด 4,000 บาท และโอนเงินเข้าบัญชีอีก 1,000 บาท หลังจ่ายเงินยังมีการข่มขู่ น.ส.เอ ว่า ต้องมีการจ่ายเป็นรายเดือนด้วย รวมทั้งยังมีความพยายามจะเอาตัว น.ส.เอ ไปให้ชายคนอื่นร่วมหลับนอนด้วย แต่สุดท้าย น.ส.เอ ไม่ยอมไป หลังจากนั้นมีการข่มขู่หลายครั้งจน น.ส.เอ มีความกลัว จึงต้องมาร้องเรียนกับทางเพจดังกล่าว

พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา บอกว่า จากคำบอกเล่าของผู้เสียหาย สิ่งที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะต้องดำเนินคดีในเรื่องของคดีค้าประเวณี ซึ่งเป็นฐานความผิดเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ต้องมีเจ้าหน้าที่ พม.พระนครศรีอยุธยา มาร่วมในการสอบสวนด้วย

และในส่วนที่ 2 จะต้องสอบสวนสืบสวนกลุ่มบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องสืบทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ หากเป็นตำรวจจริงถือเป็นการกระทำความผิดส่วนตัวหรือใช้อำนาจหน้าที่ในการกระทำความผิด จะมีข้อหาที่แตกต่างกันตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ซึ่งสถานที่พา น.ส.เอ ไปจะมีหลักฐานปรากฏ รวมถึงเรื่องของการจ่ายเงินที่มีการโอนเงินด้วย

จากนั้นได้มีการพา น.ส.เอ ไปชี้จุดที่ห้องพักของโรงแรมใน ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งนำชี้จุดต่างๆได้อย่างแม่นยำ เจ้าหน้าที่มีการเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมไปด้วย จากนั้น น.ส.เอ ได้พาไปชี้จุดที่ถูกควบคุมตัวมาที่อาคารหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ด้านหลังตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และชี้จุดที่มีการนั่งพูดคุยเจราต่อรองเรียกรับเงิน

เอาเป็นว่าเรื่องมันแดงมาขนาดนี้แล้ว หลักฐานทั้งจากกล้องวงจรปิด สลิปการโอนเงินทั้งไปและกลับ มันมีให้เห็นแบบชัดเจนตรวจสอบได้ ที่สำคัญถ้าไม่ใช่ตำรวจจริงแล้วทำไมพาไปที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ คดีนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไร น่าจะคลี่คลายหาความจริงได้ไม่ยาก ยังไงเสียถ้าผลออกมาแบบไหนก็แถลงมาให้ชัดๆ อย่าแค่สอบสวนกันเอง ได้ผลทางคดีแล้วเก็บไว้เอง ชาวบ้านเขาจะหมดศรัทธาหนักลงไปอีก.

ข่าวสารตำรวจ

ร่วมสัมมนา
นายสมเกียรติ ดีบุญมี ณ ชุมแพ นายกเทศมนตรีเมืองชุมแพ ในฐานะประธาน กต.ตร.สภ.ชุมแพ พร้อมด้วยนายสุวัฒน์ ประจงการร กต.ตร.สภ.ชุมแพ นายอดิศร กาญจนหฤทัย กต.ตร.สภ.ชุมแพ นายสมพงค์ เกียรติพนมแพ กต.ตร.สภ.ชุมแพ เข้าร่วมกิจกรรมการสัมมนาวิชาการ บทบาท กต.ตร. (ภาคประชาชน) กับการมีส่วนร่วมในการบริหารงานตำรวจ ก่อนเข้ารับใบประกาศนียบัตร เชิดชูเกียรติ ยกย่องการทำงาน ณ ห้องแกรนด์พาวิลเลี่ยน โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ให้ความรู้กฎจราจร
พ.ต.ท.สมเดช เกตุวัตถา สว. สอบสวน(หัวหน้างานคดี) ทำหน้าที่ควบคุมงานจราจร สภ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ส.ต.ต.ภูวเดช พุทธรักษา และ ส.ต.ต.โกเมนทร์ วะสุรีย์ ร่วมเป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้กับนักเรียน เรื่องกฎหมายจราจรและฝึกปฏิบัติการข้ามถนน เพื่อให้นัก เรียนได้เรียนรู้กฏหมายจราจรและสร้างความปลอดภัยแก่นักเรียนในการใช้รถใช้ถนน ที่โรงเรียนบ้านทับร้าง สพป.ชลบุรี เขต 2 ม.5 ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง โดยมี ดร.สายใหม ภารประดับ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วย คณะครู นักเรียน เข้าร่วมโครงการ และมอบกระเช้าขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาอบรมให้ความรู้ด้วย

*********************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป