วันก่อน! นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดเกี่ยวกับ “ดิจิทัล วอลเล็ต” เป็นฉาก ๆ ว่านายกฯกับฝ่ายงบประมาณกำลังดูอยู่ การกระตุ้นเศรษฐกิจต้องทำแน่นอน อย่างเร็วด้วย ช้าไม่ได้ เศรษฐกิจไหลลง ถ้าลึกเท่าไหร่ก็เอาขึ้นมายาก หลังจากทำงานได้คงสั่งการเลย

คำว่า “ดิจิทัล วอลเล็ต” มี 3 เรื่อง คือ 1.กระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นหัวใจสำคัญและต้องทำ 2.ให้ประชาชนเรียนรู้เทคโนโลยี ก็ต้องทำต่อไป แต่ความเร่งด่วนอาจรอได้ 3.อนาคตดิจิทัลวอลเล็ตเมื่อวางไว้ จะใช้ประโยชน์ เป็นทางเชื่อมประชาชนกับรัฐบาล เป็นหน้าต่างให้ประชาชนทำธุรกิจ เป็นเรื่องเทคนิคที่ต้องทำ

แต่ 2-3 รอได้ อันที่ 1 รอไม่ได้ รูปแบบอาจจะอิงเทคโนโลยีหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องถูกกฎหมาย และไม่ขัดแย้งกับผู้ที่เห็นต่างมากเกินไป โดยข้อดีของการแจกเงินสดคือมันเร็ว แต่ข้อเสียคือกลัวใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ นี่คือคำแนะนำ แต่การตัดสินใจเป็นของนายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.)

นายทักษิณแนะนำอย่างทะลุปรุโปร่งขนาดนี้ ถ้านายกฯแพทองธาร ชินวัตร และ ครม.ไม่ทำตาม! ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว! เนื่องจากคนไทยหลายสิบล้านคนกำลังลุ้นว่า “ดิจิทัล วอลเล็ต” คนละ 1 หมื่นบาท รัฐบาลจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เมื่อไหร่ หรือว่าจะล้มเลิกโครงการ

ไม่ใช่แค่ “ดิจิทัล วอลเล็ต” แต่ช่วงเย็นวันที่ 22 ส.ค.67 นายทักษิณยังไปโชว์วิชั่น (Vision for Thailand 2024) ที่สยามพารากอน

พยัคฆ์น้อย” เชื่อว่าวิชั่นของนายทักษิณวันที่ 22 .. จะเป็นแนวนโยบายการทำงานที่สำคัญของรัฐบาลที่จะนำไปแถลงต่อรัฐสภา นอกเหนือการทำงานสานต่อจากรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่ยังทำไม่เสร็จ

ทักษิณคิด! รัฐบาลเอาไปทำ! มันจะแปลกอะไรตรงไหน? ที่อดีตนายกฯซึ่งมีประสบการณ์ทางธุรกิจ มีประสบการณ์บริหารประเทศมาหลายปี จะให้คำแนะนำ คอยให้คำปรึกษากับลูกสาวที่กำลังเป็นนายกฯ

ไม่เชื่อลองไปถามผู้บริหารบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ และผู้นำประเทศต่าง ๆ ว่าถ้ามี “ที่ปรึกษา” เก่ง ๆ แถมมีเครดิต มีเครือข่าย และมีประสบการณ์ชีวิตมากมาย คุณชอบหรือเปล่าล่ะ?

วันนี้โจทย์ใหญ่ของรัฐบาล คือ ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ทั้งภาระหนี้สิน ดอกเบี้ยแพง กำลังซื้อฝืด! การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังต่ำกว่าศักยภาพของประเทศ สินค้าราคาถูกจากต่างประเทศทะลักเข้ามาตีตลาด ทำให้ “เอสเอ็มอี” อยู่ลำบาก! และทุนนอกเข้ามาทำธุรกิจ-ค้าขายแข่งขันกับคนไทย

ดังนั้นช่วงเวลาของรัฐบาลที่เหลืออยู่ไม่ถึง 3 ปี ถ้าหาก “ทักษิณแพทองธาร” ไม่ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา! การเลือกตั้งเที่ยวหน้า พรรคเพื่อไทยคง “เก็บฉาก” กลับบ้าน!

“คำแนะนำ” หรือการให้คำปรึกษา มันเป็นคนละบริบทกับการ “ครอบงำ” ที่มีหมายความว่ามีอํานาจเหนือ บังคับให้เป็นไปตาม เช่น กิเลสครอบงํา กิเลสคือ เครื่องทำใจให้เศร้าหมอง คือ โลภ โกรธ หลง

สังคมไทยติดกับดักความขัดแย้ง! จมปลักอยู่กับการถูก “อคติความเกลียดชัง” ครอบงำมาเกือบ 20 ปีแล้ว ประเทศจึงไม่เดินหน้าไปไหนเสียที!!.