ปิดเกมเร็วโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ได้ “แพทองธาร ชินวัตร” นั่งบัลลังก์ทำเนียบตึกไทยคู่ฟ้า เป็นนายกฯ คนที่ 4 จากตระกูลชินวัตรภายในเวลาไม่กี่วัน ก็มาเจอกับความปั่นป่วนในการตั้ง คณะรัฐมนตรี ( ครม.) โดยเฉพาะประเด็นคุณสมบัติรัฐมนตรีตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีถอดถอนนายเศรษฐาทวีสินออกจากนายนายกรัฐมนตรีในประเด็นเรื่องจริยธรรมหลอกหลอน “คอลัมน์ตรวจการบ้าน” จึงต้องมาสนทนากับ “จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่จะมาชำแหละด่านหินที่นายกฯคนใหม่ต้องเผชิญนับจากวันนี้

โดย “จตุพร” เปิดประเด็นว่า มองว่าพอรัฐบาลของ “แพทองธาร” แถลงนโยบายเสร็จก็จะมี ขบวนการร้องศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับประเด็น เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมาตรฐานทางจริยธรรม เช่นเดียวกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เช่น กรณีข้อสอบรั่วที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ กรณีขายบ้านให้ทุนจีนสีเทา เป็นต้น และมีอีกหลากหลายเรื่องราวจะถาโถม เพราะรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 160 (4) (5) ที่ใช้ในการจัดการนายเศรษฐา น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า และน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.พรรคพลังประรัฐ มาแล้ว

ทั้งที่เรื่องของน.ส.พรรณิการ์ เกิดขึ้นในวันจบปริญญา และ น.ส.ปารีณา ในเรื่องการรับมรดกจากพ่อ เกิดขึ้นก่อนจะมาเป็นนักการเมือง ซึ่งเรื่องนี้อธิบายได้ว่าเรื่องจริยธรรมไม่มีระยะเวลา คือตั้งแต่แรกเกิดเป็นทารก ดังนั้นไม่ว่าเรื่องเกิด พ.ศ.ไหน คือคุณช่อก็วันจับการศึกษา ส่วนนายกฯ อิ๊งค์ก็วันเข้ามหาวิทยาลัย เห็นหรือไม่ว่าแต่ละเรื่องที่จะต้องเข้าไปในแดนข้อกฎหมาย เป็นเรื่องยากลำบากมาก และมีบรรทัดฐานอยู่ ถ้าเราเทียบเคียงว่าใช้ระยะเวลาเท่าไร นั่นก็เป็นคำตอบว่าคุณอิ๊งค์จะได้อยู่นานเท่าไร ถ้าเราเทียบเคียงว่าหากจัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว ก็ประมาณเดือน ม.ค. แต่หากตั้ง ครม.ได้ช้าก็อาจจะเป็นเดือน ก.พ. เผื่อเหลือเผื่อขาด ตามการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

@ มองว่า น.ส.แพทองธารจะมีจุดจบเดียวกับนายเศรษฐา หรือไม่

ผมว่าไม่ต่างเพราะเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์นั้น เมื่อรัฐธรรมนูญตรวจตราและเกิดเหตุการณ์แรกแล้ว โอกาสรอดยากมาก และเอกสารที่เผยแพร่ในเวลานี้ มันอธิบายเป็นอื่นได้ยากลำบากมาก เพียงแต่ว่าทั้งหมด คือกลเกมที่ต้องการจะลากเข้ามาสู่กระดานของการเป็นนายกฯ คือการเลือกนายกฯ เป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยความล่าช้า เพราะมีปัญหาพรรคหลักอย่างพรรคเพื่อไทยก็ให้แต่ละพรรคได้คัดกรองบรรดารัฐมนตรี แล้วก็มีการตั้งแง่ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเขายืนแข็ง ก็ไม่มีปัญหาอะไร พรรคพลังประชารัฐก็แตกดังโพล๊ะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่ารัฐบาลเขาไม่เอา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

ส่วน “ผู้กองนัส” วันนี้ก็ประกาศอิสรภาพ และไม่เอาพล.อ.ประวิตรเหมือนกัน ก็แหย่จนกระทั่งว่าพรรคพลังประชารัฐแตก ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ คุณเอกณัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติก็ถูกตั้งแง่เหมือนกันว่าเป็นอดีตโฆษก กปปส. เป็นบุตรบุญธรรมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นี่ก็เป็นปัญหาหนึ่ง

ดังนั้นพลังประชารัฐแตกไปแล้ว รวมไทยสร้างชาติก็จะมีปัญหากับพรรคแกนนำรัฐบาล วันนี้พอพรรคแตกเพราะซีกพล.อ.ประวิตรเขาเห็นว่ามันเกิดจากการลวงหลอก หรือว่าล่อลวง ให้เกิดสภาพพรรคเป็นอย่างนี้ ผมว่าปัญหาก็ประเดประดังขึ้นไปอีกอย่างมาก จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า แม้กระทั่งในพรรคเพื่อไทยเองก็มีปัญหา เพียงแต่ว่าจะพูดกันหรือไม่ ทุกอย่างจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก “วิบากกรรม” มันเป็นของร้อน เป็นลาภที่ไม่ควรได้กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

และตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ระริกระรี้ ซึ่งคนที่ไม่ชอบ ที่เขาเคยโค่นระบอบทักษิณ เขาก็เริ่มมีอาการ และคนที่เขาเคยสนับสนุนนายกฯ ทักษิณ จำนวนมากแล้วเขาทนกับการตระบัดสัตย์ไม่ได้ ก็เริ่มแสดงความไม่พอใจ ทั้งหมดนั้นก็จะขยับมาบรรจบกัน ถ้าเรื่องของ “แพทองธาร “ขยับ เรื่องของ นายทักษิณ โดยเฉพาะเรื่องชั้น 14 ป.ป.ช. เริ่มเรียกภาพกล้องวงจรปิด ทั้งที่เราได้ยินว่ากล้องวงจรปิดเสีย เริ่มเรียกภาพจากกรมราชทัณฑ์ที่ถ่าย ประมาณ 2,000 กว่ารูปทุก 2 ชั่วโมง ในระยะเวลา 180 วัน คือ ทุกกลเกมมันเริ่มขยับ

ดังนั้นเป้าก็พุ่งทั้งตัวนายกฯ ทักษิณเองและตัวคุณอิ๊งค์ ทีนี้พอมาเข้มงวดกับบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล มันเกิดรอยปริ ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลมีรอยปริ เพราะฉะนั้นสภาพการณ์แบบนี้อยู่ได้ไม่นานอยู่แล้ว

@ การที่แพทองธาร ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้แทนที่จะเป็นการนับหนึ่งเดินหน้ารัฐบาล จะกลายเป็นการนับถอยหลังหรือไม่

ดูปรากฏการณ์ว่ามันเกิดความผิดปกติตั้งแต่การตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา รู้ทั้งรู้ว่านายเศรษฐาไม่ได้เป็นคนตัดสินใจเอง แต่ต้องเป็นคนรับผิดชอบ และการเรียกพรรคร่วมรัฐบาลเข้าบ้านหลังจาการวินิจฉัยนายเศรษฐา มันก็ผิดอยู่แล้วว่าเป็นบุคคลภายนอกถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต แล้วก็เอาชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีขึ้นมาให้ถูกกระทืบเล่น จนนำพาไปสู่คุณอิ๊งค์ ประสบความสำเร็จได้เป็นนายกฯ ทุกอย่างเรียงตามขั้นตอนมาตลอด

ดังนั้นเราได้ยินกันมาตั้งแต่ต้นว่าการให้กลับมาประเทศไทยของนายกฯ ทักษิณ ข้อหนึ่งในนั้นคือต้องการให้คุณอิ๊งค์มาเป็นนายกฯ ด้วย เพราะกระบวนการคิดเขาต้องการจะจบเกมกับตระกูลชิน ในช่วง 30 กว่าปีนี้ มันจะได้จบสิ้น แต่การจบสิ้นต้องเอาไพ่ใบสุดท้ายกลับมาอยู่ในเขตของคิลลิ่งโซน เขตของการจัดการ ถามว่าฝั่ง “ทักษิณ” คิดหรือไม่ ก็คิด ไม่อย่างนั้นคุณเศรษฐา ไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ว่าพอครั้งนี้ก็คิดว่าไฟเขียวคงจะโร่อีก จึงตัดสินใจกันพันธุ์อย่างนี้ ก็ดูกันไม่นาน ผมว่าหลังการแถลงนโยบายคงเห็นชัดขึ้น แต่ที่เห็นเวลานี้ชัดเจนก็คือพรรคการเมืองแตกแยกกันอย่างย่อยยับ

@แพทองธารเป็นไพ่ใบสุดท้ายของนายทักษิณหรือไม่ หรือยังมีไพ่เหลืออีก

ถ้าคุณอิ๊งค์ไม่รอดอีกราย แล้วยังมาคิดจะเข้าสู่กระดานการเมืองกันอีก ผมว่าคิดผิดเต็มที เพราะฝ่ายอนุรักษ์นิยมเขายังอยู่ครบกันเหมือนเดิม คนที่ไม่พอใจนายกฯ ทักษิณ คนที่ต่อต้านระบอบทักษิณเขาก็ยังไม่ได้ไปไหน เขาก็ยังอยู่ แต่คนที่รัก “ทักษิณ “ต่างหากที่เขาถอดใจ หมดใจกับดังนั้นกลไกต่างๆ ผมเองก็เห็นว่าตระกูลชินวัตร ถ้าคุณอิ๊งค์ยังไม่รอดแล้วยังคิดเอาคนอื่นเข้ามา ปัญหา คือจะเอาใครเข้ามา เพราะสถานการณ์ข้างหน้า ไม่รู้ว่าผลร้ายมันจะลามไปขนาดไหน จะต้องมีใครต้องออกนอกประเทศกันอีกหรือเปล่า ผมไม่เชื่อว่าเขาจะกล้าอยู่เมืองไทย เพื่อการติดคุก

@มองว่าพรรคการเมืองใดจะได้เปรียบหลังจากนี้

เวลานี้พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคเขาก็ต้องนั่งรอจังหวะ ในกระดานทางการเมือง ทุกคนต่างก็นั่งรอ ดูสีหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลที่แถลงร่วมกันที่อาคารชินวัตร 3 ไม่มีใครมีสีหน้าว่าจะมีความสุข ทุกคนก็นั่งรอวันจบสิ้นกันทั้งนั้น ส่วนฝ่ายค้าน มันไม่จำเป็นจะต้องมีเสียงจะมากหรือน้อยไม่สำคัญ ถึงอย่างไรมันก็น้อยกว่ารัฐบาลอยู่แล้ว สำคัญก็คือว่าจะค้านเรื่องอะไรที่มันทรงพลัง สาระสำคัญมันอยู่ตรงนั้นต่างหาก ที่สำคัญพรรคฝ่ายค้านเองโดยเฉพาะพรรคประชาชน 44 สส. ซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญของพรรคฝ่ายค้าน ที่กำลังถูกตรวจสอบเรื่องจริยธรรม โดยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญขึ้นไปคล้อง

ดังนั้นระยะเวลาที่เขายังเหลืออยู่ เขาควรจะสร้างคุณูปการให้กับบ้านเมือง ด้วยการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ไม่มีลักษณะที่นั่งรอ หรือว่าท่วงทำนองที่ไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งเวลานี้บทบาทของเขายังไม่เห็นความเข้มข้น เพราะว่าเขาเองก็เจอมรสุมเรื่องการยุบพรรค ดังนั้นการพลิกฟื้นนอกจากฟื้นจากความตกต่ำของคู่แข่ง ก็ต้องเป็นความหวังของประชาชนด้วย จึงจะเป็นการฟื้นอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งหน้าถึงอย่างไรพรรคประชาชนกระแสย่อมดีกว่าพรรคอื่น และได้มากกว่าพรรคอื่น เพียงแต่ว่าพรรคเพื่อไทยจะรักษาสภาพไหน เพราะกลายเป็นพรรคที่ตกต่ำมากที่สุด

@ฝากอะไรถึงนายทักษิณหรือไม่

บทเรียนมีมากอยู่แล้วว่าทำอะไรได้รับผลอะไร และจบแบบไหน เริ่มแบบไหนจบแบบไหน ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวเอง ว่าทำอะไรได้รับผลลัพธ์อะไร แล้ววันนี้กำลังเดินเข้าสู่อะไร ปลายทางไม่แตกต่างเพียงแต่ว่าครั้งนี้จะหนักไปกว่าทุกครั้ง เดิมพันกันมาถึงขนาดนี้แล้ว คุณอิ๊งค์มีคุณสมบัติข้อไหน ในการเป็นนายกฯ ถ้าไม่ใช่การเป็นลูก “นายทักษิณ”