เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่เคารพ

ผมปัจจุบันอายุ 63 ปี ภรรยา 60 ปี ฝ่ายชายมีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูงแต่ก็ไม่สูงมากต้องทานยาทุกวัน ปกติผมกับภรรยาจะมีเพศสัมพันธ์กัน 7-10 วันต่อครั้ง เราทั้งคู่ยังมีความต้องการทางเพศดีอยู่ โดยเฉพาะภรรยากระตุ้นแค่ 5-10 นาทีเธอก็รู้สึกแล้ว

แต่ปัญหาอยู่ที่ผมเป็นคนเครียดง่าย วันไหนที่เครียดอวัยวะเพศไม่ค่อยแข็งตัวดีพอทั้ง ๆ ที่มีความต้องการทางเพศอยู่ เป็นอย่างนี้มาเกือบปีแล้ว ผมเห็นใจภรรยาเพราะต้องใช้วิธีสัมผัสกระตุ้นให้เธอจนสำเร็จทุกครั้ง ส่วนเธอก็ทำให้ผมจนสำเร็จเหมือนกันโดยไม่ได้สอดใส่ จึงอยากขอเรียนปรึกษาคุณหมอว่าอาการทางเพศที่เป็นอยู่จะสามารถทานยาเฉพาะกิจได้ไหม

ด้วยความนับถือ

ปองพล

ตอบ ปองพล

โครงสร้างของอวัยวะเพศของผู้ชายจะประกอบไปด้วยท่อสามท่อลักษณะเหมือนฟองน้ำเรียกว่าคอร์ปัส คาร์เวอร์โนซัม (corpus carvernosum) ซึ่งสองท่อจะขนานกับท่อปัสสาวะและอยู่ด้านบน ส่วนอีกหนึ่งท่อมีชื่อเรียกว่า คอร์ปัส สปองจิโอซัม (corpus spongiosum) อยู่ด้านล่าง เมื่อได้รับการกระตุ้นทางเพศเลือดจะไหลเข้าท่อฟองน้ำทำให้สามารถขยายได้มากถึง 7-9 เท่า ทำให้อวัยวะเพศใหญ่ขึ้นและแข็งตัวเต็มที่ตราบเท่าที่ยังมีความตื่นเต้นทางเพศอยู่ แต่เมื่อมีการหลั่ง เลือดจะไหลออกจากอวัยวะเพศทำให้เกิดการอ่อนตัว ในกระบวนการแข็งตัวของอวัยวะเพศหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศต้องไม่ตีบ เพราะการที่อวัยวะเพศจะแข็งตัวต้องมีเลือดไปคั่ง หากมีหลอดเลือดแดงแข็ง เลือดก็ไม่สามารถไปเลี้ยงได้อย่างเต็มที่ การแข็งตัวจึงเกิดได้ช้าหรือแข็งไม่เต็มที่

ภาวะที่ทำให้หลอดเลือดแข็งได้แก่ สูบบุหรี่ โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เป็นต้น การมีภาวะความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตูหนึ่งของการที่หลอดเลือดเกิดการแข็งและตีบตันได้ ทำให้เลือดไหลไปสู่องคชาตลดน้อยลง ก่อให้เกิดปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศตามมา รวมทั้งภาวะเครียดกังวลก็มีส่วนทำให้เกิดปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้เช่นเดียวกัน

ปัจจุบันการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วยยาเฉพาะกิจเป็นอีกแนวทางที่แพทย์ใช้รักษาผู้ป่วยอีดี โดยช่วยคงสภาพการขยายตัวของหลอดเลือดในอวัยวะเพศชายโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ให้ขยายตัวอยู่นานเพียงพอสำหรับการร่วมเพศ การใช้ยาเฉพาะกิจเพียงอย่างเดียวในการรักษาอาการอีดีอาจจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรหากมีการใช้ในผู้ป่วยอีดีที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำ หรือมีการกระตุ้นทางเพศไม่เพียงพอ ยาชนิดนี้ก็จะไม่ออกฤทธิ์เปรียบเสมือนการกินเม็ดแป้งที่ไม่มีตัวยาผสมอยู่นั่นเอง และยิ่งน่ากลัวและเป็นอันตรายอย่างมากหากมีการนำไปใช้ในผู้ป่วยอีดีที่มีการใช้ยาขยายหลอดเลือดหัวใจในกลุ่มไนเตรต เช่น ไอซอดิล ไนโตรกลีเซอรีนหรือยาอมใต้ลิ้น ไนโตรเดอร์ม หรือ อิสโม่ เป็นต้น หากผู้ป่วยอีดีที่มีการใช้ยาเหล่านี้แล้วเกิดกินยาเฉพาะกิจร่วมโดยไม่ได้รับการปรึกษาจากแพทย์ก่อนสามารถเกิดอันตรายช็อกถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นก่อนจะใช้ยาเฉพาะกิจต้องได้รับการตรวจร่างกายโดยละเอียดจากแพทย์ แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยให้ว่าผู้ป่วยรายใดต้องทำการรักษาด้วยวิธีไหน เพื่อให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อตัวผู้ป่วยมากที่สุด การใช้ยาโดยปราศจากความรู้หรือใช้ยาโดยประมาทอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ห้ามกินยาเฉพาะกิจตามเพื่อนแนะนำหรือซื้อเอง กินเอง อย่างเด็ดขาด เดี๋ยวมีอันตรายถึงหัวใจหยุดเต้นจะแก้ไขไม่ทัน ปัจจุบันมีการใช้คลื่นความถี่ต่ำยิงไปกระตุ้นกล้ามเนื้อเพศให้เส้นเลือดอวัยวะเพศขยายตัวทั้งเส้นเลือดฝอยและเส้นเลือดหลักคู่กับวิธีขยายกล้ามเนื้อเพศให้แข็งตัวได้ 30 นาทีทุกครั้ง ใช้แทนยาเฉพาะกิจเป็นวิทยาการใหม่เป็นทางเลือกเพิ่มได้.

………………………
ดร.โอ สุขุมวิท 51

คลิกอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่