ป่วยพิการ ไร้งาน ไร้เงิน ไร้อาหาร

เราจะไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกนี้ได้เลย ถ้าเราไม่ได้อยู่ตรงจุดนั้น

ชีวิตที่แสนลำบากต้องดิ้นร้น ต้องปากกัดตีนถีบ เพื่อความอยู่รอด

สัปดาห์นี้ “เสือสมุทร” มีเรื่องราวของป้ากับลุงที่มีชีวิตแสนลำบาก ที่ได้รับน้ำใจจากกู้ภัยช่วยเหลือ

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 ก.ค. เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเคียนซา จ.สุราษฏร์ธานี ไปพบเห็นภาพของลุงอายุประมาณ 65 ปี กำลังเข็นรถ โดยมีคุณป้า อายุประมาณ 55 ปี ภรรยา พิการเดินไม่ได้นั่งในรถเข็น ตัวคุณลุงเองนั้นสะพายกระเป๋าแบกของพะรุงพะรัง อยู่บนถนนเอเซีย 41 สุราษฏร์ธานี-นครศรีธรรมราช เขตพื้นที่ อ.พรแสง จ.สุราษฏร์ธานี

ด้วยหน้าที่ผนวกกับจิตวิญญาณกู้ภัย พบคนเดือดร้อนต้องช่วยเหลือ จึงจอดรถลงไปสอบถามทราบว่า สองคุณลุงคุณป้า มีภูมิลำเนาอยู่ อ.บาบอน จ.นครศรีธรรมราช โดยคุณลุงนั้น ได้เข็นรถวีลแชร์พาคุณป้า ซึ่งเป็นภรรยา พิการเดินไม่ได้ พูดคุยไม่รู้เรื่องคล้ายคนวิกลจริง เพื่อมารักษาตัวที่ รพ.สราญรมย์ อ.พุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี แต่หลังจากแพทย์ตรวจวินิจฉัยระบุว่า คุณป้าปกติดี ไม่ได้วิกลจริตหรือบ้า ทาง รพ. จึงไม่รับไว้รักษา คุณลุงจึงเข็นคุณป้าเดินเท้ากลับที่พักที่ อ.นาบอน ระยะทางเกือบ 150 กม.

ตลอดระยะเวลากว่า 4 วันที่ทั้งสองเข็นรถมุ่งข้ามจังหวัด ไม่ได้กินอะไร เรียกว่า อาหารตกไม่ถึงท้องเลย ทั้งคู่ได้กินแต่น้ำตามก๊อกน้ำริมถนนประทังชีวิต

ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย รู้ถึงความลำบากที่น่าสงสารของสองลุงป้า ได้แจ้งความประสงค์ขอไปส่งสองลุงป้า โดยจะนำรถเข็นขึ้นรถกู้ภัยไปด้วย

ในตอนแรกนั้นคุณป้าไม่ยอมไปอ้างว่าเป็นรถบรรทุกศพ ได้แต่ส่ายหัวปฏิเสธการช่วยเหลือไปมา เจ้าหน้าที่พยายามอธิบายว่า รถกู้ภัยเป็นรถที่ใช้สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณะภัย พร้อมกับนำอาหารและน้ำดื่มมาให้ลุงป้ากินประทังความหิวโหย

คุณลุงก็บอกว่า “เหนื่อยมาก หิว หมดแรง คงจะเข็นต่อไปไม่ถึงเป้าหมายแน่” และในที่สุดคุณป้าเองก็จำใจยินยอมขึ้นรถกู้ภัยฯ กุศลศรัทธาเคียนซา ให้พาตัวเองและคุณลุงคู่ชีวิตไปส่งยังที่พักใน อ.นาบอน

ระหว่างทาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ไลฟ์สดเรื่องราวของลุงกับป้าผ่านโซเชียล จนมีผู้ใจบุญแจ้งความประสงค์บริจาคเงินช่วยทั้งคู่จำนวนหนึ่ง ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้แวะซื้อนม แพมเพิส ข้าวสาร ปลากระป๋อง ให้กับสองลุงป้า จำนวนหนึ่ง

ทราบต่อมาอีกว่า ปกติแล้วลุงกับป้าเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ส่วนที่พักที่กู้ภัยฯ ไปส่งนั้นเป็นที่พักในสวนทุเรียนที่บุตรสาวของลุงกับป้า มาทำงานรับจ้างดูแลเฝ้าสวนทุเรียนให้กับนายจ้าง และลุงป้าคงจะขออาศัยอยู่ได้ชั่วคราวเท่านั้น ในส่วนของลูกเขยเองก็ได้ปฏิเสธไม่ยอมรับให้ลุงกับป้าอาศัยอยู่ด้วย ให้เหตุผลว่า “ทั้งสองคลอดลูกแล้วไม่เคยเลี้ยงดูเลย ทิ้งๆ ขว้างๆ ให้ลูกสาวอยู่อย่างยากลำบาก และรอดตายเติบโตมาได้อย่างน่าเวทนา เมื่อถึงคราวเจ็บป่วยไข้ขึ้นมากลับมาขอความช่วยเหลือ”

เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เมื่อได้ฟังก็เข้าใจเรื่องราวของชีวิตลุงกับป้าได้เป็นอย่างดี ก่อนบอกกับลูกเขยว่า ขอให้ทั้งสองอาศัยอยู่สักระยะหนึ่ง และอย่าไปทุบตี อย่าขับไล่ไสส่งคนทั้งสองเลย หากวันไหนไม่ต้องการให้ลุงป้าอยู่ด้วยขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่กุศลศรัทธาเคียนซา จะมารับไปอยู่บ้านพักผู้ยากไร้คนไร้ที่พึ่ง จ.สุราษฏร์ธานี ต่อไป

มากกว่าน้ำใจที่ช่วยเหลือ ยังเป็นผู้ให้อีกด้วย ฉะนั้น “กู้ภัยฯ กุศลศรัทธาเคียนซา” จึงสมควรได้รับการยกย่องอย่างแท้จริง.

…………………………………………………..
คอลัมน์ “เรื่องราวดีๆ ของสังคม”
โดย “เสือสมุทร”
ขอบคุณข้อมูล “ไพฑูรย์ อินทศิลา” ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จ.นครศรีธรรมราช
อ่านเรื่องราวดีๆ ของสังคม ได้ที่นี่..